31 ม.ค. เวลา 10:45 • ธุรกิจ

‘ทิ้งคู่แข่งให้ไกล’ ด้วย 10 เทรนด์การตลาด 2025 ที่ใช้แซงหน้าคู่แข่งได้ตั้งแต่ตอนนี้

พฤติกรรมผู้บริโภคเป็นรากฐานสำคัญของกลยุทธ์การตลาดทั้งหมด
การเข้าใจว่าทำไมผู้บริโภคถึงซื้อ และปัจจัยภายนอกที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อ สามารถช่วยให้สร้างกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นได้
จากปีที่ผ่านๆ มาพวกเราจำเป็นจะต้องศึกษาความเป็นไปได้ของพฤติกรรมผู้บริโภค ว่ามันจะเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยเพียงใด สิ่งใดคือแรงขับเคลื่อนที่ส่งผลโดยตรงกับพฤติกรรม สิ่งเหล่านั้นสำคัญมากๆ กับการออกแบบกลยุทธ์การตลาด
โดยแรงขับเคลื่อนมีหลายรูปแบบ ซึ่งเกิดขึ้นมาจากปัจจัยที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น โลกหลังการระบาดของ COVID-19 เทคโนโลยีใหม่ ความตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อม และความหลากหลายทางเพศ ทั้งหมดล้วนมีผลต่อพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบัน และส่งผลโดยตรงไปถึงการออกแบบการตลาดให้ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย ก่อนอื่นเรามามองภาพรวมของการเปลี่ยนแปลงในหลายมิติของพฤติกรรมผู้บริโภคกันดีกว่า
⭐ การเปลี่ยนแปลงทางสังคม (Societal Changes)
- ผู้คนการยอมรับความหลากหลาย (Inclusivity) ที่เกิดขึ้นไม่ว่ากับทางเพศ หรือ ทางชาติพันธุ์มากยิ่งขึ้น
- การปรับตัวต่อค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น (Rising Costs) ค่าครองชีพที่สูงขึ้น ทำให้ผู้คนใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง
- ความตระหนักด้านสุขภาพจิต (Mental Health Awareness) ผู้บริโภคเบนเข็มการใช้จ่ายไปยังสิ่งของที่ส่งผลดีต่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น
- การเพิ่มขึ้นของผู้บริโภคสูงวัย (Aging Population) และการเข้าสู่กลุ่มเป้าหมายของ Gen Alpha เปลี่ยนเกมการตัดสินใจภายในครัวเรือน
⭐ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี (Technological Advancements)
- การเข้าถึงข้อมูลและแพลตฟอร์มดิจิทัลทำให้ผู้บริโภคมีอำนาจต่อรองมากขึ้น
⭐ ความคาดหวังเรื่องความยั่งยืน (Sustainability)
- แบรนด์ที่มุ่งเน้นความยั่งยืนดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ได้ง่าย
นอกจากนี้ กลุ่มผู้บริโภคยังมีความคาดหวังที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ
⭐ ความคาดหวังที่เพิ่มขึ้น
- ผู้บริโภคคาดหวังประสบการณ์ที่เฉพาะเจาะจงและปรับให้เหมาะกับความต้องการของตนเอง
- การพัฒนาเทคโนโลยี เช่น การซื้อสินค้าผ่านมือถือกลายเป็นสิ่งจำเป็น
⭐ คุณค่าและความเชื่อ
- ผู้บริโภคไม่เพียงแค่ซื้อสินค้า แต่ยังสนับสนุนหลักการของแบรนด์ เช่น ความยั่งยืนและความโปร่งใส แบรนด์ที่ใช้ประโยชน์จากความเชื่อเหล่านี้มักประสบความสำเร็จในการดึงดูดลูกค้า เช่น Patagonia
ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในพฤติกรรมผู้บริโภค
⭐ จาก Mass Marketing สู่การตลาด Personalisation: การใช้ข้อมูลเชิงลึกช่วยสร้างประสบการณ์ที่ตรงใจ
⭐ การปฏิวัติทางดิจิทัล (Digital Revolution): การเพิ่มขึ้นของอีคอมเมิร์ซและการช้อปปิ้งผ่านมือถือ
⭐ บทบาทของคุณค่าและความเชื่อ (Role of Values): ผู้บริโภคเลือกซื้อสินค้าที่สะท้อนถึงคุณค่ามากกว่าราคาของมัน
⭐ ผู้บริโภคมีอำนาจมากขึ้น: การเข้าถึงข้อมูลและแพลตฟอร์ม เช่น รีวิวใน TripAdvisor หรือ Trustpilot ช่วยเพิ่มอำนาจให้ผู้บริโภค รวมทั้งผู้บริโภคมีบทบาทเชิงรุก เช่น การวิจารณ์และการคว่ำบาตรแบรนด์ (Cancel Culture) เพื่อแสดงพลัง
⭐ การปรับเปลี่ยนรูปแบบการตลาด: แบรนด์ต้องให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของลูกค้าในระดับลึก เช่น การสร้างความสัมพันธ์ระยะยาว และการปรับแต่งผลิตภัณฑ์หรือบริการ
ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยที่นำมาสู่ทิศทางอนาคตของการตลาด 10 เทรนด์สำคัญที่จะขับเคลื่อนองค์กรและแบรนด์ของคุณให้เติบโตขึ้นได้ดียิ่งขึ้น หากไม่อยากถูกดีดตัวออกจากตลาดการแข่งขัน ต้องเตรียมตัวรับมือ!
[ 10 Trends การตลาดประจำปี 2025 เตรียมตัวรับมือได้ตั้งแต่วันนี้! ]
🎆 1. Hyper-Personalized Marketing - การตลาดแบบเฉพาะบุคคล การเชื่อมโยงเทคโนโลยีเข้ากับชีวิตประจำวัน เช่น แพลตฟอร์มดิจิทัลและอีคอมเมิร์ซ
การเชื่อมโยงเทคโนโลยีเข้ากับชีวิตประจำวันไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ในปี 2025 แบรนด์ต้องก้าวไปไกลกว่าเดิม โดยนำข้อมูลพฤติกรรมของผู้บริโภคมาวิเคราะห์และปรับเปลี่ยนสินค้า บริการ และประสบการณ์ให้ตรงใจในระดับบุคคล ตัวอย่าง แพลตฟอร์มดิจิทัลที่สามารถนำเสนอสินค้าเฉพาะตัวแบบ Real-Time หรืออีคอมเมิร์ซที่ปรับการแนะนำสินค้าให้เหมาะกับความชอบและพฤติกรรมของลูกค้า จะสามารถสร้างความประทับใจและส่งผลต่ออัตราการเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายมาเป็นลูกค้าได้
🎆 2. Values-Driven Branding - การเน้นย้ำความเชื่อและคุณค่าร่วมระหว่างแบรนด์และผู้บริโภค
แบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในยุคนี้ไม่ใช่แค่ขายสินค้า แต่ต้องสร้างความเชื่อมโยงทางอารมณ์กับลูกค้า เช่น การสนับสนุนความยั่งยืน ความหลากหลาย หรือความโปร่งใสที่สอดคล้องกับค่านิยมของผู้บริโภค ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ Patagonia ที่เน้นเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ทำให้ผู้บริโภคสนับสนุนเพราะรู้สึกว่าได้เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างผลกระทบเชิงบวก โดยไม่เป็นการถูกบังคับ
🎆 3. Agile Marketing Strategies - การตลาดต้องการความยืดหยุ่น การตลาดต้องปรับตัวได้เร็วเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลง
ความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วในโลกธุรกิจและพฤติกรรมผู้บริโภคทำให้แบรนด์ต้องปรับตัวอย่างรวดเร็ว การทำแคมเปญแบบยาวนานอาจไม่ใช่คำตอบอีกต่อไป แต่ต้องสร้างกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ได้ทันที เช่น การตอบสนองต่อกระแสโซเชียลที่มาไวไปไว อย่าคาดหวังกับแคมเปญระยะยาวเพียงอย่างเดียว แต่ต้องลงมาเล่นในตลาดเกมไวด้วย
🎆 4. Data-Driven Consumer Insights - การใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีในการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคเพื่อการตัดสินใจที่แม่นยำเป็นสิ่งจำเป็น
ในยุคที่ข้อมูลคือทรัพยากรสำคัญ แบรนด์ต้องลงทุนใน AI และ Machine Learning เพื่อวิเคราะห์และคาดการณ์พฤติกรรมผู้บริโภคได้อย่างแม่นยำ การใช้ข้อมูลแบบเชิงลึกช่วยให้สามารถออกแบบกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการได้ดีกว่า แต่หากคุณเริ่มต้นลงทุนใน AI และ ML ในปีนี้ มีความเสี่ยงสูงมากๆ ที่จะตามไม่ทันผู้เล่นรายแรกๆ ดังนั้น การเลือกใช้โซลูชันหรือบริการในด้านนี้อาจจะเหมาะสมกว่าการลงทุนเอง
🎆 5. Privacy-First Marketing - ความสำคัญของการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล
ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวมากขึ้นในยุคดิจิทัล แบรนด์ที่มีกลยุทธ์ชัดเจนในการปกป้องข้อมูล และสร้างความไว้วางใจให้กับลูกค้าจะเป็นผู้ชนะในระยะยาว
🎆 6. Sustainable and Circular Marketing - การตลาดต้องลดของเสียและส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน
แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ไม่ใช่แค่แนวโน้ม แต่เป็นความจำเป็น การออกแบบผลิตภัณฑ์และการตลาดต้องคำนึงถึงการลดขยะ การรีไซเคิล และสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม ดังนั้น ผลิต-ใช้-ซ้ำ คือทางรอดหากคุณวางกลุ่มเป้าหมายไว้เป็นคนที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม
🎆 7. Seamless Customer Experience - ผู้บริโภคต้องการประสบการณ์ที่รวดเร็วและไร้รอยต่อ
ยุคนี้ความเร็วคือปัจจัยสำคัญ ผู้บริโภคคาดหวังว่าจะได้รับสินค้า บริการ และการสนับสนุนที่ไร้รอยต่อ ตั้งแต่การซื้อของออนไลน์จนถึงการจัดส่งที่รวดเร็ว ระยะเวลาระหว่างปลายนิ้วสัมผัสปุ่มชำระเงินและของมาส่งน้อยเท่าไหร่ ยิ่งได้ใจลูกค้า
🎆 8. O2O Integration - ต้องทำการตลาดทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์
กลยุทธ์ Online-to-Offline (O2O) จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ แบรนด์ต้องสร้างประสบการณ์ที่เชื่อมโยงกันทั้งสองช่องทาง ตัวอย่าง การซื้อสินค้าออนไลน์และไปรับที่ร้าน หรือกิจกรรมในร้านค้าที่สร้างประสบการณ์แบบดิจิทัล สามารถเชื่อมโยงกับเทรนด์ที่ 7 ได้ ด้วยการสร้างความอยากผ่านออนไลน์และนำเสนอแนวทางการได้มาที่ง่ายดายที่สุดคือการเข้าไปซื้อที่ช็อป
🎆 9. Shaping Lives Gen Alpha & Aging Society - Gen Alpha และ Aging Society เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของครัวเรือน
Gen Alpha กำลังเริ่มมีบทบาทในกระบวนการตัดสินใจของครอบครัว ในขณะที่กลุ่มผู้สูงวัย (Aging Society) กำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว การตลาดที่ประสบความสำเร็จในปี 2025 ต้องออกแบบสินค้าและบริการที่ตอบสนองทั้งสองกลุ่มนี้อย่างสมดุล
🎆 10. Purpose-Led Brands - ความต้องการแบรนด์ที่มีจุดยืน
ผู้บริโภคโดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z ต้องการแบรนด์ที่มีจุดยืนชัดเจนในประเด็นสังคม เช่น สิ่งแวดล้อม ความเท่าเทียมทางเพศ และสิทธิมนุษยชน แบรนด์ที่หลีกเลี่ยงการแสดงจุดยืนในประเด็นเหล่านี้อาจถูกมองว่าขาดความรับผิดชอบต่อสังคม
ตัวเลขที่น่าสนใจบอกว่า
- 76% ของผู้บริโภคคาดหวังความหลากหลายในโฆษณา
- 69% เชื่อว่าแบรนด์ที่มุ่งมั่นใน ESG และ DE&I น่าเชื่อถือและน่าซื้อสินค้ามากกว่า
ดังนั้น หากคุณต้องการจะมีชัยในการแข่งขันของปี 2025 การเข้าใจเทรนด์การตลาดจากกลุ่มผู้บริโภคจึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกจากนี้การใช้เครื่องมือ Martech และ AI ยังคงเป็นสิ่งสำคัญ เช่น Social Listening Tools ใช้สำหรับติดตามความคิดเห็นของผู้บริโภค Google Trends ใช้เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มในตลาด การแบ่งกลุ่มลูกค้า (Customer Segmentation) ด้วยระบบ CRM เพื่อปรับแต่งการตลาด AI และ Predictive Analytics ช่วยพยากรณ์พฤติกรรมผู้บริโภค เครื่องมือเหล่านี้ก็เป็นตัวเปลี่ยนเกมที่สำคัญเช่นกัน
หากคุณอยากเป็นหนึ่งในผู้รอดของสมรภูมินี้ ต้องตามศึกษาเทรนด์ความเป็นไปได้เพื่อรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างทันท่วงที ไม่ใช่รอให้เกิดขึ้นแล้วค่อยมาตามกระแส หากเป็นเช่นนั้น คุณอาจจะไม่ใช่หนึ่งในผู้ชนะของปีนี้ก็ได้…
เขียนโดย ธนพนธ์ หัสกรรัตน์
#FutureTrends #FutureTrendsetter #FutureTrendsBusiness
โฆษณา