เมื่อวาน เวลา 07:48 • ธุรกิจ

‘จาก Hailey Bieber ถึง Lisa’

กลยุทธ์การตลาดแบบฉบับ Erewhon ที่สร้าง 'Influencer Playbook' ขึ้นมา จนกลายเป็นแบรนด์ไอคอนแห่งยุค
หากพูดถึงแบรนด์ที่สามารถเปลี่ยนสิ่งธรรมดาให้กลายเป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมประชานิยมได้ในยุคนี้ ชื่อของ ‘Erewhon’ คงจะเป็นตัวอย่างที่โดดเด่นที่สุด ไม่เพียงแต่สร้างน้ำปั่นและเครื่องดื่มที่ทำให้คนหลงใหลเท่านั้น แต่ Erewhon ยังสร้างปรากฏการณ์ที่เชื่อมโยงสินค้าเข้ากับวิถีชีวิต จนกลายเป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์ที่ผู้คนอยากมีส่วนร่วมแห่งยุค
ตั้งแต่การเปิดตัว ‘Strawberry Glaze Smoothie’ ของ ‘Hailey Bieber’ ที่กลายเป็นไวรัลบน TikTok จนมาถึง ‘Thai Up The World Iced Tea’ ของ ‘Lisa - ลิซ่า ลลิษา มโนบาล’ ที่สะท้อนความเป็นไทย ความสำเร็จนี้เกิดจาก Erewhon ที่ได้วางกลยุทธ์อันทรงพลังผ่าน ‘Influencer Playbook’ ซึ่งใช้การร่วมมือกับคนดังในการสร้างสินค้าให้กลายเป็นมากกว่าการบริโภค
ในบทความนี้ เราจะวิเคราะห์กลยุทธ์ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ Erewhon และการใช้ Influencer Playbook ที่ไม่เพียงแต่สร้างรายได้มหาศาล แต่ยังทำให้แบรนด์ครองใจผู้บริโภค
[ Erewhon จากร้านของชำสุดหรู สู่แบรนด์แห่งไลฟ์สไตล์ ]
Erewhon ไม่ใช่ร้านของชำธรรมดา แต่เป็นแบรนด์ที่ผสมผสานไลฟ์สไตล์ สุขภาพ และความหรูหราเข้าไว้ด้วยกัน ด้วยประวัติยาวนานตั้งแต่ปี 1966 Erewhon เริ่มต้นจากความตั้งใจที่จะส่งเสริมอาหารเพื่อสุขภาพสู่ผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกา จนถึงวันนี้ Erewhon ได้สร้างตัวเองให้เป็นแบรนด์ที่ไม่ได้ขายแค่สินค้าออร์แกนิกหรือน้ำปั่น แต่ขาย ประสบการณ์และแรงบันดาลใจ
ที่ผู้คนอยากเป็นส่วนหนึ่ง กับการได้ถ่ายภาพที่มีสินค้า Erewhon หรือโพสต์เกี่ยวกับน้ำปั่นกลายเป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนถึงการมีชีวิตแบบ ‘It Lifestyle’ ซึ่งไม่เพียงแต่ได้รับความนิยมในหมู่คนดัง แต่ยังแพร่หลายไปยังผู้บริโภคทั่วไปที่หลงใหลในความพิเศษของแบรนด์นี้
สำหรับกลยุทธ์ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ Erewhon นั้น สามารถวิเคราะห์ได้ ดังนี้
[ 1. การเปลี่ยน ‘สินค้า’ ให้กลายเป็น ‘ประสบการณ์’ ]
หัวใจสำคัญของ Erewhon คือการทำให้สินค้าเป็นมากกว่าแค่การบริโภค แต่ต้องเปลี่ยนให้มันเป็นสัญลักษณ์ของ ‘ความสำเร็จและไลฟ์สไตล์’ ทุกครั้งที่ Erewhon เปิดตัวน้ำปั่นใหม่ ผู้คนไม่ได้ซื้อเพราะอยากลองรสชาติเท่านั้น แต่พวกเขาอยากเป็นส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์ที่สดใหม่ อยากได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในคนที่ได้ทดลองกระแสแห่งยุคสมัยนี้
ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดคือ Strawberry Glaze Smoothie ของ Hailey Bieber ที่ไม่ใช่แค่เครื่องดื่ม แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการโปรโมตแบรนด์สกินแคร์ Rhode โดยตรง ด้วยการเชื่อมโยงความงามและสุขภาพผ่านน้ำปั่น Erewhon ทำให้ผู้บริโภคไม่ได้รู้สึกว่ากำลังซื้อน้ำปั่น แต่เป็นการซื้อประสบการณ์ที่สะท้อนถึงความเป็น Hailey
ช่วงปีที่แล้วในประเทศไทยก็ได้มีกระแส ‘น้ำปั่นแม่ชม’ ที่มาจาก Erewhon เช่นเดียวกัน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นกลยุทธ์ที่ทำให้น้ำปั่นมีฟังก์ชันมากกว่าแค่การเป็นเครื่องดื่ม ในบางครั้งมันอาจจะส่งผลต่อสถานภาพทางสังคมเลยก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นราคา หรือ รสนิยมก็ตาม
[ 2. ‘Influencer Playbook’ สูตรลับสร้างไวรัล ]
กลยุทธ์การใช้ผู้ทรงอิทธิพลของ Erewhon มีมากกว่าการจ้างคนดังเพื่อโปรโมตสินค้า พวกเขาเปลี่ยนผู้ทรงอิทธิพลให้กลายเป็น ‘ผู้ร่วมสร้างสรรค์’ สินค้าของพวกเขาอย่างแท้จริง และมันได้ผลดีมากๆ จากปัจจัยหลายๆ อย่าง ดังนี้
🥤 ความเป็นเจ้าของร่วม: การให้ Influencer ร่วมสร้างสินค้า ทำให้พวกเขามีส่วนได้ส่วนเสียกับความสำเร็จของสินค้า ซึ่งสร้างความจริงใจในการโปรโมตให้กับแบรนด์อย่างมาก
🥤 ความพิเศษและจำกัดเวลา: การเปิดตัวสินค้าแบบ Limited Edition ทำให้เกิดความเร่งด่วนในการซื้อ การตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคมีเวลาเข้ามาเกี่ยวข้อง สร้างข้อได้เปรียบในการปิดการขายได้เป็นอย่างดี
🥤 การสร้างกระแสผ่าน UGC (User-Generated Content): เมื่อ Hailey Bieber โพสต์เกี่ยวกับน้ำปั่นของเธอใน TikTok มีผู้ใช้หลายพันคนสร้างคอนเทนต์ต่อจากนั้น ส่งผลให้แบรนด์เข้าถึงผู้คนจำนวนมหาศาล และที่สำคัญมันคือ Organic จากอิทธิพลอันทรงพลังของ Influencer
ในกรณีของ ลิซ่า กับ Thai Up The World Iced Tea Erewhon ได้สร้างความน่าสนใจด้วยการเชื่อมโยงวัฒนธรรมไทยผ่านรสชาติและวัตถุดิบอย่าง Colostrum ที่เน้นคุณประโยชน์เพื่อสุขภาพ รวมไปถึงความโด่งดังของลิซ่าในระดับโลกเองก็ตาม เป็นสิ่งที่ช่วยเกื้อหนุนและประชาสัมพันธ์ได้เป็นอย่างดี
[ 3. สร้างแบรนด์ให้เป็น 'It Lifestyle' ]
Erewhon ไม่ได้ขายน้ำปั่น แต่ขายความเป็น 'It Lifestyle' การมีแก้วน้ำของ Erewhon ในมือ หรือโพสต์ภาพพร้อมน้ำปั่นใน Instagram กลายเป็นเครื่องหมายของคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพและมีสไตล์
ในปี 2023 Erewhon ขายสินค้าเพียง 10 สาขา แต่กลับทำกำไรได้กว่า $171.4 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่พิสูจน์ว่าพวกเขาไม่ได้ขายแค่สินค้า แต่ขายสถานะทางสังคม ที่คนในยุคดิจิทัลให้ความสำคัญมากๆ
[ 4. การจับมือกับแบรนด์และบุคคลที่หลากหลาย ]
Erewhon ไม่ได้จำกัดตัวเองแค่การร่วมมือกับคนดัง แต่ยังสร้างความหลากหลายด้วยการจับมือกับแบรนด์ที่สะท้อนค่านิยมเดียวกัน เช่น การร่วมมือกับแบรนด์ดูแลสุขภาพ Arrae เพื่อสร้างน้ำปั่น Cocojito หรือการเปิดตัว Tazz Tonic กับแบรนด์รองเท้า UGG ที่มาพร้อมรองเท้าลายปาล์มสุดพิเศษ
ส่งเสริมความหลากหลายไปพร้อมๆ กับการทำแบรนด์ที่ย้ำคุณค่าเดิมของตัวเอง
[ บทเรียนจาก Erewhon สำหรับนักการตลาด ]
⭐ การสร้างสินค้าด้วยผู้ทรงอิทธิพล: อย่าจ้างผู้ทรงอิทธิพลเพื่อโปรโมตสินค้า แต่ให้พวกเขาเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการพัฒนา
⭐ ความสำคัญของการเล่าเรื่อง: สินค้าไม่ใช่แค่สิ่งที่ขาย แต่เป็นเรื่องราวและความรู้สึกที่ผู้บริโภคได้รับ
⭐ การสร้างสถานะทางสังคมผ่านแบรนด์: ทำให้สินค้าของคุณเป็นสิ่งที่ผู้คนอยากอวด สร้างความต้องการซื้อได้เป็นอย่างดี
[ บทสรุป กลยุทธ์ที่เปลี่ยนสินค้าธรรมดาให้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งไลฟ์สไตล์ ]
กลยุทธ์การตลาดแบบ Influencer Playbook ของ Erewhon ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงพลังของการสร้างแบรนด์ที่ผสมผสานระหว่างความพรีเมียม ความเอ็กซ์คลูซีฟ และการใช้ชื่อเสียงของอินฟลูเอนเซอร์อย่างชาญฉลาด จาก Hailey Bieber ถึง Lisa Erewhon ไม่ได้เพียงแค่ขายสินค้า แต่ได้สร้างประสบการณ์และความปรารถนาในการเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ที่เหนือระดับ กลยุทธ์นี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มยอดขาย แต่ยังสร้างความยั่งยืนให้กับแบรนด์ในฐานะผู้นำวัฒนธรรมประชานิยมยุคใหม่อย่างแท้จริง
ในขณะที่หลายแบรนด์อาจมองว่า Influencer Marketing เป็นเพียงส่วนเสริมทางการตลาด Erewhon ได้แสดงให้เห็นว่ากลยุทธ์นี้สามารถกลายเป็นหัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อนความสำเร็จได้ หากนำมาใช้อย่างมีวิสัยทัศน์
ความสำเร็จของ Erewhon จึงเป็นกรณีศึกษาสำคัญที่นักการตลาดในยุคนี้ไม่ควรมองข้าม และเป็นแรงบันดาลใจให้กับธุรกิจที่ต้องการสร้างความแตกต่างในตลาดที่แข่งขันสูงเช่นกัน
เขียนโดย ธนพนธ์ หัสกรรัตน์
#FutureTrends #FutureTrendsetter #InfluencerPlaybook #Erewhon #Lisa #ลิซ่า
โฆษณา