28 ม.ค. เวลา 07:45 • หุ้น & เศรษฐกิจ

เจาะเทรนด์ “Gen Y-Wealth เจนวายล่ำซำ” พร้อมเปย์ไม่อั้น

The 1 Insight เจาะเทรนด์ผู้บริโภค “Gen Y-Wealth เจนวายล่ำซำ” พบใช้จ่ายสูงกว่า Gen Y ทั่วไป 7 เท่า เพื่อภาพลักษณ์ ประสบการณ์ และความสะดวกสบาย
The 1 Insight ชี้ทางธุรกิจปลุกยอดขายรับปี 2025 เผยกลยุทธ์เจาะกลุ่มผู้บริโภค “Gen Y-Wealth เจนวายล่ำซำ” ซึ่งก็คือกลุ่ม Gen Y (อายุ 25-40 ปี) ที่อยู่ใน Wealth Segment ของประเทศไทย โดยกลุ่ม Gen Y-Wealth มีการใช้จ่ายสูงกว่า 7 เท่าเมื่อเทียบกับ Gen Y ทั่วไป จึงเป็นลูกค้า High Value และ Premium Consumers ถือเป็นโอกาสทองสำหรับหลากหลายกลุ่มธุรกิจในปัจจุบันและอีกหลายทศวรรษต่อจากนี้
เจาะเทรนด์ “Gen Y-Wealth เจนวายล่ำซำ” พร้อมเปย์ไม่อั้น
อินไซต์หลักที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจใช้จ่ายของกลุ่ม Gen Y-Wealth
  • พร้อมจ่ายเพื่อ “ภาพลักษณ์” โดยเฉพาะในหมวดแฟชั่นลักชัวรี่และบิวตี้
  • เหนือระดับด้วย “ประสบการณ์” มากกว่าเพียงการซื้อสินค้า
  • ช้อปได้ “ไร้รอยต่อ” เน้นความสะดวกสบาย ไร้ข้อจำกัด
ปฏิเสธไม่ได้ว่า Gen Y เป็นกลุ่มผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลักในปัจจุบัน ภายในปี 2025 นี้ ชาว Gen Y จะครองสัดส่วนมากถึง 75% ของวัยแรงงานทั่วโลก ความสามารถในการหารายได้ทำให้พวกเขากลายเป็นกลุ่มผู้บริโภคสำคัญในตลาด อย่างไรก็ตามการวิเคราะห์เชิงลึกจาก The 1 Insight ยังเผยให้เห็นถึงกลุ่มย่อยที่เรียกว่า “Gen Y-Wealth เจนวายล่ำซำ” แม้เป็นเพียง 1% ของ Gen Y ทั้งหมด แต่กลับมีการใช้จ่ายที่สูงกว่ากลุ่มอื่น ๆ คิดเป็น 30% ของการใช้จ่ายรวม
กลุ่ม Gen Y-Wealth มีการใช้จ่ายเฉลี่ยมากกว่า Gen Y ทั่วไปถึง 7 เท่า สะท้อนให้เห็นว่ากลุ่มนี้มีศักยภาพในการจับจ่ายและสร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจในระดับสูง
กลุ่ม Gen Y-Wealth ประกอบไปด้วยทั้งกลุ่มผู้สืบทอดทรัพย์สินจากครอบครัวรุ่น Silent Generation และ Baby Boomers และกลุ่มนักธุรกิจที่สร้างตัวเองจากเศรษฐกิจใหม่ (New Economy) เช่น ธุรกิจ E-commerce และเทคโนโลยี นอกจากนี้ Gen Y กำลังจะเป็นผู้รับประโยชน์จากปรากฏการณ์ส่งต่อทรัพย์สินระดับโลกที่เรียกว่า Great Wealth Transfer ซึ่งมีมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ Gen Y มีศักยภาพที่จะกลายเป็นหนึ่งในรุ่นที่ร่ำรวยที่สุดในประวัติศาสตร์
1.พร้อมจ่ายเพื่อ “ภาพลักษณ์”
แรงจูงใจหลักของกลุ่ม Gen Y-Wealth สอดคล้องกับ Gen Y เน้นสร้างภาพลักษณ์มากกว่าช่วงวัยอื่น ๆ สอดคล้องกับแนวคิด "Generation ME" ของนักจิตวิทยา โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาเติบโตมากับโซเชียลมีเดียที่การนำเสนอชีวิตและเปรียบเทียบกับผู้อื่นเป็นเรื่องปกติ ที่สำคัญคือ กลุ่ม Gen Y-Wealth มีความพร้อมทางการเงินที่จะตอบสนองความต้องการดังกล่าว ทำให้พวกเขาเป็นกลุ่ม Premium Consumers
ที่ทรงอิทธิพลอย่างมากในตลาดปัจจุบัน โดยสัดส่วนการใช้จ่าย 50% ของกลุ่ม Gen Y-Wealth อยู่ในหมวดสินค้าแฟชั่นลักชัวรี่และบิวตี้ มีการใช้จ่ายในหมวดแฟชั่นลักชัวรี่มากกว่ากลุ่มอื่น ๆ 15 เท่า และในหมวดบิวตี้มากกว่าถึง 4 เท่า
สินค้าแฟชั่นลักชัวรี่ขายดีในกลุ่ม Gen Y-Wealth
Luxury Watch, Fine Jewelry, Designer Fashion ส่วนใหญ่นิยมช้อปปิ้งในห้างหรู เช่น เซ็นทรัล เอ็มบาสซี และห้างสรรพสินค้าอื่น ๆ ในระดับเดียวกัน ซึ่งเต็มไปด้วยแบรนด์ลักชัวรี่ระดับโลก นอกจากนั้นยังพบว่ามีกลุ่มที่ชื่นชอบกลุ่มแบรนด์ Quiet Luxury ที่ยังมีการเติบโตโดดเด่นและมอบภาพลักษณ์หรูในอีกระดับหนึ่ง
40% ของกลุ่ม Gen Y-Wealth เป็นคุณพ่อคุณแม่ ดังนั้นพฤติกรรมการใช้จ่ายในหมวดแฟชั่นจึงรวมแฟชั่นสำหรับเด็กด้วย โดยกลุ่ม Gen Y-Wealth มีการใช้จ่ายกับเสื้อผ้าสำหรับเด็กมากกว่าคนรุ่นอื่น ๆ ถึง 2 เท่า
สินค้าบิวตี้ขายดีในกลุ่ม Gen Y-Wealth
Shimmer Pressed Powder, Intensive Wrinkle Treatment, Luxury Perfume สะท้อนความสำคัญของความงามในฐานะส่วนหนึ่งของการแสดงออกตัวตนของพวกเขา คนในช่วงวัยนี้การลงทุนดูแลความงามด้วยสินค้าบิวตี้เป็นการสร้าง Personal Branding ที่แข็งแกร่ง พร้อมด้วยความตระหนักรู้ถึงคุณค่าของมอบสิ่งดี ๆ ให้กับตนเอง
2.เหนือกว่าด้วย “ประสบการณ์”
กลุ่ม Gen Y-Wealth ให้ความสำคัญกับประสบการณ์มากกว่ากลุ่ม Gen Y ทั่วไปอย่างชัดเจน มีการใช้จ่ายในการท่องเที่ยวต่างประเทศมากกว่ากลุ่มอื่น ๆ ถึง 4 เท่า นอกจากนี้การเลือกใช้บริการที่หรูหรา เช่น โรงแรมระดับโลก หรือการเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษ เป็นสิ่งที่กลุ่มนี้ให้ความสำคัญสูง
เพราะเป็นการสร้างประสบการณ์ที่มีค่าและน่าจดจำ มากกว่าการใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าเพียงอย่างเดียว ดังนั้น แบรนด์ที่ต้องการดึงดูดกลุ่ม Gen Y-Wealth ควรเน้นการมอบประสบการณ์พิเศษที่ตอบสนองความต้องการในด้านความหรูหราและความแตกต่าง เพื่อสร้างความประทับใจที่เหนือกว่ากลุ่ม Gen Y ทั่วไป
ชาว Gen Y-Wealth ชื่นชอบการเป็นสมาชิกของ Privilege Club ต่าง ๆ มีจำนวนสมาชิกสูงเป็นอันดับ 2 รองจาก Gen X ในโปรแกรม The 1 Exclusive และเป็นหนึ่งในกลุ่มที่มีสัดส่วนสมาชิกสูงในโปรแกรม Cenfinity ซึ่งเป็นโปรแกรมพิเศษสำหรับกลุ่ม Top Customers ลูกค้าคนสำคัญของห้างเซ็นทรัล ห้างโรบินสัน และเซ็นทรัล เอ็มบาสซี โดยทั้งสองโปรแกรมดังกล่าวเป็นผู้นำด้านการดูแลลูกค้า Wealth Segment ของไทย
แบรนด์ไม่สามารถเข้าถึงของกลุ่มดังกล่าวด้วยการโฆษณาสรรพคุณสินค้าตรง ๆ เพียงอย่างเดียว ทว่าอาจนำเสนอแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ในฐานะผู้มอบประสบการณ์ที่ช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์และสถานะทางสังคมของพวกเขา
3.ช้อปได้ “ไร้รอยต่อ”
เนื่องจากเติบโตมาพร้อมกับยุคดิจิทัล กลุ่ม Gen Y-Wealth จึงมีความคุ้นเคยกับทั้งโลก Physical และ Digital ดังนั้นแบรนด์จึงต้องมอบประสบการณ์ “Phygital” ที่เชื่อมโยงโลกจริงและโลกดิจิทัลเข้าไว้อย่างไร้รอยต่อ โดยผู้บริโภคกลุ่มนี้ใช้จ่ายผ่าน E-Commerce และ Personal Shopper มากกว่า 4 เท่า เมื่อเทียบกับกลุ่มอื่น ๆ เพื่อรับคำแนะนำหรือทำการซื้ออย่างสะดวกสบายได้ในทันที รวมถึงนิยมใช้บริการแอปพลิเคชั่นเดลิเวอรี่ เช่น LINE MAN
ส่วนการช้อปที่หน้าร้านก็ยังคงให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายสูงสุด โดยกลุ่ม Gen Y-Wealth นิยมช้อปในช่วงวันธรรมดาระหว่างวันมากกว่า 2 เท่า เมื่อเทียบกับกลุ่มอื่น ๆ สะท้อนถึงความต้องการประสบการณ์ที่สะดวกสบายและเป็นส่วนตัว โดยไม่ได้จำกัดว่าจะเป็นช่องทาง Physical หรือ Digital นั่นเอง
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ : https://www.pptvhd36.com/wealth/trick-trend/241457
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
โฆษณา