Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Wealthy Thai
•
ติดตาม
เมื่อวาน เวลา 06:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ICHI หุ้นเครื่องดื่มปันผลสูงสุดในกลุ่มฯ คาดงวด Q4/67 ให้ผลตอบแทนกว่า 4.5%
สำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาหุ้นที่ให้ปันผลดี โดยเฉพาะในงวดผลประกอบการครึ่งหลังปี 2567 นี้ หุ้นเครื่องดื่มอย่าง ICHI หรือ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) อาจเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าบริษัทจะให้ผลตอบแทนสำหรับงวดไตรมาส 4/67 ถึง 4.5% อีกทั้งยังยกให้เป็นหุ้นเครื่องดื่มที่ปันผลสูงสุดในกลุ่มฯ อีกด้วย
โดย ICHI เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มชาเขียวพร้อมดื่ม “อิชิตัน กรีนที” เครื่องดื่มสมุนไพร “เย็น เย็น โดยอิชิตัน” และมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิภายหลังการหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและการจัดสรรทุนสำรองตามกฎหมาย
ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุว่า ปัจจุบัน ICHI มีมูลค่าตามราคาตลาด (Market Cap) อยู่ที่ 17,290 ล้านบาท และมี P/E อยู่ที่ระดับ 12.39 เท่า (ข้อมูล ณ วันที่ 23 ม.ค. 68) โดยราคาหุ้นวันที่ 23 ม.ค. 68 อยู่ที่ 13.30 บาท ปรับตัวลดลง 13.07% ในรอบ 6 เดือน และมี Dividend Yield อยู่ที่ระดับ 7.52%
ทั้งนี้ ในรอบผลประกอบการปี 2567 บริษัทจ่ายปันผลไปแล้ว 1 ครั้ง (1 ม.ค. - 30 ก.ย. 67) ในอัตราหุ้นละ 0.60 บาท ซึ่งในงวดผลประกอบการไตรมาส 4/67 นักวิเคราะห์จากนักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดการณ์ว่า ICHI จะจ่ายปันผลในอัตรา 0.60 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) ราว 4.5%
ส่วนแนวโน้มในปี 2568 ฝ่ายวิเคราะห์คาด ICHI จะจ่ายปันผลรวมทั้งปีเพิ่มขึ้นเป็น 1.28 บาทต่อหุ้น คิดเป็น Dividend Yield ประมาณ 9.6% นอกจากนี้ยังมองว่า ICHI เป็นหุ้นปันผลสูงที่สุดในกลุ่มเครื่องดื่มด้วย
ด้านทิศทางผลประกอบการไตรมาส 4/67 ฝ่ายวิเคราะห์คาดว่ากำไรปกติจะอยู่ที่ 278 ล้านบาท ลดลง 5.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนและลดลง 22.3% จากไตรมาสก่อนหน้า ต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้ก่อนหน้า เนื่องจากเป็นช่วง Low season รวมถึงอากาศที่หนาวกว่าปกติและสถานการณ์น้ำท่วมในบางพื้นที่ส่งผลให้ยอดคำสั่งซื้อชะลอตัวลง
ขณะที่แนวโน้มการเติบโตของรายได้ปี 2568 ฝ่ายวิเคราะห์มองเชิงบวกน้อยลง เนื่องจากอุปสงค์สินค้ากลุ่มเครื่องดื่มทั้งในไทยและประเทศกลุ่ม CLMV ซึ่งเป็นกลุ่มรายได้หลักของบริษัท อาจถูกกดดันจากการเข้าสู่ช่วงลานีญา (La nina) ที่จะส่งผลให้อากาศเย็นลงเทียบกับปี 2567 อย่างไรก็ตามคาดว่ารายได้จะยังสามารถเติบโตได้ในระดับไม่ต่ำกว่า 5% จากปีก่อน หนุนจาก
1) การรับรู้กำลังการผลิตใหม่ โดยเพิ่มขึ้น 13% จากปีก่อน ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนม.ค. 2568 ทำให้บริษัทสามารถกลับมาผลิตสินค้าให้ลูกค้ากลุ่ม OEM ได้อีกครั้ง หลังจากในปี 2567 มีการชะลอการผลิตลง เนื่องจากกำลังการผลิตที่จำกัด และ 2) การเร่งทำการตลาดโปรโมทสินค้ากลุ่ม Non-tea มากขึ้นทั้ง “น้ำด่าง” และ “เย็น เย็น” ซึ่งประมาณการรายได้ของฝ่ายวิเคราะห์ยังต่ำกว่าเป้าหมายของบริษัทที่ระดับ 10% จากปีก่อน
ด้านอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ในปี 2568 คาดยังสูงขึ้นได้เล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี 2567 แม้ถูกกดดันจากการรับรู้ค่าเสื่อมที่สูงขึ้นจากการขยายำลังการผลิต หนุนจากการปรับตัวลงของราคาต้นทุนการผลิตทั้งราคาน้ำตาล และราคาเม็ดพลาสติก
นอกจากนี้ฝ่ายวิเคราะห์ยังประเมินว่าราคาน้ำตาลมีโอกาสปรับตัวลงต่อตามราคาน้ำตาลโลกที่ยังมีแนวโน้มเป็นขาลงอย่างต่อเนื่อง โดยเป็น Upside ที่ยังไม่รวมในประมาณการของฝ่ายวิเคราะห์ ซึ่งสุทธิแล้วทำให้ปรับประมาณการกำไรปี 2567 ลง 7.3% เป็น 1,409 ล้านบาท เติบโต 6.9% จากปีก่อน จากการปรับสมมติฐานรายได้ลงเพื่อเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” และให้ราคาเหมาะสมใหม่ที่ 18.30 บาท โดยราคาหุ้นปัจจุบันยังซื้อขายบน PER ปี 2568 เพียง 12.3 เท่า
การลงทุน
เศรษฐกิจ
หุ้น
บันทึก
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย