27 ม.ค. เวลา 09:08 • กีฬา

ลิเวอร์พูลหรืออาร์เซนอลได้เปรียบโปรแกรมที่เหลือ?

หลังเกมวันเสาร์ที่ผ่านมา แฟนบอลลิเวอร์พูลคงจะเสียดายไม่น้อยกับการที่วูล์ฟส์แพ้อาร์เซนอลแบบหวุดหวิด ทำให้ระยะห่างในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกเท่าเดิม ทั้งที่เกมนั้นปืนใหญ่ต้องเล่น 10 คนเป็นระยะเวลานาน
 
การตัดสินของไมเคิล โอลิเวอร์ในจังหวะนั้นทำให้แฟนปืนก็ดูจะไม่พอใจไม่น้อย แม้จะเป็นจังหวะโต้กลับ แต่ยังไม่ใช่คนสุดท้าย ยังอยู่กลางแดนของวูล์ฟส์ด้วยซ้ำ แต่ VAR ก็ยังยืนยันใบแดงดังกล่าว เพราะยกเท้าสูงเหนือข้อเท้า และยังเป็นการเข้าสกัดจากด้านหลัง
มีความเห็นว่าเหมือนกรรมการพยายามยกแชมป์ให้ลิเวอร์พูล! เอาประเด็นดราม่าตรงนี้ออกไป ผมเชื่อว่าแฟนบอลหลายทีมเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ก็จะโอดครวญเป็นธรรมดา แต่สำหรับเด็กหงส์ที่เห็นลูกแฮนด์บอลของโอเดการ์ด หรือกรณีของเดวิด คูตคงไม่อยากพูดถึงให้มากความ
ทั้งที่สองประเด็นดังกล่าว ไม่ต้องใช้คำว่า “วิจารญาณ” ด้วยซ้ำ มันชัดเจนกว่าตามกฎทุกประกาศ และความ “อคติ” ที่เกิดขึ้นต่อเจอร์เก้น คล็อปป์ จากบรรดากรรมการ และ PGMOL ที่ต้องแถลงแก้การตัดสินหลายรอบมาแล้ว
เทียบกับกรณีที่ปืนใหญ่โดนใบแดง ความเห็นก็ประมาณว่าลูกแบบนี้ถ้าโดนแดง จังหวะอื่นๆ ก็ควรโดนแดงเหมือนกัน ฯลฯ อาจจะใช่ แต่ประเด็นก็กลับที่จังหวะนั้นให้ใบแดงกรรมการผิดหรือไม่? คำตอบคือ ไม่ผิด แต่คนคิดว่ามันแรงเกินไปก็เท่านั้น
ต่างจากกรณีที่ยกตัวออย่างของโอเดการ์ด ยังไงมันก็คือแฮนด์บอล หรือแม้แต่กรณีของเดวิด คูต มันไม่ควรเกิดขึ้นในวงการฟุตบอล
สุดท้าย มิเกล อาร์เตต้า เลือกจะไม่อุทธรณ์ จริงๆ ก็คล้ายกับตอนที่ลิเวอร์พูลไม่อุทธรณ์ใบแดงของเคอร์ติส โจนส์ มันก็คือการยอมรับกลายๆ แม้อาร์เตต้าจะแก้เกี้ยวว่ามันควรจะถูกยกเลิกเหมือนตอนบรูโน่ในช่วงต้นฤดูกาลนี้
ณ เวลาที่เขียนยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติม แต่ ไมล์ส ลูอิส-สเคลลี่ กลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดเป็นอันดับที่ 3 รองจากเวย์ รูนีย์ และไมเคิล โอเว่นที่โดนไล่ออกในพรีเมียร์ลีก แปลว่าเขาอาจจะมีอนาคตที่สดใสถ้าดูจากรายชื่อก่อนหน้านี้!
PGMOL แถลงการณ์ปกป้องไมเคิล โอลิเวอร์ ออกมาปกป้องการเหยียดหรือข่มขู่ ซึ่งลามไปถึงครอบครัว ส่วนนี้ก็เกินไป ไม่ว่าแฟนบอลทีมไหนก็ไม่ควรทำขนาดนี้
 
แต่อาร์เซนอลก็ชนะมาได้ นั่นคือประเด็นสำคัญที่สุด ทำให้สถานการณ์ไม่แตกต่างจากสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ในขณะที่ลิเวอร์พูลไล่ถล่มอิปสวิชที่มาแบบไม่สู้เลย รอป้องกันไม่ให้สกอร์ไหลไป ผมคิดว่าเป็นตอนที่ 4-0 ที่ทีมเยือนถึงเพิ่มการเล่นเกมรุกมากขึ้นจนมาตีไข่แตกได้
อย่างไรก็ตามเกมที่ลิเวอร์พูลเอาชนะอิปสวิชความเป็นจริงคือเป็นเกม “ง่าย” ตามหน้ากระดาษ เช่นกันกับเกมเยือนวูล์ฟส์ของอาร์เซนอลที่พวกเขาควรจะใส่ 3 แต้มได้อยู่แล้วไม่ว่าสถานการณ์ในเกมจะเป็นยังไงก็ตาม
แต่นั่นก็ทำให้จำนวนเกมลดลง และในเวลาเดียวกันฟอเรสต์ก็แพ้ ทำให้ผ่านสัปดาห์นี้ความกังวลว่าฟอเรสต์จะเป็น “ม้ามืด” น่าจะจบลงไปแล้ว ชัดเจนว่าเป็นการแข่งขันของม้าสองตัวหลังจากสัปดาห์ที่ 23 หรือเหลือ 15 เกมสำหรับทีมส่วนใหญ่
แมนฯ ซิตี้กลับมาแล้ว พวกเขาอาจจะเป็นทีมเดียวที่หวังชนะ 15 เกมรวดได้จริงๆ จากประสบการณ์ที่ผ่านมา แต่การเสมอเบรนท์ฟอร์ดวีกก่อนนั่นแหล่ะเป็นตัวบี้ความหวังของพวกเขาอย่างแท้จริง แม้เป๊บจะบอกว่าหมดลุ้นตั้งแต่หลายสัปดาห์ก่อน
ถ้าวันนั้นพวกเขาชนะเบรนท์ฟอร์ด ตอนนี้จะตามอาร์เซนอลเหลือแค่ 4 แต้ม ระยะห่างจากลิเวอร์พูลจะไม่ได้รู้สึกปลอดภัยแบบในเวลานี้ เพราะฤดูกาลนี้เป็นไปได้ไม่น้อยว่าแชมป์อาจจะแต้มสูงไม่เท่าหลายปีก่อนหน้านี้
การที่ซิตี้กลับมาทำได้ดี ผมถือว่าทันเวลา อย่างน้อยๆ วีคหน้าพวกเขาจะไปเยือนอาร์เซนอล เพราะถ้าฟอร์มเหมือนช่วง 1-2 เดือนที่แล้ว ยังไงก็น่าจะไม่รอด แต่ตอนนี้พวกเขายังมีโอกาส “สู้” แม้จะดูว่าไกลจากลิเวอร์พูล แต่กับที่ 2 ตอนนี้ 6 แต้มเท่านั้น แต้มไป-กลับจะทำให้พวกเขามีโอกาสไล่ทันปืนทันที
ในขณะที่อาร์เซนอลกำลังมองบน แต่ความจริง ซิตี้ใกล้พวกเขามากกว่าพวกเขาใกล้กับลิเวอร์พูล เพราะนอกจากประตูได้เสียที่ห่างกับลิเวอร์พูล 10 ลูกแล้ว ลิเวอร์พูลยังมีเกมในมืออีกนัดด้วย
แถมใบแดงของ ลูอิส-สเคลลี่ จะทำให้ตัวเลือกของพวกเขาลดลงไปอีก 1 ตัว ในกรณีที่ไม่มีการยกเลิกใดๆ เกิดขึ้น ดังนั้นเกมวันอาทิตย์หน้าจึงน่าสนใจมาก ผมว่าเด็กหงส์หวังว่าจะเสมอกัน ปืนไม่ชนะ แต่หลายคนอาจจะหวังให้ซิตี้บุกชนะไปเลยด้วยซ้ำ และผมก็เป็นหนึ่งในนั้น!
6 เกมในพรีเมียร์ลีกรวมกับเชลซี ซิตี้เจอเกมหนักหมด โอเคพวกเขามีโอกาสชนะลิเวอร์พูลลดช่องว่างมาด้วย แต่ถ้าพวกเขาชนะได้หมดขึ้นมาจริงๆ ผมก็ว่ายังดีกว่าเกิดกรณีที่พวกเขาแพ้ปืน แต่ชนะลิเวอร์พูลได้อะไรแบบนั้น
กรณีแย่ที่สุดคือหวังว่าซิตี้จะเก็บแต้มจากหงส์-ปืนได้เท่ากันไม่ว่าจะ 0-1-3 แต้ม แต่ถ้าปืนแพ้ และลิเวอร์พูลบุกชนะได้ พรีเมียร์ลีกจะจบกลายๆ ได้เลย
อ่อ ที่เขียนหัวว่าลิเวอร์พูลหรืออาร์เซนอลได้เปรียบโปรแกรมที่เหลือ ประมาณ 3-4 สัปดาห์ก่อน เจอเพจปืน หรือข้อความใน x มองว่าพวกเขาจะไล่ลิเวอร์พูลได้ทันแน่ๆ เพราะว่าลิเวอร์พูลมีเกมนอกบ้านเหลือให้เล่นมากกว่าอาร์เซนอล
นาทีที่ผมก็จะมากับเพลง “ต้องมีอะไรผิดพลาดตรงไหนี้ ไม่เข้าใจเลยสักครั้ง...” เพราะเอาจริงๆ ลิเวอร์พูลคือทีมที่เล่นนอกบ้านได้ดีที่สุดในฤดูกาลนี้ ดีกว่าในบ้านด้วยซ้ำ!
22 เกมลิเวอร์พูลชนะนอกบ้าน 8 ใบบ้าน 8 เสมอนอกบ้าน 3 เสมอในบ้าน 2 และแพ้ 1 นัดเป็นเกมในบ้านที่แฟนหงส์ทุกคนจำได้ดีคือการแพ้ต่อฟอเรสต์
แต่นั่นก็เข้าใจได้ เพราะในมุมมองเด็กปืนต้องอยู่อย่างมีความหวัง และตั้งแต่ขึ้นปีที่ผ่านมา หงส์แดงก็เก็บเกมที่เล่นนอกบ้านเกินจนเหลือเท่าๆ กันแล้ว และแน่นอนว่าตอนนี้อาร์เซนอลเล่นนอกบ้านไป 12 ในบ้านไป 11 พวกเขาคงมองว่าได้เปรียบตรงนี้ แต่มันก็น้อยมากๆ
 
เทียบแล้วขอนำ 6 แต้มและเกมเหลือในมือ 1 เกมดีกว่าเหลือเกมนอกบ้านน้อยกว่าในบ้านนัดเดียวแน่ๆ
ความจริงคืออาร์เซนอลมีโอกาสในเดือนมกราคมที่กำลังจะผ่านไปในการกระชับพื้นที่เข้ามา ช่วงที่ลิเวอร์พูลเหมือนพักระหว่างกลางฤดูกาล และเสมอหลายนัดหลังแม้ไม่แพ้ แต่พวกเขาเสมอไบรท์ตัน และโดยเฉพาะกับวิลล่าในบ้านที่นำก่อน 2 ลูก
เฉพาะ 4 แต้มนี้ที่หายไป พวกเขาเกือบจ่าคอหอยลิเวอร์พูลเหลือ 2 แต้มแล้ว แต่กลายเป็นวันสถานการณ์แทบไม่เปลี่ยน แต่เกมลดลงเรื่อยๆ
ผมจะยังไม่พูดถึงเกมที่เหลือของซิตี้ จนกว่าพวกเขาจะชนะผ่าน 6 เกมรวดนับตั้งแต่กับเชลซีได้ก่อน และอย่างน้อยต้องบุกชนะอาร์เซนอลถึงจะลุ้นอะไรตั้งแต่รองแชมป์ หรือแชมป์ ผมคิดว่าซิตี้คล้ายๆ กับลิเวอร์พูลปีที่หลุดไปที่ 3 อยู่เหมือนกัน ตรงที่เชื่อว่าจะทำได้ดีช่วงหลายเดือนสุดท้ายแน่ๆ
 
ปีนั้นเป็นปีเดียวในระยะหลังที่ทีมของคล็อปป์แกว่งอย่างที่สุด โดยเฉพาะช่วงพ่ายในบ้านติดต่อกัน แต่ซิตี้น่าจะกลับมาดีขึ้นได้ เพียงแต่ไม่น่าจะดีพอกลับมาอยู่ในจุดลุ้นแชมป์อีกครั้งในฤดูกาลนี้
แต่พวกเขาเป็นตัวแปรที่อันตรายสำหรับเรา และอาร์เซนอลแน่ๆ
อาร์เซนอลตอนนี้เหลือ 15 เกม รายการอื่นๆ ตัดไปก่อน เพราะนับตอนนี้รายการอื่นๆ ถือว่าโปรแกรมพอๆ กับลิเวอร์พูล(แต่พวกเขาตกรอบเอฟเอ คัพไปแล้ว น่าจะนับว่าเบาขึ้นบ้าง แต่ถ้วยยุโรปก็น่าจะเหนื่อยระดับพอๆ กัน)
แมนฯ ซิตี้(เหย้า), เลสเตอร์(เยือน), เวสต์แฮม(เหย้า), ฟอเรสต์(เยือน), แมนฯ ยูไนเต็ด(เยือน), เชลซี(เหย้า), ฟูแล่ม(เหย้า), เอฟเวอร์ตัน(เยือน), เบรนท์ฟอร์ด(เหย้า), อิปสวิช(เยือน), พาเลซ(เหย้า), บอร์นมัธ(เหย้า), ลิเวอร์พูล(เยือน), นิวคาสเซิล(เหย้า), เซาท์แฮมป์ตัน(เยือน)
ลิเวอร์พูลเหลือ 16 เกม บอร์นมัธ(เยือน), เอฟเวอร์ตัน(เยือน), วูล์ฟส์(เหย้า), แมนฯ ซิตี้(เยือน), นิวคาสเซิล(เหย้า), เซาท์แฮมป์ตัน(เยือน), วิลล่า(เยือน), เอฟเวอร์ตัน(เหย้า), ฟูแล่ม(เยือน), เวสต์แฮม(เหย้า), เลสเตอร์(เยือน), สเปอร์ส(เหย้า), เชลซี(เยือน), อาร์เซนอล(เหย้า), ไบรท์ตัน(เยือน), พาเลซ(เหย้า)
อย่างที่บอกว่าเห็นเพจปืนมองเกมที่เหลือว่าพวกเขาได้เปรียบ ผมก็ตะหงิดๆ นิดหน่อย ดังนั้นจะพยายามวิเคราะห์โดยตัดความเป็นเด็กหงส์ออกไป ผมคิดว่าเกมพวกนี้พอๆ กันนะ ตามหน้าสื่อผมว่าทั้งลิเวอร์พูล และอาร์เซนอลได้เปรียบจะชนะคู่แข่งเกือบทุกเกม แต่เพื่อให้เห็นภาพชัดผมจะแบ่งกลุ่มเกมที่ยากเป็น 3 ระดับ
เกมที่เป็นต่อเยอะ ไม่น่าพลาด
อาร์เซนอล(10)- เลสเตอร์(เยือน), เวสต์แฮม(เหย้า), ฟูแล่ม(เหย้า), เอฟเวอร์ตัน(เยือน), เบรนท์ฟอร์ด(เหย้า), อิปสวิช(เยือน), พาเลซ(เหย้า), บอร์นมัธ(เหย้า), นิวคาสเซิล(เหย้า) เซาท์แฮมป์ตัน(เยือน)
ลิเวอร์พูล(10) – บอร์นมัธ(เยือน), วูล์ฟส์(เหย้า), นิวคาสเซิล(เหย้า), เซาท์แฮมป์ตัน(เยือน), เอฟเวอร์ตัน(เหย้า), ฟูแล่ม(เยือน), เวสต์แฮม(เหย้า), เลสเตอร์(เยือน), สเปอร์ส(เหย้า), พาเลซ(เหย้า)
เกมยากพอประมาณ แต่อย่างน้อยน่าจะได้ 1 แต้ม
อาร์เซนอล(3) – ฟอเรสต์(เยือน), แมนฯ ยูไนเต็ด(เยือน), เชลซี(เหย้า),
ลิเวอร์พูล(4) – เอฟเวอร์ตัน(เยือน), เชลซี(เยือน), ไบรท์ตัน(เยือน), วิลล่า(เยือน)
เกมที่มีโอกาสเสียแต้มสูง ออกได้ 3 หน้า
อาร์เซนอล(2) - แมนฯ ซิตี้(เหย้า), ลิเวอร์พูล(เยือน)
ลิเวอร์พูล(2) - แมนฯ ซิตี้(เยือน), อาร์เซนอล(เหย้า)
ผมพยายามชั่งน้ำหนักให้พอๆ กันที่สุด อาจจะมีบางคนไม่เห็นด้วยว่าบางเกมดูยากดูง่าย คนละระดับ ยกตัวอย่างบางเกมที่อาร์เซนอลเล่นกับทีมในลอนดอนก็ถือว่าเป็นดาร์บี แต่มองตามหน้าสื่อพวกเขาได้เปรียบแน่
และในชีวิตจริงเกมพวกนี้ก็พลิกได้
เกมเยือนเอฟเวอร์ตัน หรือในบ้านกับนิวคาสเซิลก็ก้ำกึ่งว่าจะไม่ง่ายที่สุดไหม แต่เดี๋ยวจะหาว่าเอียง ผมยังให้ปืนควรจะชนะได้อยู่ดี(แม้ในลีก คัพ พวกเขาจะเสร็จนิวคาสเซิลคาบ้านมาแล้ว!)
อย่างลิเวอร์พูลต้องเล่นอีก 2 เกมกับเอฟเวอร์ตัน บางคนก็คิดว่าโอกาสชนะทั้ง 2 เกมก็มี แต่ผมประเมินไว้ว่าเกมเยือนอยู่ในโหมดยากกลางๆ แต่ถือว่าเกมในบ้านน่าจะชนะได้ก็น่าจะแฟร์อยู่กับอันดับของเอฟเวอร์ตันในเวลานี้
ลิเวอร์พูลไปเยือนบอร์นมัธที่ฟอร์มดี แต่อาร์เซนอลก็ต้องเจอบอร์นมัธในช่วงที่เหลือเหมือนกัน จุดนี้อาร์เซนอลอาจจะดูง่ายกว่าเพราะเล่นในบ้าน เหมือนเกมกับซิตี้ แต่ผมก็ให้น้ำหนักเท่ากัน เหมือนเกมที่แอนฟิลด์กับอาร์เซนอล ที่จริงๆ เกมนั้นลิเวอร์พูลน่าจะนับว่าได้เปรียบกว่า
ดังนั้นเฉลี่ยๆ ผมว่า 15-16 เกมสุดท้ายทั้งสองทีมพอๆ กัน ผลการแข่งขันโอกาสออกมาใกล้เคียงกัน หรือถ้าใครบอกว่าอาร์เซนอลดูดีกว่า ก็ต้องสู้กับแต้มตาม 6 แต้ม + เกมในมือ 1 นัด แน่นอนว่าเด็กหงส์หวังว่าจะห่างกว่านี้เพื่อความปลอดภัย
แต่สถานการณ์จริงอย่างที่เคยบอก ขอให้นำเถอะ ความได้เปรียบมันเอามาใช้ในตอนแบบนี้
เมื่อลองเทียบเกมต่อเกม ผมว่าอาร์เซนอลไม่ได้เปรียบโปรแกรมที่เหลืออย่างที่ลองอ่านเลย เกมที่ผมใส่ไว้ในส่วนง่าย น่าชนะได้หลายๆ เกมอาร์เซนอลอาจจะเสมอก็ได้ หรือเกมที่ยากกลางๆ ของลิเวอร์พูลก็ใช่ว่าจะชนะไม่ได้ ถ้าเอามาตรฐานในฤดูกาลนี้ลิเวอร์พูลมีแนวโน้มจะห่างมากขึ้นด้วยซ้ำ
ถ้าคิดโอกาสจะได้แต้มจาก 15 เกมที่เหลือ กับ 16 เกมที่เหลือ ลิเวอร์พูลน่าจะมีโอกาสเก็บแต้มมากกว่าจริงๆ ไม่น่าแปลกใจที่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์คำนวณมาแบบนั้น หลายคนบอกคอมฯ ก็คำนวณจะเกมที่ชนะในทุกวีก ไปว่าคอมพิวเตอร์อีก
มันก็ใช่ คอมพิวเตอร์มันก็คำนวณจากโปรแกรมที่คนคีย์เข้าไป แต่มันก็เปลี่ยนแปลงไปทุกสัปดาห์ นักบินที่เก่งอาจจะขับเองได้ แต่ต้องใช้ข้อมูลที่มีจากอุปกรณ์ช่วยทั้งหมดเหล่านั้นนั่นแหล่ะ
ส่วนผมพยายามแยกตามมุมมองของตัวเองแล้ว ผมว่าแฟร์มากที่จะบอกว่าเกมที่เหลือทั้งสองทีม ยากง่ายแทบไม่ต่างกัน แน่นอน เรายังไม่ได้คำนวณปัจจัยว่าทีมใดจะชิงลีก คัพ, ลิเวอร์พูลจะไปไกลแค่ไหนในเอฟเอ คัพ หรือในแชมเปียนส์ลีกจะจับเจอใครในรอบต่อไป
ที่แน่ๆ ถ้าบอกว่าเกมที่เหลือในพรีเมียร์ลีก อาร์เซนอลง่ายกว่าลิเวอร์พูล ผมคิดว่ามองอย่างเป็นกลางจากโปรแกรมที่พิมพ์มาให้ดูนั้นไม่จริง แถมลิเวอร์พูลมีโอกาสได้แต้มมากกว่าด้วยจากเกมที่เหลือ เพราะจำนวนเกมมากกว่า
ใครเห็นเป็นยังไงแลกเปลี่ยนกันได้ ในทางปฏิบัติจริงอาจจะมีการพลาดเกมที่มองว่าง่าย หรือชนะในเกมที่ยากได้ ไม่ได้แค่บอกว่าเหลือเกมนอกบ้านมากกว่าแล้วแปลว่าจะเสียเปรียบอะไรแค่นั้น
แต่ที่วิเคราะห์มันชัดเจนว่าโปรแกรมที่เหลือมันพอๆ กัน แทบไม่ได้มีความแตกต่าง หรือมีช่วง 5 เกมอันตรายปรากฎขึ้นมาสำหรับทีมใดทีมหนึ่ง
และสุดท้ายทุกทีมก็จะเจอคู่แข่ง 19 ทีม ต่างกันแค่ไม่เจอทีมตัวเอง 2 นัดเท่านั้น เขียนเสร็จก็เบาใจได้ กับคำตอบของตัวเอง ส่วนใครเห็นโปรแกรมอาจจะมีคำตอบแตกต่างกันออกไป แม้สุดท้ายเราก็ได้แต่ลุ้นนัดต่อนัดอยู่ดี
จินตะปัญญา
#liverpool #arsenal #premierleague
โฆษณา