[Bowlingtidarat-โบลิ่งธิดารัตน์] หวีขนหมูป่ากับหวีธรรมดา ต่างกันยังไง? ถ้าพูดถึงการดูแลเส้นผม หลายคนอาจจะโฟกัสที่แชมพูหรือทรีตเมนต์เป็นหลัก แต่รู้มั้ยว่า “หวี” ก็สำคัญไม่แพ้กัน! ยิ่งถ้าเจอหวีที่เหมาะกับเส้นผมของเรา ชีวิตเปลี่ยนไปเลยน

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

•

27 ม.ค. เวลา 17:38 • ความงาม

หวีขนหมูป่ากับหวีธรรมดา ต่างกันยังไง?

ถ้าพูดถึงการดูแลเส้นผม หลายคนอาจจะโฟกัสที่แชมพูหรือทรีตเมนต์เป็นหลัก แต่รู้มั้ยว่า “หวี” ก็สำคัญไม่แพ้กัน! ยิ่งถ้าเจอหวีที่เหมาะกับเส้นผมของเรา ชีวิตเปลี่ยนไปเลยนะ และหนึ่งในหวีที่เขาฮิตกันก็คือ หวีขนหมูป่า ที่บางคนฟังแล้วอาจจะงง ว่ามันดียังไง?

หวีธรรมดากับปัญหาที่หลายคนเจอ

หวีธรรมดาทั่วไปมักทำจากพลาสติก โลหะ หรือไม้ ซึ่งใช้งานได้หลากหลาย แต่ปัญหาที่หลายคนเจอคือ:

• หวีไปแล้วเจ็บหนังหัว: ฟันหวีแข็งเกินไป บางทีดึงเส้นผมจนขาด

• ไฟฟ้าสถิต: เคยไหม? หวีเสร็จผมฟูเป็นสิงโต เพราะไฟฟ้าสถิตสะสมจากพลาสติก

• ผมพันกัน: หวีไม่ลื่น ทำให้ยิ่งหวียิ่งพัน

หวีขนหมูป่าคืออะไร?

หวีขนหมูป่า ทำจากขนหมูป่าจริงๆ ซึ่งเป็นวัสดุธรรมชาติ 100% และนี่แหละที่ทำให้มันแตกต่างจากหวีทั่วไป เพราะขนหมูป่ามีความนุ่มและยืดหยุ่นเหมือนเส้นผมของเรา เลยช่วยถนอมหนังศีรษะและเส้นผมได้ดีกว่า

ข้อดีของหวีขนหมูป่า

1. ถนอมเส้นผม: หวีไปแล้วไม่ดึงหรือทำให้ผมขาดเหมือนหวีพลาสติก

2. ช่วยกระจายน้ำมันธรรมชาติ: ขนหมูป่าช่วยดึงน้ำมันธรรมชาติจากโคนผมไปถึงปลายผม ทำให้ผมดูเงางาม สุขภาพดี

3. ลดไฟฟ้าสถิต: หมดปัญหาผมฟูฟ่อง หวีเสร็จผมดูเรียบลื่น

4. นวดหนังศีรษะ: ขนหมูป่านุ่ม ไม่ทำให้เจ็บเวลาหวี แถมยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด

ใครเหมาะกับหวีขนหมูป่า?

• คนผมแห้ง: ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ปลายผม

• คนผมยาว: หวีแล้วไม่ดึงผม

• คนที่หนังศีรษะแพ้ง่าย: ลดการระคายเคือง

แต่ข้อเสียก็มีนะ!

• ใช้กับผมหนาหรือหยิกอาจไม่เวิร์ก: เพราะขนหมูป่าอาจไม่สามารถซอกซอนผมที่หนามากๆ ได้

• ราคาสูงกว่า: แต่ถ้าคิดว่าสุขภาพผมดีขึ้นก็ถือว่าคุ้ม