เมื่อวาน เวลา 05:51 • หุ้น & เศรษฐกิจ

Arch Lumpini Weekly Report 27/01/68

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้รับแรงหนุนหลังทรัมป์ยังไม่มีการปรับขึ้นภาษีศุลกากรในทันที แต่เตรียมบังคับใช้มาตรการภาษีศุลกากร 25% กับสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดาอย่างเร็วสุดในวันที่ 1 ก.พ. 2025 นี้ รวมถึงกำลังพิจารณาเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 10% ส่วนตลาดหุ้นยุโรป ปัจจัยที่ต้องจับตามอง คาดว่าในการประชุม ECB ที่กำลังจะมาถึง ECB จะลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ที่ 3.00% เพื่อช่วยการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในยูโรโซน
BoJ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นผลจากอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น และค่าจ้างที่ปรับขึ้น อีกทั้งค่าเงินเยนอ่อนค่าลง ขณะที่การกลับมาของทรัมป์ยังเป็นแรงกดดันให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเกิดความผันผวน จึงมีมุมมองเป็นกลางต่อหุ้นญี่ปุ่น
กดดันจากการกลับมาของทรัมป์ลดลง จึงแนะนำให้ทยอยสะสมหุ้นจีน ขณะที่เศรษฐกิจอินเดียยังเผชิญกับความเสี่ยงจากการรัดเข็มขัดของรัฐบาลอินเดีย และการปล่อยสินเชื่อลดลง อีกทั้ง RBI อาจจะคงอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับสูงต่อไป สะท้อนอุปสงค์ภายในประเทศที่ชะลอตัว ขณะนี้นักลงทุนต่างชาตินำเงินออกจากตลาดหุ้นอินเดียอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นทางเราจึงแนะนำให้ทยอยลดสัดส่วนหุ้นอินเดีย
หุ้นไทยในกลุ่มธนาคารประกาศผลประกอบการดีกว่าที่ตลาดคาด 5.53% แต่ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน ส่วนตลาดหุ้นเวียดนาม นักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับมาซื้อสุทธิ ขณะที่ตั้งแต่ต้นปี (YTD) กระแสเงินลงทุนจากต่างประเทศ (Fund Flow) ของนักลงทุนต่างชาติไหลออกสุทธิ 280 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตามตลาดได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการเบื้องต้นในไตรมาส 4/2024 ในกลุ่มธนาคาร (Banking) ที่งบออกมาดีกว่าคาด
โฆษณา