18 ก.พ. เวลา 03:20 • หุ้น & เศรษฐกิจ

การลงทุนในยุค AI

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในช่วงเวลาที่ AI รุ่นใหม่ๆ กำลังทยอยเปิดตัวอย่างต่อเนื่องนี้ ตลาดหุ้นกำลังเข้าสู่ยุคของ AI Trading อย่างแท้จริง โดยผู้ที่ครองความได้เปรียบคือเหล่าสถาบันการเงินขนาดใหญ่ใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลและคาดการณ์แนวโน้ม ซึ่งเมื่อใช้ร่วมกับ Bot Trade (Algorithmic Trading หรือ High-Frequency Trading - HFT) จะยิ่งเพิ่มความไวในการตัดสินใจซื้อขายแบบ realtime ตาม technical ต่างๆที่ได้วางไว้อย่างมหาศาล
โดยผลกระทบที่จะเกิดกับนักลงทุนรายย่อย เช่น
  • ​ความผันผวนที่สูงขึ้น
การใช้ Bot Trade บางประเภท เช่น High-Frequency Trading (HFT) อาจทำให้ตลาดมีความผันผวนสูงขึ้น เพราะ HFT สามารถส่งคำสั่งซื้อขายจำนวนมากได้ในช่วงเวลาอันสั้น หากอัลกอริธึมของ HFT ตรวจจับแนวโน้มของตลาดแล้วทำการซื้อขายทันที อาจทำให้ราคาหุ้นเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่น Flash Crash ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
และหากอัลกอริธึม HFT หลายๆระบบใช้กลยุทธ์ที่คล้ายๆกัน เช่น การใช้ข่าวสารตลาดหรือปริมาณคำสั่งซื้อขายเป็นตัวกระตุ้น เมื่อมีสัญญาณให้ซื้อขายในทิศทางใดทิศทางหนึ่งพร้อมกัน จะเกิดผลกระทบแบบ "Feedback Loop" ที่ทำให้ราคาพุ่งขึ้นหรือลดลงอย่างมหาศาล
  • ​พฤติกรรม Front running และ Spoofing
บางครั้ง Bot trade อาจใช้กลยุทธ์ที่เอาเปรียบรายย่อยเช่น
Front Running – บอทดักจับคำสั่งซื้อขายขนาดใหญ่และเข้าซื้อก่อนเพื่อเก็งกำไร
Spoofing – วางคำสั่งซื้อจำนวนมากแล้วลบทิ้งอย่างรวดเร็วเพื่อหลอกตลาด
  • ​ความเร็วในการทำธุรกรรม
นักลงทุนที่เน้นการ trade เก็งกำไร จะเสียเปรียบในการทำธุรกรรมซื้อขายแข่งกับ Bot trade อย่างมาก
หนทางในการเอาชนะ AI ในการ trade ระยะสั้นนั้นเป็นไปได้ยากมาก ดังนั้น ทางออกที่เหมาะสมทางหนึ่ง อาจเป็นการเปลี่ยนแนวทางจากการเก็งกำไรระยะสั้นมาเป็นการลงทุนระยะยาว เน้นการสะสมหุ้นของบริษัทที่มีความมั่นคง ปลอดภัย และมีความสามารถในการแข่งขัน สามารถเติบโตได้ในระยะยาว โดยอาศัยจังหวะความผันผวนของตลาดที่มากขึ้น ทำให้เรามีโอกาสได้หุ้นที่ราคาถูกลง
เพราะสุดท้ายเราคงหนีจากสนามการลงทุนไม่พ้น ดังนั้นการเลือกสนามแข่งขันที่เรามีโอกาสชนะสูงกว่าย่อมต้องดีกว่าอย่างแน่นอน
โฆษณา