29 ม.ค. เวลา 01:17 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าการทำอาหาร : รีวิวซีรีส์ La grand Maison Tokyo

อ้อยคราฟต์ชอบดูหนังแนวโรแมนติกก่อนเข้านอน เขาว่าหนังประเภทนี้จะทำให้สมองไม่ว้าวุ่น จิตใจผ่อนคลาย นอนหลับสบาย
“La grand Maison Tokyo”หรือ “สุดยอดเชพหัวใจแกร่ง”เป็นซีรีส์ญี่ปุ่น เกี่ยวกับการทำอาหารของเชพ ออกแนวฟีลกู้ดมากกว่ารักโรแมนติก แต่ก็มีกลิ่นอายความรักแนวอบอุ่นของคนวัยผู้ใหญ่ให้ฟินอยู่บ้าง
เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ นางเอก ริงโกะ ฮายามิ ได้เดินทางไปประเทศฝรั่งเศสเพื่อสมัครเป็นเชฟร้านอาหารฝรั่งเศส เนื่องจากเธอมี passion อยากเป็นเชพมิชลินระดับสามดาว ถึงแม้เธออายุใกล้ 50 แล้วก็ตาม เธอทำงานเป็นเชพร้านอาหารในญี่ปุ่นมากว่า 30 ปี
เธอเจอพระเอกโดยบังเอิญ เชฟนัตสึกิ โอบานะ ที่ร้านอาหารแห่งนี้ ซึ่งเขาเคยเป็นลูกศิษย์เรียนทำอาหารที่นี่
เชพโอบานะ กับเพื่อนเชพด้วยกันเคยเปิดร้าน “เอสไคฟิลล์” ร้านอาหารฝรั่งเศส ระดับสองดาว แต่ตอนนี้เขาตกงาน ชีวิตตกต่ำ เพราะร้านอาหารที่เขากับพรรคพวกร่วมกันก่อตั้งปิดไปเมื่อสามปีก่อน เนื่องจากมีลูกค้าแพ้สารปนเปื้อนในอาหารแห่งนี้
นางเอกเคยได้ยินชื่อเสียงพระเอกมาก่อนว่าเป็นเชพที่เก่งมาก เธอเลยขอให้เชพโอบานะลองทำอาหารให้กิน แล้วเธอก็ติดใจ
เชพโอบานะพูดว่า “เธอมีเงินไหมละ เราจะกลับญี่ปุ่นไปเปิดร้านอาหารฝรั่งเศสด้วยกัน ฉันจะทำให้ความฝันที่จะเป็นเชพมิชลินระดับ 3 ดาวของเธอให้เป็นจริง”
ทั้งสองตกลงใจร่วมลงทุนเปิดร้านอาหารฝรั่งเศสในญี่ปุ่น ตั้งชื่อร้านว่า La grand Maison Tokyo การเริ่มต้นมีปัญหาอุปสรรคมากมาย
การก่อตั้งร้านอาหารที่ไม่มีเงินทุนและทีมที่เก่ง ริงโกะต้องเอาบ้านไปจำนองธนาคาร โอบานะต้องไปชวนพรรคพวกที่เคยร่วมทีมกันมาก่อนที่ตอนนี้กระจัดกระจายทำงานร้านอาหารอยู่ในโตเกียว ซึ่งก็ไม่ง่ายเพราะว่าโอบานะเคยก่อเรื่องกับคนอื่นไว้มากมาย
แล้วยังมีร้านกาคุ ซึ่งเป็นร้านระดับสองดาวมิชลิน ร้านเก่าแก่เป็นคู่แข่งอยู่ในโตเกียว
นอกจากนี้ยังมีปัญหาอื่น ๆ ตามมามากมาย แต่ทุกสิ่งทุกอย่างพระเอกนางเอกกับทีมเชพพากันฝ่าฟันปัญหาต่างๆ จนในที่สุดก็ประสบความสำเร็จ
แง่คิดดี ๆ จากซีรีส์เรื่องนี้
1.ซีรี่ส์เรื่องนี้เป็นตัวอย่างเด่นในเรื่องการยกโทษให้อภัยคนทำผิด ตัวละครหลายตัวเป็นตัวอย่างที่ดี ไม่ว่าจะเป็นพนักงานที่แอบเอาข้อมูลความลับเมนูไปบอกร้านคู่แข่ง นักข่าวสาวที่ยังแค้นฝังใจเรื่องราวในอดีตที่ครอบครัวเดือดร้อนจากการทำให้มีสารปนเปื้อนในอาหารของร้านเก่าของเชพโอบานะ หรือเชพรุ่นน้องคนที่ทำความผิดใส่ถั่วไปปนเปื้อนในอาหารโดยไม่ตั้งใจในอาหารทำให้เกิดปัญหาเฝใหญ่โต ทุกคนที่กล่าวมาพระเอกนางเอกยกโทษให้ทั้งหมด ให้โอกาสแก้กลับมาแก้ตัวใหม่
การยกโทษให้อภัยพนักงานในการทำผิดของพระเอกนางเอก ทำให้ได้ใจลูกทีม ในอดีตพรรคพวก ๆ ที่เคยทำงานด้วยกันไม่ชอบเชพโอบานะ เพราะเขาเป็นคนใจร้อน ด่าเก่งเหมือนแบดบอย อีโก้สูงไม่ฟังความเห็นคนอื่น แต่เป็นเชพมีพรสวรรค์ แต่พอมาร่วมทีมกันใหม่ในร้านนี้ ทุกคนยอมรับว่าเชพโอบานะเป็นคนจริงใจไม่เห็นแก่ตัวชอบทำงานเบื้องหลังประเภทปิดทองหลังพระ ไม่เห็นแก่ตัว รับผิดแทนลูกน้อง ซึ่งเป็นบุคลิกผู้นำ
สำหรับเชพริงโกะ เธอก็เป็นคนมองโลกในแง่ดี ใจกว้าง ชอบให้อภัยคนอื่น ทำให้ได้ใจทีมงาน ทีมงานจึงตั้งอกตั้งใจทุ่มเททำงานเต็มที่ ทำให้ร้านอาหารของเธอคว้า 3 ดาวมิชลิน
การให้อภัยไม่เพียงแต่ทำให้ความรู้สึกดีขึ้นแต่ยังทำให้การทำงานราบรื่น คนทำงานรู้สึกสบายใจหันมาใส่ใจกับงานเต็ม ที่ทำให้งานออกมาดี
2.ถึงแม้พระเอกนางเอกอายุล่วงเลยเข้าใกล้วัย 50 แต่ก็ไม่ยอมแพ้ต่อความฝันตัวเอง ทั้งคู่มุ่งมั่นตั้งใจ ทำสิ่งที่ชอบ คนเรายิ่งอายุมากขึ้น ความรู้จักตัวเองก็ยิ่งชัดเจน ความคิดตกผลึกแล้วว่า ในชีวิตนี้สิ่งที่ชอบคืออะไร แล้วไม่ยอมถอดใจทำจนสำเร็จ
ความฝันเป็นตัวขับเคลื่อนชีวิตทำให้ชีวิตมีความหมายไม่ว่าอายุขนาดไหนถ้ามีความฝันแล้วชีวิตเกิดมาก็ย่อมคุ้มค่า
ความน่ารักกุ้กกิ้กระหว่างเชพโอบานะกับเชพริงโกะ ต่างคนต่างเรียกกันว่าคุณลุง-คุณป้า ทำให้คนดูอมยิ้มกับมิตรภาพ ความสัมพันธ์ที่อบอุ่นระหว่างหญิงชายในวัยกลางคน
3.ซีรีส์เรื่องนี้ทำให้เห็นว่าการทำอาหารเหมือนงานทดลองทางวิทยาศาสตร์ มีการค้นคว้าทำเมนูใหม่ ๆ ค้นหาวัตุดิบและวิธีที่จะปรุงรสชาติออกมาให้อร่อย และเป็นงานศิลปะอีกด้วยแต่ละเมนูตกแต่งอย่างปราณีตสวยงาม ให้อารมณ์ความรู้สึก
คุณลุงที่เป็นอาจารย์สอนทำอาหารคนแรกของพระเอกบอกว่า “ฉันไม่สนใจดาวมิชลินฉันสนใจที่จะทำให้คนมีความสุขมากกว่า” สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าการทำอาหาร คือ การทำให้คนมีความสุข เชฟจึงเปรียบเสมือนศิลปิน
ซีรีส์เรื่องนี้เป็นหนังญี่ปุ่นที่ทำถึงมาก นอกจากนักแสดงเก่งแล้วภาพถ่ายอาหารแต่ละเมนูสวยเริ่ดอลังการ แม้แต่เพลงประกอบ Recipes (แปลเป็นไทยว่า เมนูอาหาร) เป็นเพลงเก่าแต่เข้ากันมากกับหนังเรื่องนี้ (เสียงนักร้องฟังแล้วเหมือนเสียงพระเอก)
ซีรีส์เรื่องนี้นอกจากจะได้ความรู้เรื่องอาหารฝรั่งเศสแล้ว ยังได้ความรู้การตลาด การบริหารธุรกิจ รวมทั้งการสื่อสารในองค์กร การทำงานเป็นทีม การมุ่งมั่นทำตามความฝัน และการไม่ยอมแพ้ต่ออะไรง่าย ๆ
หนังไทยน่าจะมีเรื่องราวแบบนี้บ้าง อาจพูดถึงการเปิดร้านอาหารไทยในต่างประเทศ เพราะอาหารไทยมีชื่อเสียงระดับโลกเหมือนกัน โดยเล่าถึงปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ การพลิกวิกฤตเป็นโอกาสเหมือนซีรีส์เรื่องนี้
อ้อยคราฟต์เริ่มมีความฝัน อยากลองกินอาหารฝรั่งเศสระดับ 3 ดาวมิชลินให้ได้สักครั้งในชีวิต
อ้อยคราฟต์ไดอารี่
โฆษณา