28 ม.ค. เวลา 00:51 • การเกษตร

ฟาร์ม Pokkali การเกษตรของอินเดียที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

คือ การเกษตรแบบดั้งเดิมของอินเดียที่ใช้วิธีการทำนาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งส่วนใหญ่พบในรัฐเกรละ (Kerala) ทางชายฝั่งทางใต้ของอินเดีย โดยมีการปลูกข้าว Pokkali ที่เป็นพันธุ์ข้าวพื้นเมือง พร้อมกับการเลี้ยงสัตว์น้ำในพื้นที่เดียวกัน
กระบวนการนี้มีความโดดเด่นในการบูรณาการการเกษตรกับการประมง โดยไม่เพียงแต่สร้างผลผลิตทางการเกษตรเท่านั้น แต่ยังช่วยฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพและเสริมสร้างความยั่งยืนในท้องถิ่นด้วย
ที่มาของฟาร์ม Pokkali
ฟาร์ม Pokkali เกิดขึ้นในพื้นที่ที่น้ำทะเลไหลผ่าน ซึ่งลักษณะของดินในพื้นที่นี้ไม่สามารถทำการเกษตรแบบปกติได้ดี เนื่องจากน้ำเค็มที่ไหลมาจากทะเลทำให้พื้นดินมีความเค็มสูง แต่ชาวบ้านได้ปรับวิธีการทำนาโดยการปลูกข้าว Pokkali ที่ทนทานต่อความเค็มและการใช้พื้นที่ในการเลี้ยงสัตว์น้ำ
กระบวนการทำฟาร์ม Pokkali
ฟาร์ม Pokkali จะมีลักษณะเป็นระบบนิเวศที่มีการผสมผสานระหว่างการทำนาและการเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยสามารถแบ่งออกเป็น 2 ช่วงหลักๆ
ช่วงการปลูกข้าว Pokkali ในช่วงฤดูฝนที่น้ำทะเลมีระดับต่ำ ชาวเกษตรกรจะปลูกข้าว Pokkali ซึ่งเป็นพันธุ์ข้าวที่มีความสามารถในการทนทานต่อสภาพน้ำเค็มได้ดี ข้าวพันธุ์นี้จะปลูกในแปลงนาที่มีน้ำท่วมขัง และจะเติบโตได้ดีในสภาพที่มีความเค็มสูง
Credit ภาพจาก pokkali.in
ช่วงการเลี้ยงสัตว์น้ำ ในช่วงที่น้ำทะเลสูงขึ้นในฤดูร้อน (ประมาณเดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคม) ฟาร์ม Pokkali จะเปลี่ยนไปเป็นพื้นที่เลี้ยงสัตว์น้ำ เช่น กุ้ง ปลา หรือหอย ซึ่งจะช่วยให้ระบบนิเวศมีความหลากหลายมากขึ้นและทำให้เกษตรกรสามารถทำการประมงควบคู่ไปกับการทำนาได้
Creditภาพจาก MSSRF Cabc
ข้อดีของฟาร์ม Pokkali
เพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ ระบบเกษตรแบบนี้ช่วยเสริมสร้างความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่เพราะมีทั้งพืชและสัตว์น้ำที่เติบโตในระบบเดียวกัน
ความยั่งยืน การใช้พื้นที่เดียวในการทำทั้งการเกษตรและการประมงช่วยให้ฟาร์มมีความยั่งยืนและลดการใช้ทรัพยากรที่มากเกินไป
ช่วยในการฟื้นฟูดิน การเลี้ยงสัตว์น้ำช่วยให้ดินในพื้นที่ได้รับการฟื้นฟูจากปุ๋ยที่สัตว์น้ำทิ้งไว้ในระหว่างการเลี้ยง ซึ่งช่วยเพิ่มคุณภาพดินในการทำนาต่อไป
การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ: ฟาร์ม Pokkali ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในท้องถิ่น (น้ำทะเล) ให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งในด้านการเกษตรและประมง
ความท้าทาย
การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อการทำฟาร์ม Pokkali โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของความเค็มที่มากขึ้น
การสูญเสียความรู้ดั้งเดิม
ฟาร์ม Pokkali เป็นการเกษตรที่ขึ้นอยู่กับความรู้และวิธีการทำนาของท้องถิ่น หากไม่ได้รับการถ่ายทอดต่อไป การทำฟาร์มในลักษณะนี้อาจสูญหายไป
ผลกระทบจากการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการเกษตรหรือการเลี้ยงสัตว์น้ำอาจมีผลกระทบต่อการเกษตรแบบดั้งเดิมที่ยังคงใช้วิธีการทำงานร่วมกับธรรมชาติ
ความสำคัญในปัจจุบัน
แม้ว่าฟาร์ม Pokkali เป็นวิธีเกษตรแบบดั้งเดิมที่อยู่ในพื้นที่จำกัด แต่การทำฟาร์มประเภทนี้ได้รับความสนใจจากนักวิจัยและองค์กรที่มุ่งเน้นการพัฒนาการเกษตรที่ยั่งยืนในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย ทั้งนี้ หลายพื้นที่ในอินเดียและทั่วโลกเริ่มให้ความสำคัญกับการเกษตรที่สามารถทำงานร่วมกับธรรมชาติได้เพื่อสร้างความยั่งยืนและหลีกเลี่ยงผลกระทบจากการเกษตรในรูปแบบที่เป็นการใช้ทรัพยากรเกินขนาด
ฟาร์ม Pokkali เป็นตัวอย่างที่ดีของการเกษตรผสมผสานระหว่างการปลูกข้าวและการประมงในพื้นที่ที่มีสภาพน้ำเค็ม ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยให้ชุมชนสามารถสร้างผลผลิตจากการเกษตรและประมงได้ในพื้นที่เดียวกัน แต่ยังมีประโยชน์ต่อการฟื้นฟูดินและการเสริมสร้างความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นการเกษตรที่ช่วยส่งเสริมความยั่งยืนในชุมชนโดยใช้ทรัพยากรในท้องถิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ
โฆษณา