24 ม.ค. เวลา 04:00 • ข่าวรอบโลก

รัสเซียโหด ทรมานเชลยศึกยูเครน

“ตอนพวกเขาทรมาน ผมจะปิดตา ร่างอาจอยู่ตรงนี้ แต่ใจล่องลอย โบยบินไปหาคนที่ผมรัก”
.
สื่อวอลสตรีท เจอร์นัล มีสกู๊ปชิ้นพิเศษ เกี่ยวกับเชลยศึกสงคราม หรือทหารยูเครนที่ยอมแพ้และถูกรัสเซียจับกุมตัวไปนานหลายปี ก่อนจะได้รับอิสรภาพ จากการประสานแลกนักโทษระหว่างสองชาติ พวกเขาได้กลับบ้านแล้วบอกเล่าเรื่องราวผ่านมา
ที่มีแต่ความโหดเหี้ยม และการไม่ยอมจำนน
.
รัสเซียรุกรานยูเครน ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2022 ก็เกือบ 3 ปีแล้ว ที่โศกนาฏกรรมนี้ยังไม่จบสิ้น ทีแรกใครก็คิดว่ายูเครนคงแหลกเละ
ปรากฎว่าพวกเขาทนเกินคาด ต้านทานการบุก ตีแผ่ความห่วยแตกของทหารรัสเซีย ที่ไม่อาจยึดกรุงคีฟ เมืองหลวงยูเครนได้ และถอยร่น ตายกันระนาว
.
ก่อนจะเข้าเรื่อง อยากจะเล่าถึงปัญหาของกองทัพรัสเซียก่อน ประเทศนี้มีการเกณฑ์ทหาร และผลที่ได้คือทหารเกณฑ์จำนวนมากห่วยแตก มีนายทหารสัญญาบัตรไม่เพียงพอรับรองกองทัพที่มหาศาล ทหารประทวน หรือพวกจ่าที่จำเป็นในระบบกองทัพ เพราะจะเป็นตัวประสานระหว่างทหารสัญญาบัตรกับทหารผู้ปฏิบัติงาน มีน้อยมาก
.
เมื่อเป็นแบบนี้ มันก็ส่งผลต่อการบังคับบัญชา เวลามีทหารเกณฑ์ใหม่มา พวกเขาใช้ทหารเกณฑ์รุ่นก่อนหน้าฝึกรุ่นใหม่ ผลคือ มันไม่ได้ประสิทธิภาพ
.
สิ่งสำคัญก็คือ ทหารรัสเซียนั้น มีอัตราการขโมยทรัพย์สินกันเองสูงมาก ข้อมูลของนิวยอร์ก ไทมส์ที่ทำสกู๊ปตีแผ่เรื่องนี้เผยว่า ทหารสัญญาบัตรที่ย้ายมา ต้องเจียดเงินตัวเองซื้อทรัพย์สินบางอย่าง ทดแทนของที่ถูกลักไป เพื่อจะพบว่านายๆ นี่แหละตัวการเอาไปเลย (ฮา)
.
นอกจากนี้ระบบทหารรัสเซียนั้นสืบทอดจากกองทัพสหภาพโซเวียต ซึ่งมีการรวมศูนย์มาก เรื่องบางอย่างที่ทหารระดับปฏิบัติงานตัดสินใจได้ กลับต้องถูกส่งไปให้นายร้อยพิจารณาก่อน จุดนี้แตกต่างจากการฝึกของกองทัพตะวันตก ที่ให้อำนาจบัญชาการบางอย่างแก่นักรบซึ่งอยู่หน้างานไปเลย ไม่ต้องให้หัวหน้าตัดสินใจ
.
ข้อดีก็คือหากพวกนายทหารระดับร้อยตรีถูกฆ่าหมด จ่าหรือพวกนายสิบก็ยังทำการรบต่อไปได้
.
แต่เมื่อรัสเซียไม่เป็นแบบนั้น เลยเกิดปัญหาประสิทธิภาพ ที่เห็นได้จากการรุกรานยูเครน เช่นการบุกยึดสนามบินในกรุงคีฟ ช่วงวันแรกของการบุก ซึ่งหน่วยรบพิเศษรัสเซีย จะโดดรบลงมา โดยไม่มีกำลังทางอากาศคุ้มครอง ซึ่งชาติที่ทำแบบนี้ได้ คืออเมริกา ตอนบุกยึดอิรัก
.
อย่างไรก็ดีผลลัพธ์ของเรื่องนี้แตกต่างกัน ของอเมริกาสำเร็จ แต่ของรัสเซีย ทหารโดดลงมา เจอกองทัพยูเครนเป่าตายอยู่ข้างถนน ยึดสนามบินไม่ได้ และส่งผลต่อการรุกรานที่ชะงัก จนต้องถอยร่นคาราคาซังกันแบบนี้
.
ทหารในกองทัพรัสเซียจำนวนมาก ไม่มีใครอยากไปรบในยูเครน เพราะหากใครโดนสั่งให้ไป ก็การันตีว่าไม่รอดแน่ ซึ่งก็มีข้อมูลว่า ทหารรัสเซียนั้นตายในสงครามวันละเป็นพัน รวมแล้วหลายหมื่น
.
กระนั้นเพราะชาติกว้างใหญ่ จึงระดมประชาชนไปรบได้เรื่อยๆ แถมตอนนี้ก็พึ่งนักรบเกาหลีเหนือ ที่ถอยไม่เป็น บู๊แหลก สร้างความตะลึงให้กับยูเครนอย่างมาก เพราะแม้จะดูเปิ่นๆ ในช่วงแรก แต่ตอนนี้ทหารเกาหลีเหนือ เริ่มเข้าใจว่าต้องรบอย่างไร ในสภาพอากาศและสมรภูมิอย่างนี้
.
ดังนั้นหากพวกนี้รอดชีวิตกลับไป ก็คงได้ประสบการณ์การรบให้แก่ประเทศเกาหลีเหนือของผู้นำตระกูลคิมอย่างแน่นอน
.
แม้รัสเซียจะล้มเหลวในการยึดยูเครน แต่พวกเขายังมีทรัพยากรมหาศาล ที่จะมาป้อนรบกับยูเครนได้เรื่อยๆ นั่นทำให้ตอนนี้ มันจึงมีความคิดเรื่องการหยุดยิงเจรจาสันติภาพกันแล้ว โดยทางโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีอเมริกาได้ตั้งนายพลเกษียณมาดูแลเรื่องนี้ให้สำเร็จ ลุล่วงใน 100 วัน
.
แต่เกจิทั้งหลายเชื่อว่าไม่สำเร็จหรอก และรัสเซียคงไม่สนใจ เพราะถ้าจะหยุดยิง ผู้นำรัสเซียอย่างวลาดิเมียร์ ปูตินต้องคุยกับทรัมป์เท่านั้น และพระเจ้าซาร์องค์ใหม่ รู้วิธีรับมือประธานาธิบดีอเมริการายนี้ว่าต้องทำอย่างไร ที่จะยื้อการรุกรานต่อไปเรื่อยๆ
.
กระนั้นทรัมป์วันนี้ ไม่เหมือนคนเมื่อวาน ที่ปูตินสนิทสนมแล้ว เพราะไม่กี่วันนี้เอง ทรัมป์เพิ่งโจมตีปูตินเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ที่ไปรบในยูเครนจนสร้างความเสียหายให้กับรัสเซียเอง และเตือนว่าหากไม่หยุดการรุกาน จะยกระดับมาตรการคว่ำบาตรรุนแรงกว่าเดิมด้วย
.
นี่จึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากว่าความสัมพันธ์ระหว่างประธานาธิบดีอเมริกากับผู้นำตลอดชีพของรัสเซีย จะเป็นอย่างไรต่อไป
.
คาดกันว่าปูตินอาจจับมือแน่นแฟ้นกับจีน เกาหลีเหนือและอิหร่านให้มากกว่าเดิม เพราะเป็นชาติแนวเดียวกัน คือปกครองระบอบเผด็จการอยู่แล้ว จะไปหวังพึ่งทรัมป์นั้น คงจะไม่ได้ เนื่องจากเอาแน่เอานอนสักอย่างยังยาก
.
ทั้งหมดนี้จึงพอสรุปได้ว่า ภาพรวมของการรุกรานยูเครนของรัสเซียในปีนี้ จะดำเนินไปอย่างไร หยุดรุกรานนั้นเกิดแน่ แต่แค่เวลาไหนเท่านั้น เพราะรัสเซียก็รุกคืบทีละนิด ส่วนยูเครนก็ยันไม่ค่อยไหว แต่ถามว่ามันจะโดนกองทัพปูตินยึดหมดไหม
.
หากเป็นไปตามที่เล่ามา กองทัพรัสเซียก็ด้อยประสิทธิภาพไม่พอจะยึดยูเครนได้หมด พูดง่ายๆ ว่า ต่อให้รบชนะ (จริงๆ) ก็ปกครองไม่ได้
.
สถานการณ์เลยยันกันไปกันมาแบบนี้
.
และผลกระทบทั้งหมด ก็จะเกิดแก่ประชาชนทั้งปวง ไม่ว่าจะยูเครนหรือรัสเซีย
.
ความแตกต่างก็คือทางทหารรัสเซียนั้น เมื่อโดนจับเป็นเชลย จะได้รับการปฏิบัติดีกว่าเชลยศึกยูเครนหลายพันเท่า ทางยูเครนให้เหตุผลว่าต้องการให้ทหารรัสเซียที่โดนจับแล้วถูกแลกตัว กลับประเทศ จะได้ไปบอกเล่าต่อครอบครัวเพื่อนฝูงว่าอีกฝ่ายดูแลพวกเขาดีแค่ไหน ก่อนจะพยายามโน้มน้าวให้สังคมรัสเซียเห็นว่า การบุกรุกยูเครนนั้น ไม่ชอบธรรมมากๆ เลิกรบเถอะ
.
เป็นเหตุผลที่เข้าท่าทีเดียว
.
หากถามว่าได้ผลไหม ก็พิจารณาได้ว่ามีทหารรัสเซียจำนวนหนึ่งหนีทัพ บางส่วนก็รบแบบไม่ตั้งใจ เพราะหนีไปไหนไม่ได้ เนื่องจากหนังสือเดินทางถูกยึดไว้ในตู้เซฟของค่ายทหาร
.
ตรงข้ามกับทหารยูเครนที่โดนจับนั้น พวกเขาเจอสิ่งที่เลวร้ายกว่ามาก ดังเช่นเรื่องราวของนักรบรายหนึ่ง ซึ่งเคยเรียนวิชาทหารจากอเมริกา และถูกจับกุมเมื่อกลางเดือนเมษายน ปี 2022 ขณะการรุกรานเพิ่งเริ่ม โดยตัวเขานั้นสู้ในเมืองมาริอูโปล ซึ่งกองทัพยูเครนยันทหารรัสเซียอยู่หมัด แต่สุดท้ายก็ขอยอมแพ้ เพื่อลดความสูญเสียของเพื่อนร่วมรบ แม้หลายคนจะอยากสู้ต่อก็ตาม
.
ส่วนเหตุผลที่ไม่อยากยอมแพ้ ก็เพราะพวกเขารู้ว่า ถ้าโดนจับเป็นโดยทหารรัสเซีย สิ่งที่น่ากลัวจะตามมา และมันรุนแรงยิ่งกว่าความตายด้วยซ้ำไป
ทหารยูเครนรายนี้เล่าว่า เขาถูกจับทรมาน ถูกสั่งให้เปลือยกายท่ามกลางคุกที่หนาวเย็น โดนกระทืบ โดนซ้อมจนอาการสาหัส ถูกสายโทรศัพท์รัด ถูกชอร์ต ซึ่งพวกสายโทรศัพท์เหล่านี้ ผู้คุมของรัสเซียเรียกว่า สายโทร.ของปูติน
.
ความเจ็บปวดที่อดีตเชลยศึกได้รับนั้นรุนแรงมาก เขาบาดเจ็บเกือบตาย ที่สำคัญคือพวกรัสเซียทรมานให้เขาสารภาพว่าได้ก่อเหตุฆาตกรรมประชาชนบริสุทธิ์ ทั้งที่เขาไม่ได้ทำ
.
ทีแรกเขาพยายามอดทน ไม่จำนน ระหว่างที่ถูกโบยตี ก็พยายามคิดถึงคนรัก ให้กายอยู่กับที่ แต่ตัวลอยละล่อง
.
มีอยู่วัน เขาได้รับจดหมาย เมื่อเปิดออก พบเป็นจดหมายของภรรยา มันมีกลิ่นน้ำหอมโชยมาด้วย
.
“ตอนนั้นผมนั่งเงียบไปเกือบครึ่งชั่วโมง และปลุกใจตัวเองว่า พวกเราจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด”
.
แต่สุดท้ายการทรมานนี้ ก็เกินกว่าที่เขาจะได้รับ อาหารไม่เคยพอ เครื่องนุ่งห่มไม่อาจกันหนาว หลายครั้งอดีตเชลยรายนี้ ต้องยอมอดถึงหลายมื้อ เพื่อสะสมอาหารให้เพียงพอ จะได้กินทีเดียว
.
เขาอยู่ในคุกนานกว่า 2 ปี ทำให้เจ้าตัวไม่รู้วันเวลาข้างนอก สิ่งที่ทำได้คือ หากมีอาหารเข้ามา ก็รู้ว่าเป็นตอนเย็น แต่ถ้าจะคาดการณ์ว่าจุดไหน เป็นกลางวันกลางคืน ก็ต้องเอาน้ำในแก้ว วางไว้ใกล้แสง แล้วดูเงาเอา
.
การถูกคุมขัง ไม่เพียงกายที่ทรุดโทรม น้ำหนักที่ลดลง แต่จิตใจก็ย่ำแย่ ได้เห็นเพื่อนร่วมรบตายอย่างสลด เพราะไม่มีหมอรักษา มันเลวร้ายยิ่งกว่าขุมนรกใดในโลกอีก
.
หลายรายพยายามคุยกับตัวเอง บางคนเลี้ยงหนู แล้วแอบไม่ให้ผู้คุมเห็น เพื่อต้องการมีมิตรในห้องขังแสนวิปลาส
.
สุดท้ายอดีตเชลย รับสารภาพ ในข้อหาที่อีกฝ่ายยัดมา จะทำอะไรก็เอาเลย ยังไงมันก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว นั่นทำให้เจ้าหน้าที่เรือนจำมาบอกเขาภายหลังว่า ศาลได้ตัดสินให้ติดคุก 29 ปีด้วยกัน
.
ช่างมัน เขาคิด มันไม่มีผลใดๆ ทั้งสิ้นแล้ว
.
โดยช่วงเวลาที่เจ็บปวดและมืดมน นักรบรายนี้ คิดถึงและจินตนาการว่าได้อยู่ภรรยา
.
“ในหัวผมนั้น ตัวเองกับภรรยาได้เดินทางไปเที่ยวหลายที่รอบโลก”
.
วันหนึ่ง ผ่านไปหลายปี เขาได้รับจดหมายฉบับที่สองจากภรรยา มันย้ำเตือนให้เขาอดทนไว้
.
นี่คือคำแนะนำที่ดีสุด ชายคนนี้ทำตามคำสั่งเป็นอย่างดี
.
และแล้วนานหลายร้อยวัน เขาถูกปลุกจากผู้คุม ให้เก็บของ และพาตัวขึ้นรถ พร้อมเพื่อนๆ นักรบ นั่งรถไฟ ต่อด้วยรถทัวร์ ก่อนถูกลำเลียงมาที่ชายแดนยูเครน ที่นั่นเขาเห็นพวกทหารรัสเซียที่โดนจับเดินสวนไป
.
“พวกเอ็งโดนทรมานอะไรบ้าง” อีกฝ่ายเย้ยหยัน
ทหารยูเครนปริปากเงียบ
.
และที่สุดพวกเขาก็ได้พบเพื่อนร่วมชาติที่รอรับ ไม่ได้เป็นเชลยศึกอีกต่อไปแล้ว
.
หลังจากรักษาตัว เขาก็ได้กลับบ้าน ไปกอดภรรยาสุดที่รัก ได้เห็นบ้านเกิด ได้เห็นความงามงดแห่งแผ่นดินนี้ และได้รื้อฟื้นพละกำลัง พร้อมทั้งขอบคุณความหวัง
.
แต่บาดแผลจากการถูกทารุณกรรมในคุกยังปรากฎอยู่ เขายังปวดหัวอยู่เป็นประจำ และสูญเสียการได้ยินไปบางส่วน กระนั้นเจ้าตัวยืนยันว่ารอยสักที่ทหารรัสเซียพยายามจะทำลาย แต่ไม่สำเร็จ จะได้รับการไปสักเพิ่ม เพื่อย้ำเตือนว่า เขาเป็นทหารเพื่ออะไร สู้เพื่อสิ่งใด
.
หากไร้ซึ่งเสรีภาพ และเอกราช ก็ขอตายเสียดีกว่า
.
ทหารยูเครนไม่ยอมจำนน ไม่ยอมแพ้ แม้จะถูกทำลายเพียงใด พวกเขาจะสู้จนกว่าจะหมดลมหายใจ
.
เจ้าตัวบอกกับนักข่าว หลังได้รับการปล่อยตัว ตะวันส่องลงมา แดดห่มคลุม คนรักโอบกอด สายลมพัดผ่าน มากด้วยความรู้สึกภายใน ก่อนจะกลั่นออกมาเป็นประโยคว่า
.
“ตอนนี้ผมรู้แล้วว่า กลิ่นของอิสรภาพ เป็นอย่างไร”
//
โฆษณา