เมื่อวาน เวลา 05:59 • หุ้น & เศรษฐกิจ

สงครามสตรีมมิ่งปี 2024: เมื่อแพลตฟอร์มใหญ่เริ่มมีกำไร แต่คำถามคือจะรักษาโมเมนตัมได้นานแค่ไหน?

ในปี 2024 โลกของสตรีมมิ่งเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก หลังจากที่บริษัทสื่อยักษ์ใหญ่พยายามสร้างรายได้จากแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งมานาน โดยต้องเผชิญกับปัญหาต้นทุนคอนเทนต์สูง การสูญเสียสมาชิก และการแข่งขันที่ดุเดือด
ปีนี้ บริษัทสตรีมมิ่ง 5 ยักษ์ใหญ่ ได้แก่ Netflix (NFLX), Disney (DIS), Paramount (PARA), NBCUniversal's Peacock (CMCSA) และ Warner Bros. Discovery's Max (WBD) ประกาศกำไรจากการดำเนินงานร่วมกันเป็นครั้งแรกในช่วง 9 เดือนแรกของปี รวมรายได้สุทธิอยู่ที่ $5.9 พันล้าน เทียบกับการขาดทุน $142 ล้าน ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
อัตรากำไร-ขาดทุนของเหล่าบริการ streaming ใน 9 เดือนแรก 2024
Netflix ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมที่สุด โดยมีกำไรสุทธิ $6.9 พันล้าน ในช่วง 3 ไตรมาสแรก และในไตรมาสที่ 4 Netflix รายงานกำไรเพิ่มเติมอีก $1.87 พันล้าน พร้อมผู้สมัครสมาชิกเพิ่มอีกเกือบ 20 ล้านคน
บริษัทอื่น ๆ เช่น Disney และ Paramount ก็เริ่มมีกำไรจากสตรีมมิ่งในไตรมาสที่ 3 ของปี 2024 ขณะที่ Peacock ลดการขาดทุนลงอย่างมาก และ Warner Bros. Discovery [HBO] Max จบปีด้วยผลกำไร
นักวิเคราะห์เช่น Tim Nollen จาก Macquarie เตือนว่าบริษัทสตรีมมิ่งหลายแห่งยังอยู่ในจุดคุ้มทุนเท่านั้น ยกเว้น Netflix ซึ่งแสดงให้เห็นถึงกำไรที่มีนัยสำคัญ
Morningstar's Matthew Dolgin ชี้ว่า "การเติบโตของรายได้เป็นปัจจัยสำคัญ" เพราะสำหรับบริษัทสื่อแบบดั้งเดิม การมีกำไรเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ เนื่องจากธุรกิจทีวีแบบเดิมยังคงลดลง พวกเขาจึงต้องการให้สตรีมมิ่งสร้างกำไรที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
สงครามสตรีมมิ่งเริ่มต้นอย่างจริงจังในปี 2019 เมื่อ Disney เปิดตัวแพลตฟอร์มของตัวเอง การแข่งขันที่รุนแรงทำให้บริษัทต้องลงทุนมหาศาลในคอนเทนต์ การแย่งชิงโปรดิวเซอร์ชั้นนำ และการสร้างโปรแกรมใหม่ ๆ แต่ความท้าทายหลักคือการทำกำไรจากสมาชิกในขณะที่ต้นทุนคอนเทนต์ยังสูง
เพื่อแก้ปัญหานี้ บริษัทสตรีมมิ่งได้ปรับกลยุทธ์:
1. การป้องกันการแชร์รหัสผ่าน: Netflix ใช้มาตรการเข้มงวดเพื่อควบคุมการแชร์บัญชี
2. เพิ่มรูปแบบการสมัครสมาชิก: เสนอแพ็คเกจที่หลากหลาย รวมถึงระดับราคาที่มีโฆษณา
3. ปรับลดต้นทุนคอนเทนต์: ลดการผลิตคอนเทนต์จำนวนมาก และมุ่งเน้นไปที่คุณภาพมากขึ้น
แต่ทั้งนี้บริษัทสตรีมมิ่งก็ยังต้องเจอความท้าทายใหม่ๆ เช่น
- ความผันผวนของสมาชิก: สมาชิกที่เปลี่ยนแพลตฟอร์มบ่อยเป็นปัญหาใหญ่ โดยเฉพาะเมื่อราคาสมัครสมาชิกเพิ่มขึ้น
- ความสามารถในการแข่งขันด้านราคา: ราคาแพลตฟอร์มที่ต่ำ ทำให้ต้องมีสมาชิกจำนวนมากเพื่อสร้างผลตอบแทน
บริการ streaming ที่ชาวอเมริกันยกเลิกมากสุด
ในขณะที่ Netflix ยังคงเป็นผู้นำในตลาด แพลตฟอร์มอื่น ๆ ต้องหาวิธีลดช่องว่างนี้โดยการรวมบริการและใช้กลยุทธ์ร่วมกัน
แม้ว่าสตรีมมิ่งจะเริ่มสร้างผลกำไรได้ แต่เส้นทางข้างหน้าอาจเต็มไปด้วยอุปสรรค เช่น การแข่งขันที่รุนแรง ความต้องการการปรับตัว และแรงกดดันจากนักลงทุน
สงครามสตรีมมิ่งยังคงดำเนินต่อไป แต่คำถามสำคัญคือ ใครจะสามารถรักษาโมเมนตัมนี้และกลายเป็นผู้นำในยุคดิจิทัลได้?
cr. Yahoo
โฆษณา