Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
รายการ ต้นรู้ โลกรู้ BY : Anurak News
•
ติดตาม
25 ม.ค. เวลา 12:20 • ข่าวรอบโลก
พระราชบัญญัติ "คู่ชีวิต" กับการเเปลี่ยนเเปลงของสังคม
วันที่ 24 กันยายน 2567 ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 หรือกฎหมาย #สมรสเท่าเทียม ซึ่งมีเนื้อหารับรองการสมรสระหว่างบุคคล
โดยไม่จำกัดเฉพาะชาย-หญิง อีกต่อไป โดยกฎหมายนี้จะมีผลบังคับใช้เมื่อพ้น 120 นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา หมายความว่า หากมีผู้ประสงค์จะไปจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายใหม่ จะยังไม่สามารถทำได้ทันทีระหว่างที่กฎหมายเพิ่งประกาศใช้ ต้องรอให้ “พ้น” 120 วัน โดยหลักการนับระยะเวลาบังคับใช้กฎหมาย คณะกรรมการกฤษฎีกาเคยชี้แจงว่าต้องนับวันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นวันที่หนึ่ง วันที่ครบ 120 วัน จะเป็นวันที่ 21 มกราคม 2568 ดังนั้น ตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม 2568 เป็นต้นไป กฎหมายแพ่งใหม่จึงจะมีผลใช้บังคับ
อย่างไรก็ดี กระทรวงมหาดไทยซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักชี้แจงว่าพร้อมเปิดให้จดทะเบียนสมรสตามกฎหมายใหม่ วันที่ 23 มกราคม 2568 เนื่องจากยึดแนวทางการนับระยะเวลาบังคับใช้กฎหมายตามศาลยุติธรรม ที่ไม่นับวันแรกรวมเข้าด้วยกัน แต่เริ่มนับวันที่หนึ่งในวันถัดไป ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/3
เปรียบเทียบการเปลี่ยนเเปลงกฎหมายเดิมกับใหม่
เดิมใน ป.พ.พ. กำหนดให้การหมั้น (มาตรา 1435) รวมถึงการสมรส (มาตรา 1448) ทำได้ระหว่างชายและหญิง ที่มีอายุ 17 ปีบริบูรณ์ โดยผู้เยาว์ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ กล่าวคือ อายุไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์ และยังไม่เคยจดทะเบียนสมรสมาก่อน หากประสงค์จะทำการหมั้นหรือการสมรส จะต้องได้รับความยินยอมจากบิดามารดาหรือผู้รับบุตรบุญธรรรมก่อน (มาตรา 1436) อย่างไรก็ดี
ในกฎหมายสมรสเท่าเทียม นอกจากจะแก้ไขเรื่องสำคัญ คือ จากการหมั้นหรือการสมรสที่ทำได้เฉพาะ “ชาย-หญิง” เป็น “บุคคลสองฝ่าย” แล้ว ยังปรับอายุขั้นต่ำในการหมั้นและการสมรสจาก 17 ปีเป็น 18 ปีบริบูรณ์ ทั้งนี้ หากมีเหตุอันสมควร ศาลก็สามารถอนุญาตให้บุคคลสมรสก่อนอายุ 18 ปีได้ เช่น มีฝ่ายหนึ่งที่ตั้งครรภ์ก่อนอายุ 18 ปีและประสงค์จะทำการสมรสกับอีกฝ่าย
โดยการแก้ไขอายุขั้นต่ำในการหมั้นและการสมรส มีเหตุผลเบื้องหลัง คือ ให้เกณฑ์อายุให้สอดคล้องกับอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กที่กำหนดให้ “เด็ก” คือบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี การที่ป.พ.พ. เดิมกำหนดให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปีจดทะเบียนสมรสได้ อีกนัยหนึ่งก็เป็นเหมือนการให้เด็ก (ตามความหมายของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก) สามารถสมรสได้
การเปลี่ยนเเปลงกฎหมายเดิมให้เป็นกฎหมายใหม่ ตามตารางด้านบน
บุคคลวิกลจริตหรือบุคคลที่ศาลสั่งเป็นคนไร้ความสามารถ ไม่สามารถสมรสได้ (มาตรา 1449)
ห้ามสมรสกับญาติสืบสายโลหิตโดยตรงขึ้นไปหรือลงมา พี่น้องร่วมบิดามารดา หรือร่วมแต่บิดาหรือมารดา ความเป็นญาตินี้คำนึงตามสายโลหิต ไม่คำนึงว่าจะเป็นญาติโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ (มาตรา 1450)
ห้ามผู้รับบุตรบุญธรรมสมรสกับบุตรบุญธรรม (มาตรา 1451)
หากผู้รับบุตรบุญธรรมสมรสกับบุตรบุญธรรม การรับบุตรบุญธรรมย่อมเป็นอันยกเลิกไป (มาตรา 1498/32)
ห้ามบุคคลสมรสขณะที่มีคู่สมรสอยู่แล้ว (ห้ามสมรสซ้อน) (มาตรา 1452)
นอกจากข้อห้ามข้างต้นแล้ว กฎหมายยังกำหนดให้การสมรสจะต้องทำโดยที่บุคคลสองคน “ยินยอม” เป็นคู่สมรสกันด้วย และต้องแสดงความยินยอมโดยเปิดเผยต่อนายทะเบียน (มาตรา 1458)
โดยการสมรสกับบุคคลวิกลจริตหรือบุคคลที่ศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ ตามมาตรา 1449 การสมรสกับญาติ ตามมาตรา 1450 การสมรสซ้อน ตามมาตรา 1452 และการสมรส ตามมาตรา 1458 เป็นโมฆะ (มาตรา 1495) คู่สมรสเอง บิดามารดา หรือผู้สืบสันดานของคู่สมรส สามารถร้องขอต่อศาลเพื่อให้พิพากษาว่าการสมรสนั้นเป็นโมฆะได้ (มาตรา 1496 วรรคสอง)
ดังนั้น หากคู่สมรสไม่ได้ยินยอมอยู่ร่วมกัน หรือแอบแฝงจดทะเบียนเพื่อเอาสิทธิประโยชน์หรือสวัสดิการของรัฐ ก็จะส่งผลให้การสมรสนั้นเป็นโมฆะ ผลของการสมรสที่เป็นโมฆะ คือ ไม่ก่อให้เกิดความสัมพันธ์ทางทรัพย์สินระหว่างคู่สมรสนั้น ทรัพย์สินที่ฝ่ายใดมีหรือได้มาไม่ว่าก่อนหรือหลังการสมรสก็ยังเป็นของฝ่ายนั้น ส่วนบรรดาทรัพย์สินที่ทำมาหาได้ร่วมกันให้แบ่งคนละครึ่ง เว้นแต่ศาลจะพิจารณาจากปัจจัยอื่นประกอบ เช่น ฐานะ ภาระในการเลี้ยงชีพ
ใครบ้างที่สามารถจดทะเบียนสมรสได้
สิทธิในการใช้นามสกุลของคู่สมรส : พระราชบัญญัติชื่อบุคคล พ.ศ. 2505 มาตรา 15 กำหนดให้คู่สมรสมีสิทธิใช้นามสกุลของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ หรือจะใช้นามสกุลเดิมของตัวเองได้ นอกจากนี้ คู่สมรสอาจใช้นามสกุลของคู่สมรสอีกฝ่ายเป็นชื่อกลางได้ถ้าหากได้รับความยินยอม (มาตรา 6 วรรคท้าย)
สิทธิในการให้ความยินยอมรักษาพยาบาล : พระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 มาตรา 8 กำหนดหลักการให้ความยินยอมในการรักษาพยาบาล กรณีที่ผู้ป่วยไม่อยู่ในสภาวะที่จะรับทราบข้อมูลสุขภาพเพื่อตัดสินใจรักษาพยาบาล จะต้องแจ้งให้ทายาทโดยธรรมตาม ป.พ.พ. ก่อน ซึ่งคู่สมรสก็เป็นทายาทโดยธรรมตามกฎหมายด้วย (มาตรา 1629 วรรคสอง) นอกจากนี้ในพระราชบัญญัติสุขภาพจิต พ.ศ. 2551
มาตรา 21 วรรคสาม กำหนดว่ากรณีที่ผู้ป่วยขาดความสามารถในการตัดสินใจให้ความยินยอมบำบัดรักษา คู่สมรส บุพการี ผู้สืบสันดาน ฯลฯ สามารถให้ความยินยอมเป็นหนังสือแทนผู้ป่วยได้
สิทธิในการบรรจุเป็นข้าราชการกรณีคู่สมรสเสียชีวิตจากการรบหรือการปฏิบัติหน้าที่ : พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการทหาร พ.ศ. 2521 มาตรา 10/1 กำหนดให้บุตร หรือคู่สมรสที่ไม่ได้สมรสใหม่ หรือบิดามารดาของข้าราชการทหารที่เสียชีวิตเนื่องจากการรบหรือการปฏิบัติหน้าที่ อาจะได้รับสิทธิในการบรรจุหรือแต่งตั้งเป็นข้าราชการทหาร พนักงาน หรือลูกจ้างในหน่วยงานของกระทรวงกลาโหม
สิทธิประโยชน์ตามกฎหมายประกันสังคม
ค่าทดแทนกรณีผู้ประกันตนเสียชีวิต พระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ .2533 มาตรา 73 กำหนดให้ต้องจ่ายเงินค่าทำศพ เงินสงเคราะห์ ให้แก่สามีภริยา บิดามารดา หรือบุตรของผู้ประกันตนประโยชน์ทดแทนกรณีตนเองหรือภริยาคลอดบุตร (มาตรา 65) เช่น ค่าตรวจและรับฝากครรภ์ ค่าบำบัดทางการแพทย์ ฯลฯ (มาตรา 66) เงินสงเคราะห์บุตรกรณีผู้ประกันตนเสียชีวิต มาตรา 75 จัตวา กำหนดให้จ่ายต่อสามีภริยาที่เป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบุตร
บำนาญชราภาพ กรณีผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบมาไม่น้อยกว่า 180 เดือน จะมีสิทธิได้รับบำนาญชราภาพหลังอายุครบ 55 ปี หรือหลังสถานะความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุด แต่ถ้าจ่ายไม่ครบ 180 เดือน จะได้รับเป็นบำเหน็จชราภาพแทน (มาตรา 77 ทวิ) กรณีที่ผู้ประกันตนตายภายใน 60 เดือนนับแต่เดือนที่มีสิทธิได้รับบำนาญชราภาพ บุตร สามี-ภริยา บิดามารดา จะมีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จชราภาพ
สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษี
เงินที่ได้รับโดยเสน่หาจากคู่สมรส เฉพาะส่วนที่ไม่เกิน 20 ล้านบาทตลอดปีภาษี ไม่ต้องคำนวณรวมเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (มาตรา 42 (27) ประมวลรัษฎากร) ลดหย่อนภาษีคู่สมรส 60,000 บาท (มาตรา 47 (1)(ข) ประมวลรัษฎากร)
ยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีมรดกที่คู่สมรสได้รับจากเจ้ามรดก : พระราชบัญญัติภาษีการรับมรดก พ.ศ. 2558 มาตรา 3 (2) กำหนดให้กฎหมายนี้ไม่ใช้บังคับแก่กรณีมรดกที่คู่สมรสของเจ้ามรดกได้รับจากเจ้ามรดก เท่ากับว่าหากเป็นมรดกที่ได้รับมาจากคู่สมรสที่เสียชีวิตไป ก็ไม่ต้องเสียภาษีมรดก
ค่าใช้จ่ายจะสูงกว่าการสมรสเเบบเดิม 3-4 เท่าตัว
ไปสมรสที่ไหนได้บ้าง
#ข่าวรอบโลก #พระราชบัญญัติคู่ชีวิต #สมรสเท่าเทียม #ประเทศไทย #กฎหมาย #พระราชบัญญัติ #คู่สมรส #เท่าเทียม #LGBTQ+
เรียบเรียงโดย อาจารย์ต้นสัก สนิทนาม
ข่าวรอบโลก
ไทย
กฎหมาย
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย