27 ม.ค. เวลา 07:36 • ข่าวรอบโลก

'คาซัคสถาน เส้นทางแห่งชนเผ่าเร่ร่อน จากยอดเทือกเขาเทียนชานสู่อ้อมกอดแห่งทะเลแคสเปียน​

คาซัคสถาน (Kazakhstan) เป็นประเทศขนาดใหญ่ที่เชื่อมระหว่างเอเชียกลางและยุโรปตะวันออก มีอาณาเขตกว้างขวางตั้งแต่เทือกเขาเทียนชาน (Tian Shan) ทางตะวันออกเฉียงใต้ไปจนถึงชายฝั่งทะเลแคสเปียน (Caspian Sea) ทางตะวันตก พื้นที่เหล่านี้ครอบคลุมทั้งทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ สภาพกึ่งทะเลทราย และขุนเขาสูงชัน ทำให้คาซัคสถานเป็นผืนแผ่นดินที่มีความหลากหลายทางภูมิศาสตร์และวัฒนธรรมอย่างโดดเด่น
วิถีชีวิตและขนบธรรมเนียมที่สืบทอดมายาวนานของชนเผ่าเร่ร่อนในทุ่งหญ้ากลายเป็นส่วนสำคัญของอัตลักษณ์ชาวคาซัค สร้างเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ในฐานะ “ชนชาติเร่ร่อน” ที่มีรากเหง้าสืบทอดจากการเคลื่อนย้ายตามฤดูกาล
คาซัคสถานมีภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่ยอดเขาเทียนชานที่ปกคลุมด้วยหิมะ ไปจนถึงชายฝั่งทะเลแคสเปียนอันแห้งแล้ง และจะสำรวจวิถีเร่ร่อนที่ฝังลึกในวัฒนธรรม ตลอดจนบทบาทของคาซัคสถานในยุคปัจจุบันที่พยายามผสมผสานขนบธรรมเนียมประเพณีเข้ากับการพัฒนาเชิงรุก
แม้คาซัคสถานจะไม่มีทางออกสู่มหาสมุทร แต่การที่ชายแดนด้านตะวันตกติดทะเลแคสเปียน ทำให้ผู้คนส่วนหนึ่งประกอบอาชีพด้านการประมงและการค้าทางทะเลบริเวณนี้ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศยังมีเทือกเขาเทียนชานสูงตระหง่าน ซึ่งถือเป็นเขตกึ่งอัลไพน์ที่เหมาะกับการเลี้ยงสัตว์ในฤดูร้อน เมืองอัลมาตี (Almaty) ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา ได้รับอิทธิพลจากหิมะละลาย ทำให้บริเวณนี้อุดมสมบูรณ์และเหมาะแก่การเพาะปลูกและทำสวนผลไม้
ส่วนใจกลางประเทศถูกปกคลุมด้วยทุ่งหญ้า (steppe) อันกว้างใหญ่ที่คุ้นเคยในสายตาของชนเผ่าเร่ร่อนเป็นอย่างดี เพราะความกว้างและสภาพภูมิอากาศแปรปรวนนี้เองที่หล่อหลอมให้ชาวคาซัคในอดีตต้องเคลื่อนย้ายสู่พื้นที่ที่มีความเหมาะสมทั้งน้ำและอาหารสำหรับปศุสัตว์ในแต่ละฤดูกาล ก่อให้เกิดความแข็งแกร่งด้านความอดทนและการอยู่ร่วมกับธรรมชาติ ตลอดจนวัฒนธรรมต้อนรับแขกซึ่งนับเป็นคุณลักษณะเด่นของผู้คนในแถบนี้
วิถีเร่ร่อนของคาซัคสถานสะท้อนผ่านการเคลื่อนย้ายตามฤดูกาล ผู้คนขนย้ายกระโจม (yurt หรือ “kiyiz ui” ในภาษา Kazakh) จากพื้นที่หนึ่งไปอีกพื้นที่หนึ่งเพื่อตามหาทุ่งหญ้าที่อุดมสมบูรณ์ ในช่วงฤดูร้อน ชุมชนมักขึ้นไปยังที่สูงเพื่อให้สัตว์ได้กินหญ้าสด ส่วนฤดูหนาวจะย้ายลงมาสู่ที่ราบซึ่งอุณหภูมิอุ่นกว่า โครงสร้างของกระโจมเรียบง่ายแต่ปรับใช้ได้หลากหลาย สามารถรื้อถอนและเคลื่อนย้ายได้โดยง่าย แสดงถึงการปรับตัวให้เข้ากับภูมิประเทศแบบทุ่งหญ้าที่ไม่แน่นอน
การดำรงชีวิตในลักษณะเร่ร่อนนี้ทำให้เกิดธรรมเนียม “การต้อนรับแขก” หรือ Hospitality ซึ่งช่วยให้ผู้คนมีเครือข่ายประกันความปลอดภัยบนทุ่งหญ้าอันเวิ้งว้าง ในยุคปัจจุบัน แม้หลายครอบครัวปรับตัวเป็นชุมชนถาวร แต่งานเทศกาล วิถีการเลี้ยงสัตว์ รวมถึงกีฬาขี่ม้าอย่าง kokpar และการขับร้องด้วยเครื่องดนตรีดอมบรา (dombra) ยังบ่งชี้ถึงการสืบทอดวัฒนธรรมโบราณ
จากอดีตจนถึงปัจจุบัน คาซัคสถานตั้งอยู่บนเส้นทางสายไหม (Silk Road) เป็นจุดหมายสำคัญที่กองคาราวานสินค้า เดินทางข้ามระหว่างจีน อินเดีย ตะวันออกกลาง และยุโรป เมืองค้าขายอย่างโอตราร์ (Otrar) หรือเติร์กสถาน (Turkestan) เคยเจริญรุ่งเรืองจากการค้าขายและการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม อีกทั้งดินแดนนี้ถูกผนวกรวมเข้าในอำนาจของจักรวรรดิต่าง ๆ อย่างมองโกลในยุคเจงกีสข่าน ทิ้งร่องรอยศิลปะ สถาปัตยกรรม และระบบการปกครอง
จนกระทั่งรัสเซียขยายอำนาจลงสู่เอเชียกลางในสมัยจักรวรรดิ และต่อเนื่องสู่สมัยสหภาพโซเวียต การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นเมื่อยุคนโยบายรวมศูนย์และการทำเกษตรแบบสหกรณ์ตามอุดมการณ์คอมมิวนิสต์ ส่งผลให้รูปแบบชนเผ่าเร่ร่อนดั้งเดิมสลายไปส่วนหนึ่ง ประชาชนจำนวนมากถูกบังคับตั้งถิ่นฐานทำให้เกิดวิกฤตความอดอยากรุนแรง ทว่าในอีกด้านหนึ่ง สหภาพโซเวียตได้วางรากฐานอุตสาหกรรม การศึกษา และเครือข่ายขนส่งสมัยใหม่ ซึ่งกลายมาเป็นโครงสร้างหลักในการพัฒนาประเทศยุคหลังประกาศเอกราช
หลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียตในปี ค.ศ. 1991 คาซัคสถานประกาศเอกราชและพยายามกำหนดวิถีทางการปกครองและเศรษฐกิจของตนเอง ด้วยทรัพยากรน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และแร่ธาตุหลากหลาย ประเทศจึงประสบความก้าวหน้าและเติบโตอย่างรวดเร็ว เมืองต่าง ๆ เช่น อัสตานา (Astana) และอัลมาตี กลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและการลงทุน
ในขณะที่บริเวณทะเลแคสเปียนอุดมด้วยแหล่งน้ำมันและก๊าซ เรียกนักลงทุนจากทั่วโลกเข้ามาติดตั้งแท่นขุดเจาะและโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน แต่ถึงกระนั้น การเติบโตเหล่านี้ก็สร้างความท้าทายด้านความเท่าเทียมทางรายได้และสิ่งแวดล้อม ซึ่งรัฐจำเป็นต้องบริหารจัดการอย่างรอบคอบ
ในช่วงที่อัตลักษณ์ทางการเมืองและสังคมก่อตัว คาซัคสถานหันมาฟื้นฟูวัฒนธรรมดั้งเดิม เช่น ภาษา Kazakh และเทศกาลเร่ร่อนหลายรูปแบบ ใช้ประโยชน์จากประวัติศาสตร์ เพื่อปลูกฝังความเป็นชาติที่เข้มแข็ง ในขณะเดียวกัน รัฐบาลก็ต้องดำเนินนโยบายแบบ “หลายมิติ” (Multi-vector foreign policy) เพื่อรักษาความสัมพันธ์ระหว่างมหาอำนาจทั้งรัสเซีย จีน และโลกตะวันตก ในบริบททางภูมิรัฐศาสตร์ยุคใหม่
ประเทศได้พยายามพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโลจิสติกส์เพิ่มเติม เพื่อเชื่อมโยงเอเชียตะวันออกเข้ากับยุโรปและตะวันออกกลาง อาทิ โครงการสายทางรถไฟความเร็วสูงและด่านขนส่งสินค้าที่เขตโครกอส (Khorgos) ใกล้ชายแดนจีน บวกกับการพัฒนาเส้นทางขนส่งผ่านทะเลแคสเปียน จึงทำให้คาซัคสถานถูกมองว่าเป็น “ประตูเชื่อมเอเชียกับยุโรป” ที่มีความสำคัญยิ่งด้านสิ่งแวดล้อม คาซัคสถานต้องเผชิญผลกระทบจากการใช้ทรัพยากรอย่างเข้มข้นและผลกระทบสะสมจากยุคโซเวียต
พื้นที่ทะเลอารัล (Aral Sea) ทางตะวันตกเฉียงใต้ได้หดตัวลงอย่างมาก มีส่วนหนึ่งอยู่ในเขตคาซัคสถาน และเกิดวิกฤตสภาพแวดล้อมตามมา ในขณะเดียวกัน การทำอุตสาหกรรมหนักอย่างเหมืองแร่ น้ำมัน และโรงไฟฟ้าถ่านหินก็ส่งผลต่อคุณภาพอากาศและน้ำ นโยบายของรัฐและการทำงานร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศจึงมุ่งเน้นการกระจายการลงทุนไปสู่เทคโนโลยีสีเขียวและการอนุรักษ์ธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังหันมาให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและการวิจัยเพื่อบริหารจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน ให้คงความหลากหลายทางชีวภาพไว้
เมื่อพิจารณาในมิติการขยายตัวทางเศรษฐกิจและสังคม คาซัคสถานเลือกใช้นโยบาย “กระจายความเสี่ยง” เพื่อลดการพึ่งพารายได้จากน้ำมันและก๊าซ มีโครงการส่งเสริมผู้ประกอบการดิจิทัล อุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง และการบริการ เพื่อตอบโจทย์เศรษฐกิจโลกสมัยใหม่
ยิ่งไปกว่านั้น รัฐบาลยังให้ทุนสนับสนุนนักศึกษาออกไปศึกษาต่างประเทศ และดึงดูดมหาวิทยาลัยต่างชาติให้มาตั้งสาขาในเมืองใหญ่อย่างอัสตานาและอัลมาตี เพื่อเสริมสร้างทุนมนุษย์ที่มีทักษะและความรู้เทียบเท่าระดับโลก เชื่อว่าแนวทางนี้จะสร้างเมล็ดพันธุ์แห่งนวัตกรรมให้เติบโตในอนาคต
การผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมเร่ร่อนดั้งเดิมกับการพัฒนาสมัยใหม่เป็นจุดเด่นของคาซัคสถาน ในชนบทอาจยังเห็นฝูงแกะหรือม้าที่มีคนนำออกไปเลี้ยงตามทุ่งหญ้า เปิดกระโจมต้อนรับเพื่อนบ้านหรือคนเดินทาง ต่างจากในเมืองใหญ่ซึ่งมีตึกระฟ้าและระบบขนส่งสาธารณะระดับสากล อย่างไรก็ตาม ความ “เป็นคาซัค” ที่หยั่งลึกในมรดกการขี่ม้า การร้องเพลงดอมบรา และการต้อนรับแขกแบบอบอุ่นก็ยังคงดำรงอยู่ และถูกใช้เป็นพลังเชิงบวกในการสร้างอัตลักษณ์ร่วมยุคปัจจุบัน
การกลับมาให้คุณค่ากับภาษาและศิลปะพื้นบ้าน จนถึงการโปรโมตเทศกาลต่าง ๆ ทั้งในและนอกประเทศ จึงมีส่วนสำคัญในการสร้างจุดขายและภาพลักษณ์ให้ชาวโลกได้รู้จักวัฒนธรรมทุ่งหญ้าอันเป็นหัวใจของคาซัคสถาน
จะเห็นได้ว่าคาซัคสถานเป็นดินแดนที่ผสานภูมิศาสตร์หลายรูปแบบให้กลายเป็นเรื่องราวหนึ่งเดียว ตั้งแต่เทือกเขาสูงตระหง่านจรดทะเลแคสเปียน ไปจนถึงทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ไพศาล วัฒนธรรมและวิถีชีวิตเร่ร่อนยังคงดำรงอยู่ ในขณะเดียวกัน ประเทศได้เลือกเดินหน้าเข้าสู่ความเป็นสากล ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม ถือเป็น “สะพาน” เชื่อมภูมิภาคเอเชียกับยุโรป และเชื่อมอดีตซึ่งเต็มไปด้วยตำนานชนเผ่าและจักรวรรดิเข้ากับอนาคตที่มุ่งเน้นเทคโนโลยีและนวัตกรรม
ความท้าทายที่เหลืออยู่คือ การสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาทางเศรษฐกิจขั้นสูงและการธำรงรักษาทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงความเท่าเทียมในสังคม ทว่าจิตวิญญาณ “ชนชาติเร่ร่อน” ที่เคยผลัดย้ายถิ่นไปตามฤดูกาล สร้างความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างมนุษย์กับทุ่งหญ้า และปลูกฝังการต้อนรับและเอื้อเฟื้อ ยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่อาจช่วยคาซัคสถานก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงบนเวทีโลก ในฐานะดินแดนที่มี “ความหลากหลายมาก แต่กลมกลืนได้” และยังคงมีเรื่องราวอันน่าค้นหาให้มนุษย์ยุคปัจจุบันได้เรียนรู้และตื่นตาตื่นใจ
โฆษณา