23 ม.ค. เวลา 20:21 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

สรุปรายชื่อผู้เข้าชิงออสก้าร์ ครั้งที่ 97 – “Emilia Pérez” ชิงสูงสุด 13 รางวัลจาก 12 สาขา

เมื่อวานนี้เวลา 20.30 น.ที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทยทางสถาบันศิลปะและวิทยาการด้านภาพยนตร์ (AMPAS) หรือ Academy ได้ทำการประกาศรายชื่อผู้เข้าชิง รางวัลออสก้าร์ครั้งที่ 97 ออกมาเป็นที่เรียบร้อยทั้ง 23 สาขาครับ
โดยกลายเป็นว่า “Emilia Pérez” หนังมิวสิคัลอาชญากรรมสุดเหวี่ยงของผู้กำกับ ฯ ฌาคส์ อูเดียด์ ซึ่งสร้างกระแสมาตั้งแต่เวทีคานส์เมื่อกลางปีที่แล้ว ก็สามารถประวัติศาสตร์ ด้วยการเป็นภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษที่เข้าชิงได้สูงสุดถึง 13 รางวัล จาก 12 สาขา แซงสถิติที่ “Crouching Tiger, Hidden Dragon” (2000) และ “Roma” (2018) เคยทำไว้ด้วยการเข้าชิง 10 รางวัล
นั่นรวมถึง สาขา ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม รวมถึงสาขานักแสดงอย่าง นักแสดงนำหญิง, สมทบหญิงยอดเยี่ยม และสาขา เพลงประกอดยอดเยี่ยม ที่ “El Mal” และ “Mi Camino” สามารถเข้าชิงได้ถึงสองเพลง รวมถึงสาขาเทคนิคอื่นอีก 6 สาขา
ต่อมาเป็น หนังมหากาพย์ชีวิตของผู้กำกับ ฯ เบรดี้ คอร์เบต์ อย่าง “The Brutalist” ที่เข้าชิงมากถึง 10 สาขา รวมถึง ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และเป็นตัวเก็งในสาขาอย่าง ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม, กำกับภาพยอดเยี่ยม และ ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม รองลงมา ก้เป็นหนังมิวสิคัลขวัญใจมหาชนของ ฯ ผู้กำกับ ฯ จอน เอ็ม. ชู อย่าง “Wicked” ได้ชิงมากถึง 10 สาขา รวมถึงสาขา นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม และ นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม
ด้าน หนังชีวประวัติบ็อบ ดีแลน “A Complete Unknown” ก็เข้าชิงมากถึง 8 สาขา และสร้างความประหลาดใจได้ด้วยการเข้าชิง สาขา ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และ นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม ถัดมาเป็น หนังระทึกขวัญศาสนา “Conclave” ที่เข้าชิงมากถึง 6 สาขาเช่นกัน
รองลงมาเป็น “Dune: Part Two” ของเดอนี วิลเนิฟว์ กับ “The Substance” หนังสยองขวัญของกอราลี ฟาร์ฌาต์ ที่เข้าชิงได้ 5 สาขา ถัดมาเป็น หนังสยองขวัญของโรเบิร์ต เอ็กเกอร์ส อย่าง “Nosferatu” ที่เข้าชิง 4 สาขา
และขณะที่ปีนี้ เป็นปีที่คอหนังชาวไทยส่วนใหญ่ ต่างส่งแรงเชียร์ให้กับ “หลานม่า” ได้เป็น 1 ใน 5 ภาพยนตร์ที่เข้าชิงสาขา ภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยม ซึ่งถึงแม้จะไม่ได้ชิงก็ตาม แต่กลายเป็นว่า หนังสัญชาติบราซิลอย่าง “I’m Still Here” กลายเป็นหนังม้ามืด ที่เข้าชิงได้มากถึง 4 สาขา รวมถึง สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และ นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม อีกด้วย
ซึ่งในสาขา นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม นี้เอง ก็มี เฟอร์นานดา ตอร์เรส จาก “I’m Still Here” ที่เพิ่งชนะลูกโลกทองคำมาหมาด ก็เข้าชิงในสาขาการแสดงเดียวกันกับที่แม่ของเธออย่าง เฟอร์นานดา มอนเตเนโกร เข้าชิงจาก “Central Station” ในปี 1999 รวมถึง ยังเป็นประวัติศาสตร์สำหรับ คาร์ลา โซเฟีย กาสคอน จาก “Emilia Pérez” ที่เป็นนักแสดงทรานส์คนแรก ที่ได้ชิงสาขาเดียวกันนี้อีกด้วย
นอกเหนือจากนี้ แอนิเมชันฟอร์มเล็ก สัญชาติลัตเวีย อย่าง “Flow” ก็สามารถสร้างประวัติศาสตร์เป็นตัวแทนจากประเทศลัตเวียที่เข้าชิงออสก้าร์เป็นครั้งแรก และสามารถเข้าชิงได้ถึง 2 สาขา คือ สาขาภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยม และ ภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยม
ทั้งนี้ออสก้าร์ครั้งนี้ ก็ยังเต็มไปด้วยผู้เข้าชิงครั้งแรกมากมาย ทั้งสาขานักแสดงอย่าง เซบาสเตียน สแตน, ไมกี้ เมดิสัน, เดมี มัวร์, เฟอร์นานดา ตอร์เรส, ยูรา บอริซอฟ, เคียราน คัลกิน, เจเรมี สตรอง, โซอี้ ซาลดานา, โมนิก้า บาร์บาโร่ และ อารีอาน่า กรานเด
ออสก้าร์ครั้งที่ 97 จะประกาศผลใน วันที่ 2 มีนาคม 2025 (ตรงกับบ้านเราในเช้าวันที่ 3 มีนาคม) โดยปีนี้งานประกาศจัดขึ้นที่โรงภาพยนตร์ Dolby Theatre
รายชื่อผู้เข้าชิงทั้งหมดอยู่ด้านล่างนี้ครับ
ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
– “Anora”
– “The Brutalist”
– “A Complete Unknown”
– “Conclave”
– “Dune: Part Two”
– “Emilia Pérez”
– “I’m Still Here”
– “Nickel Boys”
– “The Substance”
– “Wicked”
ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
– ฌอน เบเกอร์ จาก “Anora”
– เบรดี้ คอร์เบต์ จาก The “Brutalist”
– เจมส์ แมนโกลด์ จาก “A Complete Unknown”
– ฌาคส์ อูเดียด์ จาก “Emilia Pérez”
– กอราลี ฟาร์ฌาต์ จาก “The Substance”
นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม
– เอเดรียน โบรดี้ จาก “The Brutalist”
– ทิโมธี ชาลาเมต์ จาก “A Complete Unknown”
– โคลแมน โดมิงโก้ จาก “Sing Sing”
– ราล์ฟ ไฟน์ส จาก “Conclave”
– เซบาสเตียน สแตน จาก “The Apprentice”
นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม
– ซินเธีย เอริโว จาก “Wicked”
– คาร์ลา โซเฟีย กาสคอน จาก “Emilia Pérez”
– ไมค์กี้ เมดิสัน จาก “Anora”
– เดมี มัวร์ จาก “The Substance”
– เฟอร์นาดา ตอร์เรส จาก “I’m Still Here”
นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม
– เคียราน คัลกิน จาก “A Real Pain”
– ยูรา บอริซอฟ จาก “Anora”
– เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน จาก “A Complete Unknown”
– กาย เพียร์ซ จาก “The Brutalist”
– เจเรมี สตรอง จาก “The Apprentice”
นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม
– โมนิก้า บาร์บาโร่ จาก “A Complete Unknown”
– อาเรียนา กรานเด จาก “Wicked”
– เฟลิซิตี้ โจนส์ จาก “The Brutalist”
– อิซาเบลลา รอสเซลลินี จาก “Conclave”
– โซอี้ ซาลอาน่า จาก “Emilia Pérez”
บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม
– ฌอน เบเกอร์ จาก “Anora”
– เบรดี้ คอร์เบต์ และ โมน่า ฟาสต์โวลด์ จาก “The Brutalist”
– เจสซี ไอเซนเบิร์ก จาก “A Real Pain”
– มอริทซ์ ไบน์เดอร์, ทิม เฟลฮ์บอม และ อเล็กซ์ เดวิด จาก “A Real Pain”
– กอราลี ฟาร์ฌาต์ จาก “The Substance”
บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม
– เจมส์ แมนโกลด์ และ เจย์ ค็อกส์ จาก “A Complete Unknown”
– ปีเตอร์ สตอว์น จาก “Conclave”
– ฌาคส์ อูเดียด์ ร่วมด้วย โธมัส ไบด์เกน, ลีอา มิซเชียส และ นิโคลัส ลิเวชชี จาก “Emilia Pérez”
– ราเมลล์ รอสส์ และ จอสลินน์ บาร์นส จาก “Nickel Boys”
– คลินต์ เบนท์ลีย์, เกร็ก เควดาร์, แคลเรนซ์ แม็คลิน และ จอห์น ‘ดีไวน์ จี’ วิทฟิลด์ จาก “Sing Sing”
ภาพยนตร์แอนิเมชั่นยอดเยี่ยม
– “Flow”
– “Inside Out 2”
– “Memoir of a Snail”
– “Wallace & Gromit: Vengeance Most Fowl”
– “The Wild Robot”
ภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยม
– “I’m Still Here” จาก บราซิล
– “The Girl with the Needle” จาก เดนมาร์ก
– “Emilia Pérez” จาก ฝรั่งเศส
– “The Seed of the Sacred Fig” จาก เยอรมณี
– “Flow” จาก ลัตเวีย
ภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม
– “Black Box Diaries”
– “No Other Land”
– “Porcelain War”
– “Soundtrack to a Coup d’Etat”
– “Sugarcane”
ภาพยนตร์สารคดีสั้นยอดเยี่ยม
– “Death by Numbers”
– “I Am Ready, Warden”
– “Incident”
– “Instruments of a Beating Heart”
– “The Only Girl in the Orchestra”
ภาพยนตร์สั้นยอดเยี่ยม
– “A Lien”
– “Anuja”
– “I’m Not a Robot”
– “The Last Ranger”
– “The Man Who Could Not Remain Silent”
ภาพยนตร์แอนิเมชั่นสั้นยอดเยี่ยม
– “Beautiful Men”
– “In the Shadow of the Cypress”
– “Magic Candies”
– “Wander to Wonder”
– “Yuck!”
ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม
– เดเนียล บลัมเบิร์ก จาก “The Brutalist”
– โวลเกอร์ เบอร์เทลแมนน์ จาก “Conclave”
– คลีมองต์ ดูคอล และ คามิลล์ จาก จาก “Emilia Pérez”
– จอห์น พาวเวลล์ และ สตีเฟ่น ชวาร์ทซ จาก “Wicked”
– คริส บาวเออร์ส จาก “The Wild Robot”
เพลงประกอบยอดเยี่ยม
– “El Mal” จาก “Emilia Pérez”
– “The Journey” จาก “The Six Triple Eight”
– “It Never Went Away” จาก “Sing Sing”
– “Mi Camino” จาก “Emilia Pérez”
– “Never Too Late” จาก “Elton John: Never Too Late”
ตัดต่อผสมเสียงยอดเยี่ยม
– “A Complete Unknown”
– “Dune: Part Two”
– “Emilia Pérez”
– “Wicked”
– “The Wild Robot”
ออกแบบงานสร้างยอดเยี่ยม
– “The Brutalist”
– “Conclave”
– “Dune: Part Two”
– “Nosferatu”
– “Wicked”
กำกับภาพยอดเยี่ยม
– ลอว์ ครอว์ลีย์ จาก “The Brutalist”
– เกร็ก เฟรเซอร์ จาก “Dune: Part Two”
– พอล กีโลม จาก “Emilia Pérez”
– เอ็ด ลัคแมน จาก “Maria”
– จาริน บลาสคี จาก “Nosferatu”
แต่งหน้าและทำผมยอดเยี่ยม
– “A Different Man”
– “Emilia Pérez”
– “Nosferatu”
– “The Substance”
– “Wicked”
ออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม
– “A Complete Unknown”
– “Conclave”
– “Gladiator II”
– “Nosferatu”
– “Wicked”
ตัดต่อภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
– ฌอน เบเกอร์ จาก “Anora”
– เดวิด ยานโช่ จาก “The Brutalist”
– นิค อีเมอร์สัน จาก “Conclave”
– จูเลียตต์ เวล์ฟลิ่ง จาก “Emilia Pérez”
– ไมร่อน เคอร์สไตน์ จาก “Wicked”
เทคนิคพิเศษด้านภาพยอดเยี่ยม
– “Alien: Romulus”
– “Better Man”
– “Dune: Part Two”
– “Kingdom of the Planet of the Apes”
– “Wicked”
โฆษณา