✍️FOOTBALL MANIA’s STORY
บอร์นมัธ ทีมที่กำลังทำลาย ติกิตาก้า จนเป๊บ กวาดิโอล่า
เอ่ยปากว่า “กลัว”
เป๊บ กวาดิโอล่า ถือเป็นกุนซือระดับอ๋อง ผู้พิชิตมาแล้วทุกลีกใหญ่ ทั้งสเปน เยอรมัน อังกฤษ รวมถึงถ้วยบิ๊กเอียร์อย่าง ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ถือเป็นแม่แบบของฟุตบอลสมัยใหม่ ที่ไร้เทียมทานมากว่า 10 ปี ระบบ ติกิตาก้าที่เขาติดตั้ง แทคติกที่ซับซ้อนที่เขาหยิบจับมาใช้ ถือว่าเป็น “เรื่องใหม่” ในวงการฟุตบอล เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว และต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน
โค้ชหลายๆ คนพยายามเลียนแบบ นำโมเดลของเป๊บไปประยุกต์ใช้ บางทีมถึงขั้นจ้างอดีตลูกมือของเป๊บ ไปเป็นกุนซือ ทั้ง มิเกล อาร์เตต้า (อาร์เซน่อล) เอ็นโซ่ มาเรสก้า (เชลซี) และอีริค เท็น ฮาก (แมนยู😂) เพื่อที่จะโคลนฟุตบอลโมเดลของเป๊บมาใส่ทีมตัวเอง ให้ออกมาเป๊ะ และเนียนที่สุด
ณ จุดนั้น ใครๆ ก็อยากเช่นฟุตบอล แบบเป๊บ
📉มีขึ้นก็ย่อมมีลง
ฤดูกาลนี้ แมน ซิตี้ ในมือของเป๊บ กวาดิโอล่า ฟอร์มรูดกราว ทั้งอาการบาดเจ็บของผู้เล่นที่เป็นกระดูกสันหลัง อย่างโรดรี้, ดิอาส และจอห์น สโตนส์ ความโรยราของสังขาร และอาการอิ่มตัวจากความสำเร็จของนักเตะตัวหลัก อย่างเดอ บรอยน์ และไคล์ วอล์คเกอร์ แต่นั่นกลับไม่ใช่ข้ออ้าง
หลังจากฟอร์มการเล่นอันย่ำแย่ในฤดูกาลนี้ เป๊ป ได้ออกมาเปิดใจกับรายการของ TNT Sport ได้อย่างน่าสนใจว่า
“วิธีการเล่นในแบบของเรา ไม่ว่าจะเป็นเพรสซิ่งและ การครองบอลติกิตาก้า กำลังจะหมดยุคเร็วๆ นี้ ผมคิดว่าวิธีการเล่นของบอร์นมัธ นิวคาสเซิ่ล ลิเวอร์พูล แบบนั้นแหละที่กำลังจะเป็นสิ่งใหม่ในยุคต่อไป และแน่นอนเราต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับแทคติกแบบนั้น”
ซึ่งนั่นคือตำตอบที่ถือว่าน่าสนใจมากๆ ทำให้พิธีกรถามต่อทันทีว่า “คุณกำลังจะบอกว่า บอร์นมัธ นิวคาสเซิ่ล ลิเวอร์พูล คือ 3 ทีมที่รับมือได้ยากในตอนนี้ถูกไหม”
เป๊ป กวาดิโอล่า จึงขยายความเพิ่มว่า
“มันก็ไม่เชิงซะทีเดียว มันก็ขึ้นอยู่กับนักเตะที่มีด้วย ฟุตบอลมันมีหลายปัจจัยเหลือเกินที่เข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น คุณภาพนักเตะ อาการบาดเจ็บ ความฟิตและอีกมากมาย แต่สำหรับผมในตอนนี้มันน่าสนใจมาก คุณดูฟุตบอลอิราโอล่าสิ เขาเปลี่ยนบอร์นมัธไปเลย ผมคิดว่าฟุตบอลของเขาจะน่ากลัวมากๆ ในอนาคต พวกเขาโดดเด่นมากจริงๆ”
“อิราโอล่ามีแนวคิดสมัยใหม่ ในตอนนี้กำลังสร้างทีมใหม่ แถมแผนการเล่นของพวกเขายิ่งดูยิ่งเห็นได้ชัดว่านี่คือ บอร์นมัธแบบที่ไม่เคยเจอมาก่อน การโจมตีที่น่ากลัว การเล่นรับที่เป็นระเบียบ พวกเขาเอาชนะอาร์เซน่อล แมนซิตี้ และนิวคาสเซิ่ล รวมถึงแมนยู นั้นก็แสดงให้เห็นแล้วว่า พวกเขาไม่ใช่ทีมหมูในพรีเมียร์ลีกอีกต่อไป”
ทีมที่มีโครงสร้างแข็งแรงอย่างลิเวอร์พูล หรือนิวคาสเซิ่ลไม่ได้ทำให้เราแปลกใจเท่าไหร่ แต่ทีมอย่างบอร์นมัธที่เรื่อยๆ มาเรียงๆ แอบเก็บผลการแข่งขันมาอย่างเงียบๆ จนทะยานขึ้นมารั้งอันดับ 7 ของตาราง มี 40 แต้ม น้อยกว่า ซิตี้ (อันดับ 4) แค่ 1 คะแนน อะไรที่ทำให้ทีมท้ายตารางอย่างบอร์นมัธผงาดขึ้นมาได้ขนาดนี้
1️⃣อันโดนี อิราโอล่า
อิราโอล่า ประสบความสำเร็จไม่น้อยในเส้นทางนักฟุตบอลอาชีพ เขาเริ่มต้นเล่นฟุตบอลกับทีมเยาวชนของ อันติกูโก ร่วมรุ่นกับ ชาบี อลอนโซ จากนั้น ได้ย้ายไปอยู่ทีมเยาวชนของ แอธเลติก บิลเบา ในปี 1999 ก่อนจะเปิดตัวในทีมชุดใหญ่ของ บิลเบา ในปี 2003 และกลายเป็นตำนานของทีม โดยลงเล่นให้ บิลเบา ถึง 12 ฤดูกาล รวมกว่า 500 นัด
ช่วงปลายชีวิตการค้าแข้ง เขาได้ย้ายไปเล่นใน เมเจอร์ลีกซอกเกอร์ กับ นิวยอร์ก ซิตี้ ในปี 2015 ก่อนจะเลิกเล่นในปี 2017
หลังแขวนสตั๊ด อิราโอล่า เริ่มงานคุมทีมที่แรกในปี 2018 ภายหลังเลิกเล่นได้ปีเดียว เออีเค ลาร์นาก้า สโมสรในลีกไซปรัสติดต่อเขาไปเป็นกุนซือ แต่อย่างไรก็ตาม อิราโอล่า คุมทีมได้เพียง 6 เดือนก็ถูกไล่ออก เนื่องจาก 2 เดือนสุดท้ายเขาพาทีมไม่ชนะเลยแม้แต่นัดเดียว
อิราโอล่า ว่างงานได้ไม่นาน ทีมมิรานเดส ทีมใน เซกุนด้า ดิวิชั่น หรือลีกรองของสเปน ก็ติดต่อให้ไปคุมทีม
แม้ว่าจะไม่สามารถพาทีมเลื่อนชั้นได้ แต่ก็สามารถพาทีมเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ Copa del Rey
โดยเอาชนะทีมใหญ่อย่าง เซลต้า บีโก้, เซบีย่า และ บียาร์เรอัล
ด้วยผลงานอันโดดเด่นจึงทำให้ฤดูกาลถัดมา ราโย บาเยกาโน ทีมร่วมลีกรองดึงตัว อิราโอล่า ไปคุมทีม และเขาก็สามารถพาราโย เลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุด
และฤดูกาล 2021-22 ที่เป็นการคุมลาลีกาครั้งแรกในชีวิตของ อิราโอล่า เขานำ ราโย จบอันดับ 11
แถมยังเป็นอีกครั้งที่เขาพาต้นสังกัดไปถึงรอบตัดเชือกโกปาเดลเรย์ แม้ว่าจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่เขาได้รับการชื่นชมเป็นอย่างมาก ในฐานะกุนซือหนุ่มที่น่าจับตา
2. การเดิมพันของบอร์นมัธ
ในช่วงซัมเมอร์ปี 2023 บอร์นมัธทำเซอร์ไพรส์ ด้วยการปลด แกรี่ โอนีล และแต่งตั้ง อิราโอล่า เข้ามาคุมทีม แม้ตอนนัั้น
อิราโอล่าจะมีแนวทางการเล่น และแทคติกที่ทันสมัย เหมาะกับการแข่งขันในยุคใหม่แต่ไม่มีสัญญาณอะไรที่จะบอกว่า เขาจะพาบอร์นมัธดีขึ้นไปกว่าเดิมได้
การไล่ผู้จัดการทีมดาวรุ่งที่มีแวว เลือดเนื้อเชื้อไขชาวอังกฤษ
และแทนที่ด้วยกุนซือชาวต่างชาติ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่ “เดอะเชอร์รี่” กันอย่างมาก แต่ใครจะรู้ว่า หลังจากผ่านไปหนึ่งฤดูกาลครึ่ง การเสี่ยงโชคของบอร์นมัธในครั้งนี้เป็นการตัดสินใจอันชาญฉลาดที่สุด เทียบเท่ากับคนั้งหนึ่งที่มีการเดิมพันนำเมาริซิโอ โปเช็ตติโน่มาที่อังกฤษเมื่อทศวรรษที่แล้ว
3️⃣สไตล์การทำทีมของอิราโอล่า
อิราโอล่า ติดตั้งระบบ 4-2-3-1 ให้กับบอร์นมัธ ดูตามหน้ากระดานอาจจะเป็นรูปแบบพื้นๆ ที่เกือบทุกทีมเลือกใช้ในฟุตบอลสมัยใหม่
แต่สิ่งที่ อิราโอล่า แตกต่างจากกุนซือคนอื่นๆ คือ “วิธีคิด”
อิราโอล่า ใช้ปรัชญาในการเล่นแบบ ”เสี่ยงเพื่อหวังผลตอบแทน”
เริ่มจากเกมรับ
อิราโอล่า ให้ผู้เล่นประกบตัวต่อตัวทั่วสนาม ผู้เล่นแต่ละคนเข้าควบคุมคู่ต่อสู้ ไม่ให้ได้เล่นเกมได้ถนัด
ไม่ว่าจะเจอทีมเล็กทีมใหญ่ อิราโอล่าจะส่งผู้เล่นไปข้างหน้าเป็นกลุ่มเพื่อไล่ล่าฟุตบอลด้วยความดุดัน
แม้การเล่นแบบนี้จะเสี่ยงที่จะถูก เคาน์เตอร์เพรสซิ่ง แต่หากทุกคนเข้าใจและทำมันพร้อมๆ กันเป็นทีม ผลลัพธ์ที่ได้จากการเสี่ยงนี้ อิราโอล่าวิเคราะห์ว่ามัน “คุ้ม”
ดังจะเห็นได้จากสถิติในลีกฤดูกาลนี้ ที่ บอร์นมัธ เป็นทีมที่เพรสซิ่งดุดันมากๆ
• เข้าเพรสซิ่ง อันดับ 4
• เพรสซิ่งในพื้นที่สุดท้าย อันดับ 3
• เพรสซิ่งแดนกลาง อันดับ 2
• เพรสซิ่งจนคู่แข่งเสียการครองบอล อันดับ 2
• เพรสซิ่งจนคู่แข่งเสียการครองบอลในพื้นที่สุดท้าย อันดับ 2
• แย่งบอลได้ในพื้นที่สุดท้าย อันดับ 4
เกมเพรสซิ่งอันดุเดือดนี้เป็นหัวใจสำคัญในแทคติกของอิราโอล่า
ทีมของอิราโอล่าเสียประตูเพียง 26 ลูก น้อยที่สุดเป็นอันดับ 3 เป็นรองแค่ ลิเวอร์พูล กับ อาร์เซน่อล (เสีย 21 ลูก) เท่านั้น
กลับมาดูที่เกมรุก
ถ้า กวาดิโอล่า ขึ้นชื่อเรื่อง ติกิตาก้า
อิราโอล่า คือเจ้าพ่อทรานซิชั่น
ฟุตบอลทรานซิชั่นของอิราโอล่านั้นอาศัยพลังงานจากแดนกลาง และแดนหน้า ที่บดอัดเพรสซิ่งจนได้บอลมาครอบครอง
จากนั้น ทั้งกองกลางและกองหลัง จะจ่ายบอลขึ้นหน้าอย่างรวดเร็ว (ไดเร็กต์ฟุตบอล) ไปที่แนวรุกและริมเส้นที่วิ่งสอดลงมารับบอล เข้าทำโดยอย่างรวดเร็วและน้อยจังหวะ
เกมส์รุกของอริโอล่า เล่นเป็นระบบ คิดเร็วทำเร็ว โดยตัวสอดจากด้านหลังทั้งแบ๊ค และมิดฟิลด์ จะรีบดันสูงขึ้นไปสนับสนุนเป็นกลุ่มๆ และจบแต่ละเพลย์ด้วยการยิงประตู
จากสถิติ เฉพาะในพรีเมียร์ลีก
• เล่นจังหวะทรานซิชั่น อันดับ 1
• ทรานซิชั่นแล้วสามารถเข้าพื้นที่สุดท้าย อันดับ 1
• ทรานซิชั่นแล้วสามารถพาบอลเข้ากรอบเขตโทษคู่แข่ง อันดับ 2
• โจมตีด้วยฟุตบอลไดเร็กต์ อันดับ 3
• จบด้วยการยิงหลังแย่งบอลได้ อันดับ 1
• ยิงได้ 41 ประตูจาก 23 เกมแรกในพรีเมียร์ลีก อันดับ 4
• โอกาสยิง 359 ครั้ง (มากกว่าฤดูกาล 22-23 ทั้งฤดูกาล)
• xG 43.34 อันดับ 3
ดูจากสถิติจากหน้ากระดาษ คงต้องว้าวมากๆ ทั้งเกมรุกทั้งเกมรับ
แต่อย่าลืมว่า ฤดูกาลนี้ อิราโอล่า ต้องแก้ปัญหา นักเตะชุดใหญ่ที่บาดเจ็บถึง 10 คน
ที่สำคัญนักเตะแกนหลักของทีมในปัจจุบัน คือทีมเดียวกันกับที่หนีตกชั้นเมื่อสองฤดูกาลก่อน
ไม่อยากคิดเลยว่า ถ้า อิราโอล่า ได้อาวุธหนักในมือแล้วทีมของเขาจะน่ากลัวขนาดไหน
4️⃣ความชาญฉลาดของแผนกสรรหา มาสู่เชฟที่ปรุงอาหารได้กลมกล่อม เลือกใช้นโยบาย นำตัวที่เหมาะสม มาสู่ทีมที่เหมาะสม
👶กล้าลงทุนกับดาวรุ่ง และกล้าที่จะใช้
มิลอส เคอร์เกซ แบ็กซ้าย วัย 21 ปี 15 ล้านปอนด์ จาก อาแซด อัลค์มาร์ ปัจจุบันโชว์ฟอร์มเด่นที่สุดคนนึงในลีก
อิลเลีย ซาบานยี่ เซ็นเตอร์แบ็ก วัย 22 ปี 23 ล้านปอนด์ จาก ดินาโม เคียฟ
อองตวน เซเมนโญ่ ตัวรุก วัย 25 ปี ในราคา 10.5 ล้านปอนด์ จาก บริสตอล ซิตี้
แดนโก้ อูอัตตาร่า กองหน้า วัย 22 ปี 20 ล้านปอนด์ จาก ลอริยองต์
ดีน เฮาเซ่น วัย 18 ปี ราคา 15 ล้านยูโร จาก ยูเวนตุส
เกมส์ที่ชนะ ฟอเรส 5-0 ล่าสุดแผงหลัง ของบอร์นมัธ อายุเฉลี่ย เพียงแค่ 22 ปีเท่านั้น (คุ๊ก 27, เฮาเซ่น 18, ซาบานยี่ 22, เคอร์เกซ 21) แต่เอาเกมส์รุก ของฟอเรส อยู่หมัด
👴นำนักเตะส่วนเกินที่มีประสบการณ์จากทีมใหญ่มาประคองทีม
เกป้า ผู้รักษาประตู ใครจะเชื่อว่าอดีตเจ้าของสถิติผู้รักษาประตูที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลกที่มีประสบการณ์ทั้ง เชลซี และ เรอัล มาดริด จะมาเล่นให้บอร์นมัธ
เกป้าเข้ามาประคองแนวรับของบอร์นมัธ ที่นัดมีอายุน้อย (นัดล่าสุด อายุเฉลี่ยแค่ 22 ปี) โดยในฤดูกาลนี้ เกป้าลงเล่นไป 19 นัด เสียเพียง 19 ประตู เก็บไปทั้งหมด 5 คลีนชีต
ไทเลอร์ อดัมส์ กองกลางมากประสบการณ์จากทั้งไลป์ซิก และลีดส์ ยูไนเต็ด แม้จะมีเสียงค่อนขอดว่าซื้อมาแล้วเจ็บยาวตลอดฤดูกาลที่แล้ว แต่ฤดูกาลนี้ เจ้าตัวแก้ตัวได้สำเร็จ ด้วยการยึดตัวหลักในแผงแดนกลาง เติมพลังงาน และความดุดันให้กับทีม
จัสติน ไคลเวิร์ต วอนเดอร์คิดแดนกังหันลม บุตรชายของแพทริก ไคลเวิร์ต โด่งดังมากตั้งแต่เป็นเยาวชนของอาแจ็กซ์ จากนั้นย้ายไปร่วมทีมโรม่าด้วยค่าตัวมหาศาล แต่กลับแจ้งเกิดไม่ได้ ต้องระหกระเหินไปยืมตัวทั้งที่ ไลป์ซิก, บาเลนเซีย ฟอร์มก็กระท่อนกระแท่น ใครๆ ก็มองว่า ชื่อเสียงเกินฝีเท้าไปมาก
จนซัมเมอร์ 2023 ไคลเวิร์ต ย้ายมาบอร์นมัธ ด้วยค่าตัว 9.5 ล้านปอนด์ ในมือของอิราโอล่า ผลงานกลับดีวันดีคืน 4 เกมหลังสุด กระทุ้งไป 6 ประตู จ่ายอีก 3 (1 แฮตทริกในนัดเจอนิวคาสเซิ่ล)
💪เลือกเก็บนักเตะคาแรกเตอร์ดี ใจสู้บู๊ดุดัน อย่าง เลวิส คุ๊ก, ไรอัน คริสตี้, เดวิด บรู๊ค, มาร์คัส ทราเวอร์เนียร์ ของเก่าเหลือจากทีมแกรี่ โอนีล มาเป็นแกนสร้างคาแรกเตอร์
ประคองเด็ก
บทสรุป 🔥
บอร์นมัธในยุคของ อันโดนี อิราโอล่า ได้แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนในทุกมิติ จากทีมที่เคยถูกมองว่าเป็นเพียงผู้รอดตกชั้น กลายมาเป็นทีมที่เล่นฟุตบอลสมัยใหม่อย่างมีประสิทธิภาพและน่ากลัว ด้วยการผสมผสานแทคติกอันชาญฉลาด โครงสร้างทีมที่แข็งแกร่ง และการบริหารจัดการนักเตะที่ยอดเยี่ยม
การเพรสซิ่งดุดันที่เป็นเอกลักษณ์ และฟุตบอลทรานซิชั่นอันเฉียบคม ทำให้บอร์นมัธเป็นทีมที่สามารถล้มยักษ์ได้หลายต่อหลายครั้งในฤดูกาลนี้ การเดิมพันของฝ่ายบริหารในการนำโค้ชอย่างอิราโอล่า และการสรรหานักเตะที่เหมาะสมกลับกลายเป็นความสำเร็จในขั้นต้น
นี่ไม่ใช่เรื่องของโชค แต่เป็นผลลัพธ์จากการทำงานอย่างเป็นระบบ และความกล้าหาญที่จะเปลี่ยนแปลงในเวลาที่เหมาะสม จนแม้แต่กุนซือระดับตำนานอย่าง เป๊บ กวาดิโอล่า ยังต้องออกปากยอมรับถึงศักยภาพของทีมที่เคยถูกมองข้ามทีมนี้
บอร์นมัธ ไม่ได้เป็นแค่ทีมฟุตบอล แต่เป็นสัญลักษณ์ของความท้าทาย ความกล้าหาญ และการพลิกบทบาทในโลกฟุตบอลสมัยใหม่ ใครจะเชื่อว่า ทีมที่เคยถูกคาดหวังเพียงเพื่อ “อยู่รอด” วันนี้กลับสร้างแรงสั่นสะเทือนในพรีเมียร์ลีก และเป็นแรงบันดาลใจให้กับทีมอื่น ๆ ว่า “การเปลี่ยนแปลงที่กล้าหาญ สามารถเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งได้”
นี่แหละ คือบอร์นมัธ ทีมที่เป๊บ “กลัว” และทีมที่ฟุตบอลยุคใหม่ต้องจับตา
#พรีเมียร์ลีก
#บอร์นมัธ
#ฟุตบอล
#เป๊บ
===================
ถ้าชอบ ฝากกดไลค์ กดติดตาม 👍🏻
เพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะครับ ♥️
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
