25 ม.ค. เวลา 08:03 • การศึกษา
หากศึกษา เรื่องของการ ..ปล่อยวาง ..ปล่อยวางอะไร ปล่อยวางกาย ปล่อยวางอารมณ์ นำกายมานั่งนิ่งๆ ทำจิตเฉย กายนิ่ง จิตก็นิ่ง เหมือนพระปฏิมากร โดยบังคับกาย ..จิตบังคับกายมานั่งนิ่ง ..ทำเจิตเฉย ..อะไรมันเกิดขึ้น ..ก็นั่งนิ่งๆ อารมณ์อะไรเกิดขึ้นก ปลดเปลื้องออกไปไม่นึกคิดอะไร เวทนาอะไรเกืดขึ้น ก็นั่งนิ่งๆ ฝนั่นคือกรรม มันทุกข์ ก็อย่าไปยึดมัน ทนจะเจ็บปวด นั่นมันเรื่องของกาย
บางคนก็พูดได้ ว่า..ฉันนี้ปล่อยวาง ..เมื่อมามองกิริยาท่าทางกายวาจาใจ ..มันก็เคลื่อนที่ไปตามอารมณ์ที่ปรุงแต่ง ..เพราะอดทน..ต่ออารมณ์ไม่ได้ ยึดอารมณ์นั้นอยู่ จิตมาทำกายนิ่งๆ จิตนิ่งได้ ก็ยึดอารมณ์ยึดทุกข์ที่ ลอยอยู่ในกายนั้น ยึดเอามาเป็นจิต เอาอารมณ์นึกคิดนั่นเป็นจิต
กายมันเจ็บปวดก็อย่าไปยึดมัน นั่นก็คือ การประพฤติปฏิบัติธรรม ปลดเปลื้องทุกข์ออกไป ..แล้วก็เป็นเรื่องราวของจิต ที่สะสมบุญกุศลบารมีมา จิตมีขันติเป็นบารมี ..ทำกายให้นิ่งได้ จิตนิ่งได้ ยิ่งน้อมจิต ปฏิบัติธรรมตามรอยองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า นำกายที่พ่อแม่ให้จิตอาศัย มานั่งนิ่ง กายนิ่ง จิตนิ่งได้ ก็จะเกิดสิ่งที่เรียกว่า ปัญญาธรรม รักกายให้นิ่ง จิตนิ่งได้ ..แต่นอบน้อมนั่งพับเพียบ เมื่อนั่งหน้าพระ ..ปฏิมากรรม พระปฎิมากร ท่านนั่งนิ่งเฉย เราก็นั่งนิ่งๆ เฉย ..นั่งแบบไม่มีทุกข์อะไรบ้าง
เรื่องของการปล่อยวาง ให้จ้ตหมดทุกข์นั่น ..คิดเมื่อไหร่ ก็คือทุกข์ นำพาเกิดแก่เจ็บตาย เกิดมาทีไร ก็ยึดอยู่กับอารมณ์นึกคิด ที่ไม่มีตัวตน ..ก็หลงมันอยู่อย่างนี้ ..ที่ว่า เพราะยึดอารมณ์นึกคิด จึงนำกายไปสร้างแต่กรรม .ให้ธาตุทั้งสี่บันทึกไว้ ว่า เป็นผู้จมอยู่กรรมอยู่กับอารมณ์โลกโกรธหลง ..ลดละไม่ได้เลย
โฆษณา