23 ม.ค. เวลา 09:36 • การเมือง

โกงได้เพราะกฎหมายเอื้อ…

ผมจะเขียนเรื่องพวกนี้ทุกครั้งที่มีข่าวนะ
จะเขียนจนกว่ามันจะได้รับการแก้ไขนั่นแหละ
…แต่คงยาก จนผมตายมันก็คงไม่แก้กันหรอก…
…เพราะมันคือช่องทางทำมาหากินของคนดีเขา…
ในฐานะคนทำธุรกิจก่อสร้าง
เรามักถูกมองจากสังคมเสมอ ว่าเรานี่แหละโกง
ชอบเอาเงินไปยั่วให้คนดีๆเขาโกง
ครับ ค่านิยมสังคมไทย ข้าราชการคือคนดี
นักธุรกิจคือคนเลวเสมอ
ผมก็ไม่รู้ว่าใครไปสร้างวิธีคิดแบบนี้ไว้
ทั้งที่ความจริงมันตรงข้ามเลย
ในเมืองไทย มันมีกฎหมายประเภทหนึ่ง
จัดเป็นระเบียบทางธุรการของภาครัฐ
ก็พวกหนังสือขออนุญาตต่างๆ การตรวจสอบ
อะไรพวกนี้ ซึ่งมันค่อนข้างเยอะมากกว่าชาวบ้านในสากลโลก
กฎหมายประเภทนี้ มีลักษณะเฉพาะ แบบที่ภาษากฎหมาย
เขาเรียกกันว่า “ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณ ของเจ้าพนักงาน”
มันมีทุกหน่วยงานครับ ตั้งแต่ตำรวจ ยันข้าราชการพลเรือน
ความหมายแบบบ้านๆคือ จะถูกจะผิด อยู่ที่เจ้าหน้าที่
กฎหมายลักษณะนี้ ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ค่อนข้างมาก
เลยกลายเป็นที่มาของการทุจริตในวงราชการมากที่สุด
…แบบเบาะๆเบสิคก็พวกเทศบาล สายตรวจ…
…แบบเทพๆหน่อย ก็คือลักษณะหนังสือขออนุญาตนี่แหละ…
คนไม่รู้ความ โลกสวย มักบอกว่า
“จ่ายก็เพราะจะโกงล่ะสิ….”
ช่างเป็นคำพูดที่ไร้เดียงสา อนุบาลยิ่งนัก
พูดโง่ๆ! คนทำธุรกิจใครมันจะอยากจ่ายเพิ่มต้นทุนฟะ
ปัญหาคือมันต้องจ่าย เพราะโดนบีบทุกทางต่างหาก
แบบกรณีที่เกิดขึ้น คือหนังสือขออนุญาตก่อสร้าง
ซึ่งอันนี้เนี่ย ข้าราชการกินกันเป็นล่ำเป็นสันมานานแล้ว
ผมว่าถ้าเอามาแฉกันจริงๆ อาจเป็นการโกงที่มีมูลค่า
มากที่สุดแบบหนึ่งในประเทศไทยเลยด้วยซ้ำ
เพราะจะผ่านไม่ผ่าน ได้ใบมาหรือไม่
มันขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่รัฐอย่างเดียวเลย
ในกรณีว่าแบบผิด มันก็โอเคแหละ ว่าเจ้าหน้าที่
มีสิทธิ์ตีกลับให้คนยื่นไปแก้ อันนี้เขาทำหน้าที่ถูกต้อง
แต่ปัญหาที่เกิดส่วนมาก คือ แบบมันไม่ได้ผิด
เนื่องจากทั้งวิศวกรและสถาปนิกนั้น ต้องทำให้ถูกอยู่แล้ว
โดยธรรมชาติ ไม่งั้นมีปัญหา ก็โดนเพิกถอนใบวิชาชีพ
…หมายความว่า การออกแบบนั้น มีการทำโดยรอบคอบอยู่แล้วโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านซึ่งมีวิชาชีพรองรับตามกฎหมาย
คำถามคือ มันจำเป็นแค่ไหน ที่เจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งบ่อยครั้ง
มีวุฒิภาวะ หรือสถานะความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพต่ำกว่า
มาประเมินอย่างละเอียดอีกครั้ง แล้วใช้เวลามากมาย?…
( วรรคสุดท้ายหมายถึงเจ้าหน้าที่ส่วนมากเลย
จะมีประเภทของใบวิชาชีพต่ำกว่า คนที่เขียนแบบไปเสนอ
และในทางปฏิบัติ เจ้าหน้าที่เหล่านี้ มักไม่เคยผ่านหน้างาน
ก่อสร้างขนาดใหญ่เสียด้วยซ้ำไป )
มันจึงมาถึง สิ่งที่หลายคนไม่เข้าใจ
ว่าทำไมถ้าทำถูกแล้ว จึงต้องจ่ายใต้โต๊ะ
หลายคนเข้าใจผิดมาก ว่าคนยื่นอยากจ่าย
เพื่อความเร็ว หรือเพื่อซิกแซกบางอย่าง
มันถูกครึ่งเดียว คือส่วนของความเร็ว
แต่ไม่ใช่ความเร็วในลักษณะว่า ให้เร็วจนไม่ตรวจสอบ
แต่หมายถึง จ่ายให้มันหยิบขึ้นมาพิจารณาเสียที !
ตามระเบียบราชการแล้ว การยื่นขออนุญาตก่อสร้าง
กฎหมายกำหนดว่า จะต้องรู้ผลใน 45 วัน
บ่อยครั้ง ที่เจ้าหน้าที่จะไม่ทำอะไรเลย
จนเหลือสักสี่ห้าวัน แล้วก็ค่อยมาบอกว่ามีปัญหา
หรือเรียกสอบถาม เรียกเอกสารเพิ่มเติม
…เพื่ออะไรล่ะ ก็เพื่อจะรับประทานไง !…
เพราะเมื่อใกล้ครบกำหนด ก็หมายถึงว่า ถ้าเขาไม่ให้ผ่าน
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด มันก็ต้องยื่น แล้วนับใหม่อีก 45 วัน
และตามกฎหมายแล้ว การจ้างเขียนแบบรวมยื่น
ระยะเวลาที่เจ้าของโครงการ ที่จะมีให้ผู้ออกแบบ
ในขั้นตอนการยื่น ก็คือ 45 วันเท่านั้น
ถ้าเกินจากนี้ ส่วนมากค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ก็คือผู้ออกแบบ
ต้องรับผิดชอบ…
และตัวเจ้าของอาคารเอง ก็มักมีภาระดอกเบี้ยธนาคาร
ที่รันอยู่ตลอดเวลา อย่างน้อยก็ปีละ 6%
หมายความว่า ถ้าเขากู้มา 10 ล้าน เขาเสียปีละ หกแสน
หรือราวเดือนละ ห้าหมื่น
ถ้าเขาช้าไปสามเดือน จากการยื่นสองรอบ
เพราะเจ้าหน้าที่ดึงก็เท่ากับเขาเสียแล้วแสนห้า
แน่นอน เจ้าของโครงการเขาเสียประโยชน์
เขาก็ต้องมาบี้เอากับคนออกแบบ หรือผู้รับเหมา
ซึ่งส่วนมากเป็นผู้รับมอบอำนาจไปยื่น
ผู้รับเหมาก็ซวยสิครับ ลนลาน ยังไม่นับว่า
ตัวผู้รับเหมาเองก็ต้องมีภาระที่จะต้องจ่ายแรงงาน
ที่เตรียมไว้สำหรับโครงการ ยิ่งนานก็ยิ่งจ่ายมาก
…เจ้าหน้าที่ ทราบเรื่องพวกนี้ดี ว่าทั้งผู้รับเหมา
และเจ้าของบ้านรอไม่ได้ เทคนิคการดึงแบบนี้
จึงเป็นการบีบให้มีคนเสนอผลประโยชน์
หรือเขาเสนอเรียกรับได้คล่องมือ โดยมีไพ่เหนือกว่า
ผู้ยื่นขอและเจ้าของบ้านนั่นเอง ….
และนี่ คือลักษณะของการโกงแบบที่เป็นข่าว
เพราะหากแบบผิด แล้วเขาไม่ปล่อยผ่าน
มันก็คงไม่โดนจับแบบนี้หรอก….
แล้วพวกคนดี ก็ไม่ต้องมาโลกสวย ว่าร้องเรียนได้
ใช่ครับ ร้องเรียนได้
แต่ถามว่าได้อะไร ใครเสียหายล่ะ
…ร้องไป หน่วยงานรัฐก็ตั้งกรรมการสอบ
…แล้วใครล่ะ กรรมการ ? ก็พวกเดียวกัน แล้วได้อะไร….
การร้องนอกจากจะไม่ได้อะไร
สิ่งที่ตามมาคือโครงการโดนแขวนรอการสอบ
ซึ่งแบบนี้ทคนเสียหายมันก็คือผู้รับเหมา และเจ้าของบ้าน
คือไม่ว่าจะไม่จ่ายแต่แรกจนโดนดึงเรื่อง
หรือจะร้องจนโครงการโดนแขวน
สุดท้ายคนซวย ก็คือเจ้าของงานเองทั้งนั้น
…แล้วใครจะร้องล่ะ นอกจากรวยเหลือๆ แล้วแค้นจริงๆ…
จากกรณีสมมุติ คิดสิ ว่าถ้าเจ้าของบ้านเขาต้องเสียดอก
เพราะโดนดึงเรื่องแสนห้า ถ้าเจ้าหน้าที่เสนอ ขอห้าหมื่น
เขาจะอยากจ่ายตัดรำคาญไหมล่ะ ?
…ไม่โลกสวย แล้วถามตัวเองดูครับ ว่าถ้าเป็นคุณ จะทำยังไง…
ในความเป็นจริงแล้ว จุดมุ่งหมายของการให้เจ้าหน้าที่
ตรวจสอบแบบก่อสร้างนั้น ไม่ได้มีสาระหลักที่ตัวงาน
วิศวกรรมหรือสถาปัตยกรรมมากนัก
เพราะส่วนนี้ เป็นความรับผิดชอบของวิชาชีพที่เซ็น
รับรองตามกฎหมายอยู่แล้ว
คือ เขาอาจดูในระดับหนึ่ง แต่ไม่ใช่หน้าที่ ที่จะต้องไปคำนวณ
ใหม่อะไรแบบนั้น เพราะจะอย่างไร รายการคำนวณทางวิศวกรรมมันก็มีวิชาชีพรับรองอยู่แล้ว
จุดประสงค์หลัก คือให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
ความถูกต้องในแง่ของ พรบ.อาคารเสียมากกว่า
เช่น ระยะร่นต่างๆ แนวเขตถูกต้องหรือไม่ เป็นต้น
ซึ่งว่ากันตามเนื้องานแบบนี้ มันแป๊ปเดียวนั่นแหละครับ
บ้านหลังไม่ใหญ่มาก ไม่กี่ชั่วโมงก็เสร็จ
แต่ก็นั่นแหละ เขาก็พยามๆดึง
เพราะรู้ว่าเขาอาจหาประโยชน์ได้นั่นเอง….
…ซึ่งบ่อยครั้ง ตัวเจ้าหน้าที่เอง อาจไม่อยากทำหรอก
…แต่ “เขา” สั่งให้หาเงิน มันจึงต้องทำ….
ความน่าขำที่สุดของเรื่องนี้คือ
งานเล็กๆ มักไม่สร้างปัญหา
แต่ไอ้งานใหญ่ๆ ที่เจ้าหน้าที่ควรตรวจสอบเข้มงวด
กลับสร้างปัญหาเสมอ เข่น พวกคอนโด ห้างสรรพสินค้า
โรงแรม พวกนี้มีปัญหาหมด แต่ก็ผ่านมาได้
เพราะอะไร คงไม่ต้องบอกนะครับ
แล้วขอบอกว่า จ่ายตอนขอสร้างรอบแล้วมันไม่จบนะ
ในกรณีอาคารเพื่อการพาณิชย์ หรืออาคารสาธารณะต่างๆ
ยังต้องมาปวดกะโหลกกับเจ้าหน้าที่จะให้อนุญาตในการใช้
อาคารอีกรอบ หรือไม่ก็เป็นเจ้าหน้าที่ตรวจรับต่างๆ
…ผมบอกได้เลย ว่างี่เง่าพอกันกับตอนขอนั่นแหละ…
และที่เขาทำแบบนั้นได้ ก็เพราะกฎหมายมันเอื้อให้โกงนั่นเอง
และอย่าหวังเลย ว่าใครจะแก้ปัญหาพวกนี้
หรือแก้กฎหมายที่อาศัยวิจารณญาณเจ้าหน้าที่ต่างๆได้
เพราะนี่แหละ ข้าวชามโตของระบบเลย
ใครเดินเตะโดนกัดหมด มันเลยไม่มีนักการเมืองที่ไหนกล้า
…เพราะแท้จริงแล้ว พรรคการเมืองที่ใหญ่ที่สุด
ทรงพลังที่สุดในเมืองไทย ก็คือพรรคข้าราชการนั่นเอง…
2
ในการเมืองไทย ใครแตะหรือพยายามปรับระบบราชการ
…ในประวัติศาสตร์ ไม่เคยมีใครจบสวยครับ…
…ดูเถอะ แค่พูดว่าเป็นนโยบาย ชนะเลือกตั้งยังกระเด็นเลย…
1
…เขาใหญ่จริงๆนะจะบอกให้ เพราะงี้ มันถึงโกงกันสนุกไง…
ปล. งานวิศวกรรมโครงสร้างในต่างประเทศปัจจุบัน
หลายประเทศที่เขาเจริญแล้วขอเพียง
รายการคำนวณจากโปรแกรมที่ได้มาตรฐาน แล้วไม่มี
การแจ้ง Error ในโปรแกรม เขาก็ให้ผ่านแล้วครับ
การขออนุญาตจึงเร็วมาก
มีไทยนี่แหละ เจ้าหน้าที่อัจฉริยะ เก่งกว่าคอมพิวเตอร์ 555
โฆษณา