24 ม.ค. เวลา 12:48 • บันเทิง

90ล้านเยนกับเรื่องอื้อฉาว ที่ทำให้อนาคตที่มอดไหม้

“นากาอิ มาซาฮิโระ” (Nakai Masahiro) อายุ 52 ปี พิธีกรชื่อดังระดับประเทศ และสมาชิกวงบอยแบนด์แห่งชาติ SMAP ที่มีนักแสดงอันดับหนึ่งของญี่ปุ่นอย่าง “ทาคุยะ คิมูระ” เป็นสมาชิกร่วมวง
ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการบนเว็ปไซต์ส่วนตัว “ประกาศรีไทร์ออกจากวงการบันเทิง นับตั้งแต่วันที่ 23ม.ค.68 เป็นต้นไป”
และนั่นเท่ากับว่า....หลังจากนี้เป็นต้นไป จะไม่มีใครได้เห็น อดีตไอดอลชื่อดังผู้นี้ ซึ่งปัจจุบัน ปรากฏตัวในรายการโทรทัศน์ถึง 5 รายการ และรายการวิทยุอีก 1 รายการ อีกต่อไป!
ถึงแม้ว่า ตั้งแต่เมื่อวันที่ 22ม.ค.68 เป็นต้นมา รายการทั้งหมดที่ว่านี้ จะได้ดำเนินการยกเลิกสัญญา รวมถึงตัดภาพการปรากฏตัวของเขา ก่อนนำออกอากาศแล้วทั้งหมดก็ตาม
อะไรที่นำมาซึ่งจุดจบ...ในเส้นทางวงการบันเทิงที่ยืนยาวของ “นากาอิ มาซาฮิโระ” น่ะหรือ?
คำตอบก็คือ.... เงินค่าเยียวยามูลค่า 90 ล้านเยน! (19,524,960ล้านบาท) เงินมากมายก่ายกองขนาดนี้ เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่างไร “เรา” ค่อยๆไปพิจารณาข้อมูลเหล่านี้ร่วมกัน…
เรื่องอื้อฉาวกับเหล่าหญิงสาว :
19ธ.ค.67 นิตยสาร Josei Seven ซึ่งเป็นสื่อแนวรายงานข่าวซุบซิบวงในและเรื่องอื้อฉาวของเหล่าคนดังในประเทศญี่ปุ่น ออกมาเปิดเผยว่า อดีตไอดอลและพิธีกรชื่อดังระดับประเทศ ยอมจ่ายเงินก้อนมหาศาลถึง 90 ล้านเยน เพื่อยุติข้อพิพาทร้ายแรงกับผู้หญิง
ขณะเดียวกัน สื่อวายร้ายคู่อริของเหล่าไอดอลญี่ปุ่น “นิตยสารบุนชุน” (Shukan Bunshun) ได้รายงานข่าวเพิ่มเติมในประเด็นดังกล่าว โดยสัมภาษณ์หญิงสาวที่ตกเป็นเหยื่อ ที่ระบุว่า ในช่วงปี 2566 มีผู้บริหารของ “สถานีฟูจิ ทีวี” (Fuji Television) วางแผนเชิญ “นากาอิ มาซาฮิโระ” ซึ่งเป็นพิธีชื่อดังของช่อง ไปพบกับเธอ ซึ่งเป็นพนักงานคนหนึ่งของสถานี ในงานปาร์ตี้ที่มีการจัดให้ดื่ม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
อย่างไรก็ดี เมื่อถึงเวลานัดหมาย คนอื่นๆที่ได้นัดหมายกันไว้ก่อนนี้ ต่างพากันยกเลิกนัดกระทันหัน อีกทั้งเมื่อทั้งคู่ได้พบกันจู่ๆ ผู้บริหารคนดังกล่าวที่เหลืออยู่เพียงคนเดียว ก็ยังลุกออกไปจากโต๊ะ เพื่อเปิดโอกาสให้ “นากาอิ มาซาฮิโระ” ได้อยู่กับเธอแบบสองต่อสอง
จนกระทั่ง “เกิดปัญหาร้ายแรงขึ้น” และถึงแม้ว่า จนถึงปัจจุบัน จะยังไม่มีการยืนยันใดๆว่า ปัญหาร้ายแรงที่ว่านี้คืออะไร แต่ก็เชื่อว่าทุกคนก็คงเดาทางกันได้ไม่ยาก (ใช่ไหม?)
และเมื่อผู้สื่อข่าว ได้พยายามสอบถามข้อเท็จจริง ไปยังพิธีกรหนุ่มชื่อดัง คำตอบจากทนายความของเขา ซึ่งแทบไม่ต่างอะไรกับการยอมรับกลายๆว่าเกิดเรื่องอื้อฉาวดังกล่าวขึ้นจริง โดยระบุว่า...
1
“ประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้รับการแก้ไขแล้ว ผ่านการหารือระหว่างทั้งสองฝ่าย และเนื่องจากมีการทำข้อตกลงในการรักษาความลับ จึงไม่อาจให้คำตอบหรือแสดงความคิดเห็นใดๆต่อสาธารณชนได้”
หลังเรื่องอื้อฉาวดังกล่าว กลายเป็นประเด็นร้อนในสังคมญี่ปุ่นมากขึ้นเรื่อยๆ อดีตสมาชิกวง SMAP จึงได้ออกแถลงการณ์ขอโทษต่อสังคมครั้งแรก เมื่อวันที่ 9ม.ค.68 ที่ผ่านมา
แต่อย่างไรก็ดี ถ้อยคำในแถลงการณ์ดังกล่าวประโยคหนึ่ง กลับทำให้สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงกว่าเก่า...
“เนื่องจากได้มีการทำข้อตกลงเรียบร้อยแล้ว ผมจึงสามารถกลับมาดำเนินกิจกรรมต่างๆในวงการบันเทิงต่อไปได้โดยไม่มีปัญหาใดๆ”
และจากประโยคนี้เอง นอกจากจะไม่ได้บรรเทาความร้อนแรงจากเหตุดราม่าที่เกิดขึ้น หนำซ้ำมันยังก่อให้เกิดไฟลามทุ่งตามมา!
เพราะเหล่ามหาชนชาวญี่ปุ่น ต่างรู้สึกไม่ค่อยถูกอกถูกใจนัก กับการกล่าวขอโทษในลักษณะที่ราวกับไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองได้กระทำความผิด แถมยังแทบไม่ได้รู้สึกรู้สาใดๆ กับพฤติกรรมการจ่ายเงินก้อนโต เพื่อหวังปิดปากฝ่ายตรงข้ามเสียด้วย!
และเมื่อไฟดราม่าได้ลุกโหมจนถึงขีดสุด จุดจบในวงการบันเทิงของ “นากาอิ มาซาฮิโระ” จึงมาถึงดังในบรรทัดแรกที่ “เรา” ได้ร่ายยาวไปในช่วงต้น
เรื่องอื้อฉาวกับหญิงสาวที่ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก :
ว่าแต่....เรื่องอื้อฉาวกับหญิงสาวที่เกิดขึ้นนี้ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งแรกกับ อดีตสมาชิกบอยแบนด์แห่งชาติญี่ปุ่นผู้นี้หรือไม่?
1
คำตอบก็คือ...ไม่! เพราะในช่วงปี 2543 “นากาอิ มาซาฮิโระ” เคยต้องเผชิญกับเรื่องอื้อฉาวที่หนักหน่วงกว่านี้มาแล้ว!
1
ครั้งนั้น นิตยสารรายเดือน Uwasa no Shinso รายงานว่า “นากาอิ มาซาฮิโระ” ได้พยายามชักจูงให้หญิงสาวที่แอบคบหากันตั้งแต่เมื่อปี 2539 ไปทำแท้ง ในช่วงเดือนกันยายนปี 2543
1
โดยหญิงสาวซึ่งได้ให้สัมภาษณ์กับ นิตยสาร Uwasa no Shinso ระบุว่า หลังจากฝ่ายชายรู้ว่าเธอตั้งท้อง เขาก็เริ่มเปลี่ยนไป หนำซ้ำทั้งเขาและผู้จัดการส่วนตัว ยังพยายามเกลี้ยกล่อมให้เธอไปทำแท้งหลายต่อหลายครั้งด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเธอยอมลงนามในเอกสารยินยอมให้มีการทำแท้ง “นากาอิ มาซาฮิโระ” ยังย้อนถามเธอด้วยว่า “เขาใช้ชื่อปลอมไม่ได้หรือ?” ก่อนจะยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลที่ภายในบรรจุเงิน 300,000 เยน (64,991บาท) ให้กับเธอ
แต่รู้หรือไม่ว่า? ….. แม้จะเกิดเรื่องอื้อฉาวรุนแรงหนักหน่วงถึงขนาดนี้ แต่ “นากาอิ มาซาฮิโระ” ก็ยังเอาตัวรอดจากสถานการณ์ดังกล่าวมาไ้ด้ นั่นเป็นเพราะในเวลานั้น Johnny & Associates Inc.  (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น ELOV-Label) ซึ่งเป็นบริษัทต้นสังกัดในเวลานั้น มีอิทธิพลเหนืออุตสาหกรรมบันเทิงญี่ปุ่น อย่างชนิดที่เรียกว่า “ทุกคนต้องเกรงใจ” คอยช่วยเหลือเปลี่ยนจากหนักให้กลายเป็นเบา และทำให้เรื่องนี้ค่อยๆเงียบลงได้ในที่สุด
1
แต่สำหรับเรื่องอื้อฉาวล่าสุดนี้ ทุกอย่างได้แปรเปลี่ยนไปแล้ว เพราะสายสัมพันธ์อันเหนียวแน่นของ “นากาอิ มาซาฮิโระ” กับ Johnny & Associates Inc. ที่ออกจากต้นสังกัดมาเป็นศิลปินอิสระในปี 2563 ไม่อาจช่วยบรรเทาเรื่องร้ายๆต่างๆได้อีกต่อไป
นั่นเป็นเพราะ ปัจจุบัน Johnny & Associates Inc. ได้สูญเสียอิทธิพลที่เคยมีจาก ประเด็นปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศ ของผู้ก่อตั้ง “จอห์นนี คิตากาวะ” (Johny Kitagawa) ผู้ล่วงลับ ไปแล้ว
“ด้วยเหตุนี้ แม้ว่าเรื่องราวที่ดูเหมือนจะซ้ำรอยเดิม จึงได้รับผลลัพท์ที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป”
ผลกระทบที่มีต่อฟูจิทีวี :
การถูกผูกโยงว่า มีส่วนร่วมในการเชื้อเชิญฝ่ายหญิงมาพบกับ “นากาอิ มาซาฮิโระ” จนกระทั่งทำให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรง และมีการชดเชยเงินจำนวนมากถึง 90 ล้านเยน ทำให้ ฟูจิทีวี ไม่อาจนิ่งเฉยอยู่ได้
โดยในแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ “โคอิจิ มินาโตะ” (Koichi Minato) ประธานฟูจิทีวี เมื่อวันที่ 17ม.ค.68 ที่ผ่านมาระบุว่า ได้รับทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตั้งแต่เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2566 แต่ไม่อาจเปิดเผยเรื่องนี้ต่อสาธารณชนได้ เนื่องจากเหตุผลต่างๆนานา โดยเฉพาะเรื่องการปกป้องความเป็นส่วนตัวของเหยื่อ พร้อมกับจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว
อย่างไรก็ดี ความพยายามชี้แจงดังกล่าว กลับไม่ได้รับการยอมรับจากชาวญี่ปุ่น ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีการตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ทั้งๆที่รับรู้เรื่องราวดังกล่าวมาตั้งแต่ต้น แต่เหตุใดจึงยังปล่อยให้ “นากาอิ มาซาฮิโระ” ซึ่งเป็นพิธีระดับแม่เหล็กของสถานี กลับยังคงสามารถปรากฏตัวในรายการต่างๆได้ต่อไป รวมถึงยังได้ตั้งคำถามถึง “ความโปร่งใสในการทำงาน” ของ คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงดังกล่าวด้วย
และนั่นเองจึงเป็นผลให้บรรดาสปอนเซอร์รายใหญ่ๆ ค่อยๆขอระงับหรือถอนการสนับสนุนมากเรื่อยๆ จนเป็นผลให้ผู้ถือหุ้นบริษัท Fuji Media Holdings ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของฟูจิทีวี เริ่มแสดงความไม่พอใจต่อการตอบสนองที่ล่าช้าในการดับไฟดราม่าที่เกิดขึ้นจากน้ำมือของ “นากาอิ มาซาฮิโระ” และกลายเป็นแรงกดดันให้ผู้บริหารฟูจิทีวี ต้องทบทวนการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในที่สุด
เพราะถ้าหากยังขืนปล่อยให้เรื่องราวดราม่านี้คาราคาซังต่อไป นักวิเคราะห์ทางการตลาดในญี่ปุ่นเชื่อว่า ฟูจีทีวีอาจต้องเผชิญกับวิกฤตที่ยากจะแก้ไข เพราะชื่อเสียงและรายได้ที่ลดลงจากค่าโฆษณา ย่อมทำให้แรงจูงใจในการดึงดูดนักแสดงชื่อดัง ยอมมาปรากฏตัวที่สถานีลดน้อยลง ขณะเดียวกัน ยังอาจเป็นผลให้โปรเจครายการทีวีต่างๆ ถูกปรับลดงบประมาณจนไม่อาจฉุดรั้งบรรดาผู้ผลิตรายการชั้นนำยอมมาร่วมโปรเจคต่างๆของทางสถานีด้วย
และข้อสุดท้าย ซึ่งเป็นประเด็นที่สำคัญที่สุด เมื่อรายได้ลดลง ย่อมต้องส่งผลต่อพนักงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และนั่นอาจทำให้ พนักงานระดับยอดฝีมือสมองไหลไปยังสถานีโทรทัศน์คู่แข่งก็เป็นได้
อนาคตของอดีตสมาชิกวงบอยแบนด์แห่งชาติ SMAP :
ไม่ต่างจากอดีตไอดอลคนอื่นๆ เมื่อต้องเผชิญกับปัญหาเรื่องอื้อฉาว ผลลัพท์ที่ตามมามักมีราคาแพงเสมอ โดยก่อนหน้านี้ไม่นาน กับกรณีการนอกใจของ “เรียวโกะ ฮิโรสุเอะ” อดีตไอดอลยุค 90 ถูกประเมินว่าอาจต้องจ่ายเงินชดใช้ค่าเสียหายให้กับบรรดาสปอนเซอร์อย่างน้อย 1,000 ล้านเยน (215ล้านบาท)
แต่สำหรับกรณีของ “นากาอิ มาซาฮิโระ” อาจมีตัวเลขที่สูงมากกว่านั้น เพราะในฐานะพิธีกรแห่งชาติ ทำให้มีผลิตภัณฑ์ที่ให้การสนับสนุนมากมาย และหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักยังเป็นยักษ์ใหญ่แห่งวงการธุรกิจญี่ปุ่นอย่าง SoftBank อีกด้วย ซึ่งเฉพาะแบรนด์นี้เพียงแบรนด์เดียว ก็มีการประเมินระดับค่าเสียหายเบื้องต้นที่ต้องชดใช้เอาไว้ที่ 1,000 ล้านเยนแล้ว!
ทั้งนี้ เหตุอื้อฉาวที่นำไปสู่การประกาศรีไทร์จากวงการบันเทิงของ “นากาอิ มาซาฮิโระ” ยังทำให้การรียูเนียนวง SMAP ซึ่งเพิ่งมีประกาศยุบวงอย่างเป็นทางการไปเมื่อปี 2559 กลายเป็นเพียงความฝันที่เกินจะไขว่คว้าไปแล้ว
ทั้งๆที่ แกนหลักคนสำคัญของวงอย่าง “ทาคุยะ คิมูระ” เพิ่งเคยพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ไม่นานว่า “การรียูเนียนที่ทุกคนรอคอย ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้” ก็ตามที
อ่านมาถึงบรรทัดนี้ จากบทความอันแสนยาวยืด “คุณ” มีความคิดเห็นกันอย่างไรบ้าง?
#นากาอิมาซาฮิโระ #ล่วงละเมิดทางเพศ #ทาคุยะคิมูระ #ฟูจิทีวี #NakaiMasahiro #SMAP #ประกาศรีไทร์ #90ล้านเยน #JPOP #OUTFIELDMAN #สำนักข่าวทรัสต์นิวส์ #Trustnews
โฆษณา