12ปีที่ จ.ลำปางขาดหาย นายอำเภอแหวนเพชร "ธนารัฐ สายเทพ" นายอำเภอเมืองลำปาง
12 ปีที่ จ.ลำปาง ขาดหาย #นายอำเภอแหวนเพชร ปี 2567
“ธนารัฐ สายเทพ” นายอำเภอเมืองลำปาง
เป็นที่รู้กันดีในแวดวงฝ่ายปกครองว่า “นายอำเภอแหวนเพชร” คือที่สุดของโครงการคัดเลือกผู้ดำรงตำแหน่งนายอำเภอทั้ง 878 อำเภอ จาก 77 จังหวัดทั่วประเทศ เฟ้นหาผู้มีผลงานโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์เพียงปีละ 5 คน
ที่สำคัญคือเส้นทางในอาชีพการงานของผู้ได้รางวัลนายอำเภอแหวนเพชรแต่ละคน แทบจะการันตีได้ว่าล้วนก้าวหน้าสู่ตำแหน่งสำคัญในกรมการปกครองทั้งสิ้น
ดังนั้น การที่นายอำเภอเมืองลำปาง นายธนารัฐ สายเทพ ได้รางวัลจากโครงการนายอำเภอแหวนเพชร ปี 2567 จึงสะท้อนความสามารถและการปฏิบัติหน้าที่ว่ามีคุณภาพอยู่ในระดับประเทศ
LampangTimes สัมภาษณ์พิเศษนายอำเภอแหวนเพชร 1 ใน 5 ปีล่าสุดของกรมการปกครอง ถึงอุดมการณ์ในการทำงาน ความเป็นมาวัยเด็ก และความคิดในฐานะที่นายอำเภอพื้นเพเป็นคนลำปาง
นายธนารัฐ นายอำเภอเมืองลำปาง คนที่ 50 ภูมิลำเนาเป็นคน อ.แม่ทะ เริ่มต้นบอกเล่าว่าตนเองเป็นคนบ้านๆ เรียนชั้นประถมที่โรงเรียนในหมู่บ้าน มีคุณพ่อเป็นเจ้าหน้าที่ปกครอง และต่อมาเมื่อคุณพ่อได้เป็นปลัดอำเภอจึงถูกปลูกฝังให้รู้จักการทำงานเพื่อประชาชน
“ในใจผมมีไอดอลคือคุณพ่อผม ด้วยท่านเคยเอาผมไปเลี้ยงไปเล่นที่อำเภอแม่ทะ ป้าๆลุงๆที่เลี้ยงเราทำให้เราเห็นภาพว่าวันหนึ่งก็อยากทำงานเหมือนคุณพ่อ” นายธนารัฐ ย้อนอดีตวัยเด็ก
“พอขึ้นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 เข้าโรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย สอบเอ็นทรานซ์ครั้งเดียวคะแนนไม่ถึงก็เลยไปเรียนต่อปริญญาตรีและโทที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง คณะรัฐศาสตร์ ได้ทุนไปเรียนต่อประเทศอังกฤษ ที่มหาวิทยาลัยพอร์ทสมัธ จากสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เป็นคนชอบการเมือง ชอบบริหารการปกครองเป็นต้นทุนอยู่แล้ว พอเราเรียนลึกซึ้งเรารู้สึกว่าตำแหน่งนี้ได้ช่วยเหลือคนได้กว้างขวาง รอบด้านค่อนข้างมาก อยากจะทำตามอุดมการณ์ของตัวเอง
สิ่งหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่คอยสอนผมตลอดก็คือว่า เราทำอะไรก็ขอให้ทำให้เต็มที่แต่ต้องเป็นคนดีและช่วยเหลือสังคมได้” นายอำเภอเมืองลำปาง เล่าให้ฟัง
ในส่วนของโครงการนายอำเภอแหวนเพชรนั้น นายธนารัฐ อธิบายความเป็นมาว่า กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้จัดทำโครงการมายาวนานกว่า 40 ปี คัดผู้ปฏิบัติงานในส่วนภูมิภาคดำรงตำแหน่งนายอำเภอเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ มีผลงานโดดเด่นเชิงประจักษ์ให้ประชาชนในภูมิภาคเกิดความผาสุข นำคำขวัญของกระทรวงมหาดไทยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ที่กรมพระยาดำรงราชานุภาพ องค์ปฐมเสนาบดีกระทรวงมหาดไทยวางรากฐานให้นักปกครองทุกรุ่นได้ยึดเป็นหัวใจของการทำงานสนองนโยบายของรัฐบาล
“โครงการนี้คัดเลือกจากนายอำเภอทั้งประเทศที่เข้ารับการสมัคร ในกระทรวงมหาดไทยทั้งหมด 878 อำเภอ จาก 76 จังหวัด เดิมคัดนายอำเภอระดับภาค ภาคละ 1 คน ภาคเหนือ กลาง อีสาน ใต้และพิเศษอีก 1 แห่งคือ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวม 5 รางวัล ต่อมาปรับใหม่ในพื้นที่ปกติรวมเป็น 4 รางวัล อดีตมีปัญหาว่าบางภาคส่งแค่คนเดียว หรือส่งหลายคนโดยลำดับที่ 2 อาจดีกว่าภาคอื่นที่ได้ลำดับ 1 กองการเจ้าหน้าที่กรมการปกครองจึงปรับเปลี่ยนภาคปกติทั่วประเทศ 4 รางวัล และพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้อีก 1 รางวัล”
“รางวัลนี้เป็นรางวัลที่ค่อนข้างสำคัญมากของกระทรวงมหาดไทย เพราะเป็นรางวัลที่คัดนายอำเภอมาจากทั่วประเทศ จึงโฟกัสว่าแต่ละปีมีใครประกวดเข้าร่วมโครงการนี้บ้างจาก 800 กว่าคน เหลือ 5 คน บางปีมีสมัคร 15 คน ทำไมถึงสมัครกันน้อยบางท่านติดขัดตรงโยกย้ายบ่อยผลงานไม่ต่อเนื่อง บางคนอยู่นานก็อาจมีความพึงพอใจที่หลากหลายต่างบริบทกัน
สำหรับบางคนที่เห็นว่าผลงานตนเองมีคุณูปการต่อประชาชนในพื้นที่ที่ตนเองปกครองอยู่ สามารถนำพาองคาพยพทุกส่วนทั้งภาคเอกชน ภาคีเครือข่ายภาคประชาชนต่างๆ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นรูปธรรมเห็นคุณภาพงานว่าหัวหน้าส่วนราชการเป็นที่พึ่งให้เขาได้” นายอำเภอลำปาง ขยายภาพความสำคัญของโครงการ
เมื่อโครงการนายอำเภอแหวนเพชร เปรียบเหมือนใบการันตีฝีมือและใบผ่านทางสู่ตำแหน่งที่สู่ขึ้นในอนาคต การได้รางวัลนี้จึงสร้างปลื้มปีติให้กับนายธนารัฐ เป็นอย่างยิ่ง
“เป็นความภาคภูมิใจที่สุดในชีวิตของผมที่ได้รางวัลนี้เนื่องจากตนเองอยู่ในส่วนกลาง ผมเคยเป็นเจ้าหน้าที่โครงการนี้เห็นรุ่นพี่นายอำเภอหลายๆท่านประสบความสำเร็จได้รับรางวัลนี้ประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว มีความมุ่งมั่น มีแรงบันดาลใจในการทำงาน มีความก้าวหน้าในชีวิตราชการ ผมนำกลับมาเป็นตัวอย่าง จากนั้นผมก็ตั้งใจทำงานโดยไม่ได้คิดเสียทีเดียวว่าจะต้องล่ารางวัล หรือทำเพื่อรางวัลอย่างเดียว เราทำไปด้วยแรงบันดาลใจของเราเอง เราอินกับมัน เพราะรู้สึกว่าเราเติบโตมาสายงานนี้แล้วไม่ต้องรอใครสั่งการ ไม่ต้องรอใครบังคับ”
“ผมรู้สึกมีคุณค่าทางจิตใจที่ยิ่งใหญ่เพราะว่าผมไม่สามารถทำงานเพียงคนเดียวได้ ในอดีต จ.ลำปาง ก็มีผู้ใหญ่หลายท่านเคยได้รับรางวัลนี้ เช่น ท่านสามารถ ลอยฟ้า อดีตผู้ว่าราชการ จ.ลำปาง ,ท่านมงคล สุกใส รองผู้ว่าราชการ จ.ลำปาง
แต่ไปดูสถิติแล้ว จ.ลำปาง ห่างหายจากรางวัลนี้ไปถึง 12 ปี ตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมาไม่มีใครเป็นตัวแทนจังหวัด ผมรู้สึกประทับใจ ผมเป็นเด็กลำปาง ผมเกิดที่นี่และได้รับรางวัลนี้ทำให้ผมโตที่นี่ เรารู้สึกต้องทดแทนคุณแผ่นดินกับที่นี่อย่างเข้มข้นมากกว่าคนอื่นเขา ผมไม่ได้รับรางวัลนี้ที่อื่น แต่ผมได้รับรางวัลที่อำเภอเมืองลำปางซึ่งมันห่างไป 12 ปี” นายอำเภอเมืองลำปาง เล่าด้วยความภูมิใจ
โดยนายธนารัฐ บอกถึงเหตุผลที่ทำให้สมัครเข้าโครงการคัดเลือกนายอำเภอแหวนเพชร ปี 2567 ว่า
“เราทุ่มเทงานมาแล้วสักระยะหนึ่งพัฒนาด้านความมั่นคง จัดระเบียบสังคม ปราบปรามยาเสพติด พัฒนาคุณภาพชีวิต เปิดโอกาสให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมมากขึ้นเขาสัมผัสกับเราได้ ที่เราเปิดโอกาสในทุกๆมิติเขามีส่วนร่วม สำคัญคือเรานำพาเขาให้ถูกทาง ยกตัวอย่าง เราให้กำนันผู้ใหญ่บ้านไปสำรวจตรวจสอบว่าบ้านใดยังตกเกณฑ์ความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) บ้านใดยังเกณฑ์คุณภาพชีวิตยังไม่ดี ขาดปัจจัยอะไร
เราเปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชนเข้าถึงผู้นำเรา แล้วผู้นำเราต้องลงไปนี่คือการปักหมุดให้ผู้นำท้องที่กำนันผู้ใหญ่บ้านล้อนโยบายต่อจากอำเภอต้องทำเชิงรุกเข้าไปหาชาวบ้านเพื่อเราจะได้ข้อมูลตรงนั้นดีกว่าเขาเดินเข้ามาหาเรา ต้องไม่ทิ้งกลุ่มผู้เปราะบางยากไร้ไว้ข้างหลัง อย่าให้เขามาร้องทุกข์ร้องเรียนด้วยตัวเอง เข้าถึงเขาก่อนเพื่อไม่ให้เขารู้สึกถูกทอดทิ้ง” นายธนารัฐ แจกแจงหลักการทำงานในตำแหน่งนายอำเภอที่เป็นผลงานสามารถนำไปร่วมโครงการของกรมการปกครองจนได้รีวอร์ด
ในขณะที่การทำงานฝ่ายปกครอง ซึ่งบางคนมองว่าเป็นแค่เสือกระดาษอำนาจหน้าที่เพียงบริการประชาชน นายอำเภอเมืองลำปาง กลับไม่คิดเช่นนั้น
“เรามานั่งจุดนี้เป็นที่พึ่งของชาวบ้านได้รับการถูกคาดหวังค่อนข้างสูง เคยมีกระแสว่าจะยุบกำนันผู้ใหญ่บ้าน ยุบตำแหน่งนายอำเภอ เรารู้สึกฉุกคิดว่าเราไม่สำคัญขนาดนั้นเชียวหรือ ต้องทำให้เขาเห็น สิ่งนี้ทำให้เกิดแรงผลักภายในให้ผมขึ้นมาว่าต้องให้ชาวบ้านเห็นแม้เป็นแค่กระแสข่าว มีส่วนราชการนี้ มีตำแหน่งนี้ ก็เป็นที่พึ่งได้ ถ้าวันใดเรายิ่งนิ่งยิ่งเงียบเป็นเหมือนที่เขาว่าจริงเราต้องทบทวนว่าไม่สมควรที่จะมีอยู่ต่อไปใช่หรือไม่”
ถามถึงไอดอลในการทำงาน นายธนารัฐ ตอบชัดเจนว่า นายกฤษฎา บุญราช ,นายชุติเดช มีจันทร์ ,นายสามารถ ลอยฟ้า ทั้ง 3 คนมีลักษณะโดดเด่นบู๊บุ๋นสไตล์การทำงานเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา มุ่งมั่นจริงๆ
“ผู้หลักผู้ใหญ่ที่ผมเห็นประสบความสำเร็จแม้กระทั่งท่านผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางคนปัจจุบัน ท่านชุติเดช มีจันทร์ ก็เคยได้รับรางวัลนี้ หรือ ท่านกฤษฎา บุญราช อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย คนแรกที่จบคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง (สิงห์ทอง) เคยมีนโยบายว่าคนที่ได้รางวัลแหวนเพชรถือว่าเป็นเพชรที่กรมการปกครองคัดมา เป็นคนที่สังคมยอมรับว่ามีฝีมือในการทำงาน
ฉะนั้นก็ควรได้รับการโปรโมตให้ดำรงตำแหน่งต่างๆ การจะได้รับตำแหน่งที่สูงขึ้นก็อาจจะไวกว่าปกตินิดนึง ซึ่งเราก็มีรุ่นพี่รุ่นน้อง อาจไปไวก้าวนึงไม่มาก ไม่ใช่ก้าวกระโดด”
นายธนารัฐ ขึ้นเป็นนายอำเภอครั้งแรกปี 2561 ที่ อ.สบปราบ ดำรงตำแหน่ง 1ปี 4 เดือน ต่อมาปี 2563 ย้ายมาเป็นนายอำเภอเกาะคา เป็นเวลา1 ปี 10 เดือน กระทั่งช่วงต้นปี2565 เดือนกุมภาพันธ์ ย้ายมาอำเภอเมือง
อย่างไรก็ตาม ซิกเนเจอร์ของนายธนารัฐ ตั้งแต่ดำรงตำแหน่งนายอำเภอครั้งแรกคือการจับกุมยาเสพติด ที่เรียกได้ว่าเป็นบทบาทที่โดดเด่น
“บทบาทที่เราโดดเด่นมากคือปราบปรามยาเสพติด ประสบความสำเร็จในการจับยาเสพติดที่ อ.สบปราบ เพราะมีด่านตรวจที่ถูกต้องตามกฎหมาย เป็นคนนำจับยาเองต่อเนื่องมาถึงเป็นนายอำเภอที่เกาะคา ทำ 2 อำเภอสำเร็จ มีคนถามว่าทำไมไม่ทำเกี่ยวกับบทบาทที่มีชุมชนขนาดใหญ่ อำเภอเมืองลำปางมี 11 ตำบล 146 หมู่บ้าน 150 ชุมชน ประชากรเกือบ 2 แสนคน บริบทระหว่างชุมชนเมืองที่มีห้างสรรพสินค้า สถานบันเทิง กับชุมชนชนบท บ้านค่า บ้านเอื้อม บ้านแลง ยังอิงกับภาคการเกษตรคล้ายกับราษฎรของ อ.งาว อ.แจ้ห่ม
ผมก็ยังจะไม่ทิ้งการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดซึ่งผมคิดว่ามันบ่อนเซาะกัดกร่อนสังคมมากเกินไปที่เป็นข่าวว่าลูกหลานที่ติดยาเสพติดมักจะคลุ้มคลั่งทำร้ายร่างกายพี่น้องซึ่งเป็นที่น่ากังวล เราจึงตัดไฟตั้งแต่ต้นลมลดทอนให้มันลงไป ป้องปราม ให้เขาเห็นอำนาจของอำเภอ
ใครไม่เคยเห็นนายอำเภอจับยาก็จะมาเห็นยุคนี้ นายอำเภอทำเรื่องนี้ได้ ซึ่งเมื่อก่อนเป็นหน้าที่ของตำรวจโดยผมได้คุยกับผู้กำกับการ 5 สถานีตำรวจภูธร คือ สภ.เมืองลำปาง สภ.บ้านเอื้อม สภ.เขลางค์นคร สภ.ทุ่งฝาย และ สภ.บ้านเสด็จ เรียนกับผู้กำกับทุกสภ.ว่าผมเคยมีประสบการณ์เรื่องจับยา ถ้ามีเรื่องร้องเรียนตำรวจก็ร่วมจับด้วยกันได้ ถ้าร้องเรียนฝ่ายปกครองเราก็ขออนุญาตนำจับ เป็นส่วนเสริมเติมเต็มกัน
ไม่เคยทะเลาะกับตำรวจ บางครั้งไม่ได้ไปด้วยกันแต่ในชั้นสอบสวนหรือแถลงข่าวเราก็เชิญตำรวจมา พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันเข้าใจในบริบทกัน
มิติการทำงานของอำเภอคือเราต้องได้รับเรื่องโดยตรง บทบาทด้านการพัฒนา บำบัดทุกข์บำรุงสุขมิติอื่นๆตามนโยบายกระทรวงและผู้ว่าราชการจังหวัดยังมีอีกหลากหลาย ตอนนี้ เช่น จดทะเบียนสมรสเท่าเทียม ทำบัตรประชาชนผู้ป่วยติดเตียง สร้างแหล่งน้ำแก้ไขปัญหาภัยแล้ง เมื่อมีเรื่องร้องเรียนบ่อนการพนันหรือยาเสพติดเราก็ต้องมาดูว่าบทบาทไหนที่เราจะเล่นเป็นหน่วยหลัก” นายอำเภอเมืองลำปาง กล่าว
ก่อนจะปิดท้ายบทสนทนา นายธนารัฐ ฝากอวยพรปีใหม่ย้อนหลังให้กับคนลำปางทุกคน
“ในโอกาสวาระดิถีขึ้นปีใหม่ 2568 กระผมนายธนารัฐ สายเทพ นายอำเภอเมืองลำปาง ขออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ที่พี่น้องประชาชนเคารพนับถือ บุญญาบารมีของหลวงพ่อเกษม เขมโก บุญญาบารมีของเจ้าพ่อหนานทิพย์ช้าง บุญญาบารมีของเจ้าพ่อบุญวาทย์ ตลอดจนศาลหลักเมือง รวมถึงพระเจ้าแก้วมรกต วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม วัดพระธาตุลำปางหลวง โปรดอภิบาลประทานพรให้พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดลำปางมีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดี
กระผมปรารถนาเป็นอย่างยิ่งที่จะให้พี่น้องประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีร่วมกันรังสรรค์พัฒนาจังหวัดลำปางบ้านเกิดเมืองนอนของเราให้ดียิ่งขึ้น ให้อนุชนรุ่นหลังคนรุ่นต่อไปได้เห็นว่าพวกเราสร้างสิ่งละอันพันละน้อยเพื่ออนาคต ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์อำนวยอวยพรให้ทุกท่านมีแต่ความสุข สุขสวัสดีตลอดปีใหม่ 2568”
นี่คือคนหนุ่มรุ่นใหม่ นายอำเภอไฟแรง เต็มไปด้วยความตั้งใจและอุดมการณ์ แม้จะนั่งเก้าอี้นายอำเภอเมืองลำปางแต่มุ่งมั่นทำงานเพื่อชาวลำปาง อยากเห็นบ้านเกิดเมืองนอนพัฒนา เป้าหมายคือทำหน้าที่ให้ดีที่สุดไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งอะไร
จดจำชื่อเขาไว้ “ธนารัฐ สายเทพ” เพราะเส้นทางของผู้ได้รางวัลนายอำเภอแหวนเพชร รับรองได้ว่ามีอนาคตไกลแน่นอน
#นายอำเภอเมืองลำปาง
#นายอำเภอแหวนเพชร
#ธนารัฐสายเทพ
#LampangTimes
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
