Stellantis หมายปั้นแบรนด์ DS สู่ตลาดรถหรูชั้นเดียวกับ Rolls-Royce และ Bentley
DS Automobiles แบรนด์รถยนต์สัญชาติฝรั่งเศสในเครือ Stellantis ได้ประกาศเป้าหมายใหม่อันยิ่งใหญ่ที่จะยกระดับจากแบรนด์ใกล้พรีเมียม (near-premium) สู่การเป็นแบรนด์รถยนต์หรูระดับไฮเอนด์ เทียบเท่า Rolls-Royce และ Bentley โดยมุ่งเน้นไปที่การออกแบบที่โดดเด่นและคุณภาพภายในระดับสูง แทนที่จะเน้นยอดขายในปริมาณมาก
DS เริ่มต้นในปี 2009 ในฐานะแบรนด์ย่อยของ Citroen ก่อนแยกตัวออกมาในปี 2014 และตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา DS ยังคงดิ้นรนเพื่อสร้างตัวตนในตลาดพรีเมียม
แม้จะมีความพยายามเจาะตลาดรถยนต์ระดับกลางเพื่อแข่งกับแบรนด์เยอรมันอย่าง BMW และ Audi แต่ยอดขายยังไม่เข้าเป้า โดยในปี 2022 DS ขายได้เพียง 37,480 คัน ลดลง 22% เมื่อเทียบกับปีก่อน
สำหรับเป้าหมายใหม่ DS หวังจะเลื่อนชั้นสู่ตลาดรถหรูระดับสูง และเปรียบเป้าหมายของตนเองเหมือนการเป็น "Louis Vuitton แห่งอุตสาหกรรมยานยนต์"
Thierry Metroz หัวหน้าฝ่ายออกแบบของ DS ระบุว่ารถรุ่น DS No8 คือตัวแทนของวิสัยทัศน์ใหม่ของแบรนด์ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากความประณีตและคุณภาพที่พบในรถยนต์ของ Bentley มากกว่ารถเยอรมันอย่าง Audi หรือ Volkswagen
Metroz กล่าวถึงความหรูหราภายในของ DS No8 ว่า: “การออกแบบภายในของเรามุ่งเน้นคุณภาพของวัสดุและรายละเอียดที่หรูหรา ไม่ใช่ความเรียบง่ายแบบเยอรมัน แต่เป็นแรงบันดาลใจจาก Bentley หรือ Rolls-Royce”
แม้ DS จะมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ แต่ Metroz ยอมรับว่าแบรนด์ยังอายุน้อยมากเมื่อเทียบกับคู่แข่งรายใหญ่ การสร้างแบรนด์รถหรูระดับโลกอาจใช้เวลาถึง 10-20 ปี
นอกจากนี้ การพัฒนารถยนต์ที่มี "ความรู้สึกหรูหรา" จากโครงสร้างร่วมกับแบรนด์ในเครือ Stellantis ยังเป็นเรื่องที่ท้าทาย อย่างไรก็ตาม Metroz เชื่อว่าการปรับปรุงชิ้นส่วนสำคัญ เช่น การลดความสูงหลังคา และการขยับตำแหน่งกระจกหน้า จะช่วยสร้างอัตลักษณ์ที่โดดเด่นให้กับ DS ได้
ในขณะเดียวกัน เขายังตำหนิผู้ผลิตรถยนต์จีนว่ามักคัดลอกการออกแบบจากแบรนด์ดังอย่าง Porsche และ Tesla โดย DS จะมุ่งเน้นการออกแบบที่ "ทรงพลังและมีตัวตน" เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
