11 ก.พ. เวลา 03:30 • หนังสือ

"พ่อรวยสอนลูก" ทฤษฏีจากตำรา สู่ปัญหาในโลกความจริง

ในหนังสือ "พ่อรวยสอนลูก" (Rich Dad Poor Dad) ของโรเบิร์ต คิโยซากิ มีการแบ่งคนออกเป็น 4 ประเภทหลักตาม แนวคิดกระแสเงินสด (Cashflow Quadrant) โดยอธิบายว่าผู้คนหาเงินได้จาก 4 ช่องทาง ดังนี้:
  • ​ลูกจ้าง ( Employee - E)
คนที่ทำงานเพื่อเงินเดือนและพึ่งพารายได้จากงานประจำหรือการเป็นพนักงานขององค์กร
- รายได้ขึ้นอยู่กับเวลาและตำแหน่งงาน
- ความมั่นคงขึ้นกับนายจ้าง
  • ​เจ้าของกิจการขนาดเล็ก หรือผู้ประกอบอาชีพอิสระ (Self-Employed - S)
คนที่ทำงานให้ตัวเอง เช่น เจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก ฟรีแลนซ์ หรือผู้ประกอบอาชีพเฉพาะทาง
- เป็นเจ้านายตัวเอง แต่ยังต้องใช้เวลาและแรงงานในการทำงาน
- รายได้จำกัดอยู่ที่ความสามารถและเวลา
  • ​เจ้าของธุรกิจ (Business Owner -B )
คนที่มีระบบธุรกิจและพนักงานทำงานแทน
- มีการสร้างรายได้แบบไม่ต้องใช้เวลาและแรงงานส่วนตัวมากนัก
- ธุรกิจสามารถดำเนินงานได้เองแม้ไม่มีการลงมือทำทุกวัน
  • ​นักลงทุน ( Investor - I )
คนที่ทำให้เงินทำงานแทนตัวเอง โดยการลงทุนในสินทรัพย์ เช่น หุ้น อสังหาริมทรัพย์ หรือธุรกิจ
- รายได้มาจากดอกเบี้ย ปันผล ค่าเช่า หรือผลตอบแทนจากการลงทุน
- สามารถสร้างรายได้แบบ Passive Income
ซึ่งเป้าหมาย คือการย้ายจากฝั่งซ้าย (E และ S) ไปยังฝั่งขวา (B และ I) เพื่อสร้างความมั่งคั่งและความอิสระภาพทางการเงิน โดยการพยายามสร้างรายได้แบบ Passive ที่สามารถสร้างกระแสเงินสดได้อย่างต่อเนื่อง และการสร้างระบบธุรกิจและการจ้างพนักงานเพื่อมาทำงานแทน ไม่ต้องพึ่งพาแรงงานส่วนตัวเป็นหลัก
กระบวนการสร้าง Passive income ที่โรเบิร์ต คิโยซากิ เสนอแนะ ทำโดยผ่านการ
  • ​การใช้เงินผู้อื่นทำงาน (Other people money)
การกู้เงินเพิ่มสร้าง Leverage เพิ่มความสามารถในการซื้อสินทรัพย์
  • ​การสร้างกระแสเงินสด (Cash flow)
การสะสมทรัพย์สินที่สามารถสร้างกระแสเงินสด ผ่านการปล่อยเช่า
  • ​ให้เงินทำงานแทนคุณ ( Make money work for you)
นำกระแสเงินที่ได้จากทรัพย์สินไปจ่ายชำระหนี้สินที่มี ส่วนต่างที่เหลือจึงเป็นกำไร
โดย Concept ที่กล่าวมา หากมองอย่างผิวเผิน อาจฟังดูง่าย เช่น เพียงแค่การกู้มาเพื่อซื้ออสังหาปล่อยเช่า แล้วนำค่าเช่าไปผ่อนคืนเงินกู้ก็พอ แต่หากมองให้ลึกลงไปแล้วจะพบรายละเอียดปลีกย่อยอีกมาก
#ทฤษฎีสู่ชีวิตจริง
ปัญหาที่ต้องพบจริงๆหากคุณคิดจะทำอสังหาปล่อยเช่า ได้แก่
  • ​ค่าเช่าที่ได้ ไม่เพียงพอต่อค่างวดเงินกู้ธนาคาร
  • ​ค่าใช้จ่ายแฝง เช่นค่าซ่อมทำนุบำรุงอาคาร ค่าส่วนกลาง ภาษี
  • ​ความเสี่ยงด้านการตลาด การไม่มีผู้เช่า หรือ ราคาทรัพย์สินที่อาจลดลง (คอนโดเก่าลง)
ซึ่งปัญหาเหล่านี้เป็นสิ่งเราต้องศึกษาให้เข้าใจเพื่อหาแนวทางรับมือที่เหมาะสมต่อไป โดย
  • ​สร้างความสมดุล ระหว่างรายได้และเงินกู้ วางแผนอย่างละเอียดถึงกระแสเงินสดที่ทำได้จริงๆ และเงินค่างวดที่ต้องผ่อนต่อเดือนอย่างเหมาะสม
  • ​รู้จักวางแผนการเงิน มีเงินสำรองฉุกเฉินก่อนวางแผนกู้เงิน
  • ​สำรองเงินเผื่อค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆ ด้วย
  • ​อย่าเร่งลงทุนจนเกินตัว ค่อยๆเริ่มจากเล็กๆก่อน
  • ​ศึกษาการตลาดของอสังหาที่เราจะลงทุนให้เข้าใจก่อนตัดสินใจซื้อ เช่นทำเลที่ตั้งเหมาะสมไหม ความต้องการของผู้เช่าเป็นอย่างไร
  • ​เข้าใจตนเองก่อน เลือกแนวทางการลงทุนที่เหมาะสมกับตนเอง เพราะการสร้าง passive income ไม่ได้มีเพียงการทำอสังหาปล่อยเช่าเพียงเท่านั้น
  • ​การกู้เงินเพื่อ Leverage สามารถทำได้ แต่ต้องวางแผนอย่างรอบคอบ คำนึงถึงความสามารถชำระหนี้ในวงเงินที่เราพอรับได้เสมอ
อิสรภาพทางการเงิน ต้องการความอดทน ความรู้ ความพร้อม ไม่ใช่เพียงความฝัน
Antonio Attorney
อ้างอิง :
โฆษณา