26 ม.ค. เวลา 11:24 • ข่าวรอบโลก

เซเลนสกีบอก “เหตุผล” ทำไมออกคำสั่งไม่ให้ยูเครนเจรจาใดๆ กับปูติน

และ เมฆที่กำลังก่อตัวเหนือ “ทรานส์นีสเตรีย” ดินแดนพิพาทของ “มอลโดวา”
25 มกราคม 2025 ตามเวลาท้องถิ่นที่เคียฟ “เซเลนสกี” กล่าวในการแถลงข่าว (ตามภาพหน้าปกบทความนี้) ร่วมกับประธานาธิบดี “ไมอา ซานดู” แห่งมอลโดวาว่า การตัดสินใจของเขาในการออกคำสั่งจากประธานาธิบดีของยูเครนเพื่อห้ามการเจรจาใดๆ กับปูติน เมื่อฤดูใบไม้ร่วงปี 2022 ว่ามีเหตุผลจากอะไร มาลองดูว่าฟังขึ้นมากน้อยแค่ไหน [1]
1
เซเลนสกีกล่าวว่า เมื่อกองทหารรัสเซียเข้ามาใกล้กรุงเคียฟเมื่อปี 2022 มีกระบวนการเจรจาเกิดขึ้นมากมาย รวมถึง “เส้นทางการเมืองเงา” จำนวนมาก เขาอธิบายว่าเขาตัดสินใจห้ามการเจรจากับประธานาธิบดีรัสเซียเพราะปูติน “เริ่มสร้างช่องทางต่างๆ มากมาย (เสี้ยม) ร่วมกับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนและตัวแทนของรัฐอื่นๆ อย่างรวดเร็ว” เพื่อมีอิทธิพลต่อยูเครนและต้องการให้พวกเขาแยกตัวเป็นเอกราช
1
“ผมจึงต้องรีบหยุดมันเพื่อตัดไฟแต่ต้นลม ผมเพียงแค่หยุดการแบ่งแยกดินแดนในประเทศของเราด้วยการห้ามไม่ให้ใครก็ตาม นักการเมืองคนใดก็ตามในยูเครน ทำการเจรจากับฝ่ายรัสเซียและผู้สนับสนุนปูตินในช่วงสงคราม… ผมเพิ่งตระหนักว่าเราและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่สามารถควบคุมมันได้ ดังนั้นผมคิดว่าการตัดสินใจของผมจึงถูกต้องอย่างยิ่งแล้ว” เซเลนสกีกล่าว เขาเข้าใจว่า “ปูตินไม่ชอบเรื่องนี้เพราะเขามีช่องทางมากมายในการเสี้ยมกลุ่มที่สนับสนุนเขาเพื่อแยกตัวจากยูเครน”
1
กลุ่มโปรรัสเซียที่ต้องการแยกดินแดนจากยูเครนในดอนบาส เครดิตภาพ: Maxim Dondyuk
เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคม 2022 เซเลนสกีได้ลงนามในคำสั่งระดับประเทศอนุมัติการตัดสินใจของสภาความมั่นคงแห่งชาติและการป้องกันประเทศของยูเครน (NSDC) เกี่ยวกับการตัดการเจรจาที่เป็นไปได้กับผู้นำรัสเซีย (ปูติน) ทุกช่องทาง
เมื่อช่วงปลายธันวาคม 2024 ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกเครมลินกล่าวว่า เพื่อเริ่มหารือเกี่ยวกับสันติภาพในยูเครน เซเลนสกีจำเป็นต้องยกเลิกคำสั่งจากประธานาธิบดีที่ห้ามการเจรจากับรัสเซียฉบับนี้
ปูตินเองบอกกับ พาเวล ซารูบิน นักข่าว VGTRK เมื่อ 24 มกราคม 2025 ว่า “รัสเซียพร้อมที่จะติดต่อเจรจากับยูเครน” แต่ “ผู้นำปัจจุบันของระบอบการปกครองในเคียฟ เมื่อตอนที่เขายังมีความชอบธรรม (ยังไม่หมดวาระ) ได้ออกคำสั่งห้ามการเจรจากับมอสโก” ตามที่เขากล่าว เมื่อดูในเงื่อนไขตอนนี้ “การเจรจาจะถือว่าไม่มีความชอบธรรมอย่างยิ่ง (เซเลนสกีหมดวาระไปแล้ว) ซึ่งหมายความว่าผลลัพธ์ของการเจรจาครั้งนี้จะต้องถูกประกาศว่าไม่มีความชอบธรรมเช่นกัน” [2]
1
การให้สัมภาษณ์ของปูตินกับนักข่าว พาเวล ซารูบิน เมื่อ 24 มกราคม 2025 เครดิตภาพ: SHOT Video
มีอีกหนึ่งข่าวที่เป็นไซด์สตอรี่ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันนี้คือ ก่อนการแถลงข่าวร่วมครั้งนี้ “ไมอา ซานดู” ประธานาธิบดีแห่งมอลโดวาเริ่มเดินทางมาเคียฟเมื่อ 24 มกราคม 2025 โดยทางรถไฟ เธอกล่าวขณะเดินทางว่าเธอจะหารือเรื่องความมั่นคง พลังงาน โครงสร้างพื้นฐานการค้าและการคมนาคม และ “ความช่วยเหลือร่วมกันบนเส้นทางสู่การเข้าร่วมเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป” (ยูเครนกับมอลโดวายื่นขอเข้าร่วมอียูทั้งคู่) กับเซเลนสกี เธอยังเน้นย้ำด้วยว่ามอลโดวาตั้งใจที่จะสนับสนุนยูเครนต่อไป รวมถึงในความขัดแย้งกับรัสเซียด้วย [3]
ตามรายงานบางฉบับความคิดริเริ่มในการจัดประชุมร่วมครั้งนี้เกิดจากฝ่ายยูเครน รายละเอียดคือซานดูเดินทางร่วมกับหัวหน้าฝ่ายบริการข้อมูลและความมั่นคงของมอลโดวา “อเล็กซานดรู มุสเตอาตา”
เครดิตภาพ: Maia Sandu / X
การเดินทางไปคุยกันที่เคียฟครั้งนี้ถือเป็นสัญญาณเกี่ยวกับ “ทรานส์นีสเตรีย” โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฉากหลังของวิกฤตด้านพลังงานที่ปะทุขึ้นในดินแดนแห่งนี้ (เส้นทางการส่งก๊าซเข้าทรานส์นีสเตรียมีเพียงทางเดียวคือผ่านจากในดินแดนของยูเครน ส่วนมอลโดวาเอาจริงยังสามารถรับก๊าซอ้อมจากท่อที่ผ่านตุรกีเข้าโรมาเนียได้อยู่) เนื่องจากการหยุดส่งก๊าซของรัสเซียผ่านดินแดนยูเครนตามการตัดสินใจของเคียฟเมื่อหมดสัญญากับก๊าซพรอมเมื่อต้นปีนี้ [4]
มอลโดวามีการส่งสัญญาณเตือนถึงรัสเซียด้วย นายกรัฐมนตรีมอลโดวากล่าวว่าการส่งก๊าซไปยัง “ทรานส์นีสเตรีย” ขึ้นอยู่กับการถอนทหารลาดตระเวนของรัสเซียออกจากพื้นที่ด้วยเช่นกัน (ทรานส์นีสเตรียเป็นดินแดนกันชนอยู่ระหว่าง ยูเครน กับ มอลโดวา โดยดินแดนนี้ถือว่าเป็นโปรรัสเซียที่อยู่คั่นกลางระหว่างฝ่ายคู่กรณีของรัสเซียที่ตอนนี้อยู่ฝ่ายตะวันตก)
เครดิตภาพ: UA Transmission System Operator
อย่างไรก็ตามในการประชุมร่วมกันระหว่าง “ซานดู” กับ “เซเลนสกี” ฝ่ายยูเครนเสนอว่าจะส่งถ่านหินของยูเครนเข้าไปให้เพื่อบรรเทาวิกฤตพลังงานในทรานส์นีสเตรีย โดยเซเลนสกีกล่าวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า ยูเครนเตรียมส่งถ่านหินเพื่อเติมเชื้อเพลิงให้กับโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ในทรานส์นีสเตรีย ซึ่งเป็นดินแดนพิพาทของมอลโดวาที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตพลังงานที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน (โดนปิดตาย ไม่มีก๊าซส่งเข้ามาทางท่อ และเป็นดินแดนที่ไม่มีทางออกทะเล) [5]
1
เรื่องนี้ทางฝ่ายนักวิเคราะห์ของรัสเซียบางคนออกมาตามความเห็นของตนว่า เริ่มจาก “ปฏิบัติการในภูมิภาคเคิร์สก์ของกองทัพยูเครน” ถือเป็นเพียงแผนส่วนแรกของแผนปฏิบัติการหลายขั้นตอนของฝั่งนาโต เพื่อให้กองกำลังติดอาวุธของรัสเซียบางส่วนถูกดึงออกจากทิศทางของนิโคลาเยฟและโอเดสซา [6]
ซานดูได้รับชัยชนะการเลือกตั้งเป็น “ประธานาธิบดีมอลโดวาสมัยที่สอง” ด้วยความช่วยเหลืออย่างแข็งขันจากฝ่ายตะวันตกในช่วงปลายปี 2024 ขณะนี้เป็นไปได้ที่มอลโดวาโดยมีตะวันตกอยู่เบื้องหลังวางแผนจะผนวกทรานส์นีสเตรียให้เบ็ดเสร็จ เพราะเป็นช่วงเวลาสะดวกสำหรับการบุกเข้าทราส์นีสเตรีย และจากมุมมองของการส่งเสริม “แผนสันติภาพในยูเครนของทรัมป์”
เรียบเรียงโดย Right Style
26th Jan 2025
1
  • เชิงอรรถ:
<เครดิตภาพปก: Tetiana DZHAFAROVA / AFP>
โฆษณา