29 ม.ค. เวลา 07:36 • หนังสือ

หนทางไปสู่ความสุขมักเต็มไปด้วยอุปสรรค (5 เล่มจบ)

จือจือ เขียน / หยกน้ำแข็ง แปล
โปรยสำนักพิมพ์อรุณ :
เสิ่นมู่ชิง หญิงสาวจากศตวรรษที่ 21 ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนข้ามเวลาไปอยู่ในร่างของบุตรีขุนนางใหญ่แห่งสมัยราชวงศ์โจวนามเสิ่นเจิน นางได้รับการประคบประหงมดูแลจากทั้งบิดาและมารดาเพราะเป็นบุตรีที่เหลืออยู่เพียงคนเดียว แต่ถึงนางจะถูกดูแลอย่างตามใจแค่ไหนก็ไม่ได้หลงระเริงไปกับทรัพย์สมบัติและยังดีกับบริวารที่ห้อมล้อม นางได้ร่ำเรียนทั้งการเย็บปักถักร้อย รวมไปถึงการเรียนหนังสือ
แต่เมื่ออายุถึงวัยออกเรือน แม่ของนางกลับเริ่มเข้มงวดในตัวบุตรีคนนี้ทั้งที่ไม่เคยเข้มงวดอะไรกับนางมาก่อน ทำให้นางเริ่มสงสัย และสืบหาความจริงเกี่ยวกับความเปลี่ยนไปนี้ นางอ้างกับมารดาขอไปวัด แท้จริงแล้วต้องการหาทางออกจากจวนเพื่อไปสืบเรื่องยาที่มารดากิน ทว่ากลับพบเจอเหตุการณ์ที่ทำให้นางตกอยู่ในอันตราย จนมีบุรุษหนุ่มชุดแดงผู้หนึ่งเข้ามาช่วยชีวิตของนางไว้...
หลังอ่าน (ต้องบอกว่าหลังตามเผือกชีวิตนางเอกจนจบ)
คุณนักเขียนจือจือยังคงไว้ลายชีวิตพระนางญาติเยอะอย่างหนักแน่น แม้จะอ่านไปพลางไม่เข้าใจไปว่าทำไมเราต้องตามส่อง ตามเผือกชีวิตประจำวันของเสิ่นมู่ชิง แต่เราก็จะหยุดเผือกไม่ได้ จนหน้าสุดท้ายนั่นแหละถึงได้ถอนหายใจยาว ๆ อย่างโล่งอกเสียที 5555
ยังคงย้ำเตือนคุณผู้อ่านที่ไม่สะดวกจดจำชื่อพ่อแม่ อนุในจวน บ่าวรับใช้ บริวารภายนอก ญาติโกโหติกามากมายที่พรั่งพรูราวสายน้ำไหล เพื่อนบ้าน สหายผลุบโผล่ ฯลฯ ว่าหนังสือเรื่องนี้ไม่เหมาะกับคุณค่ะ 555 แต่ถ้าต้องการเสพเพื่อความบันเทิงส่วนตัว อันนี้แนะนำมาก 555
เสิ่นมู่ชิง ยังคงบุคลิกลักษณะนางเอกของจือจือ งามสง่า เย้ายวนเล็ก ๆ พร้อมสรรพคุณสมบัติสตรีเรือนหลัง ขณะเดียวกันก็เฉลียวฉลาดทำการค้า รู้หนังสือ ยินดียืนเคียงคู่กับบุรุษมากกว่าเก็บตัวในจวน แต่ถ้าจำเป็นต้องทำตามกฎสตรียุคโบราณที่ยกให้บุรุษและบิดามารดาเป็นผู้คุมกฎ นางก็คำนวณได้เสียถ้วนถี่แล้วก้มหน้าดำเนินชีวิตไป โดยเก็บหอมรอมริบ คิดหาทางหนีทีไล่ให้ตัวเองรอบด้านตลอดเวลา
แม้เสิ่นมู่ชิงจะเป็นสาวข้ามภพ แต่เมื่อมาอยู่ยุคนี้ก็ต้องใช้ชีวิตไปตามครรลองของยุคสมัย ยังดีที่มาอยู่ในร่างบุตรีภรรยาเอก บิดาเป็นขุนนางเลื่องชื่อ มารดาเป็นสตรีเก่งกาจ สั่งสอนนางให้รู้รอบ ทว่าร่างกายอ่อนแอ จำต้องมีอนุผู้ให้กำเนิดน้องชายต่างมารดาเพื่อสืบทอดตระกูล
ชีวิตของเสิ่นมู่ชิงเป็นไปตามขนบก็จริง แม้จะเกิดต้องตาต้องใจหนุ่มน้อยมาดกวนเย้ยยุทธจักรอย่างพระเอก-เซียวซ่า ในวัยเพียง 12-13 ปี แต่นางมองเห็นแล้วว่าอนาคตไม่น่าจะไปกันรอด จึงยินยอมหมั้นหมายและแต่งงานกับบุตรชายคนที่สามของตระกูลเหลียง ประการหนึ่งเพื่อเกี่ยวดองสองตระกูลท่ามกลางคลื่นลมในราชสำนัก ประการที่สอง มารดานางมองว่าเขาอ่อนโยนใจดี ดูควบคุมง่าย น่าจะเหมาะกับบุตรสาว
เพราะแม่ป่วยออดแอด เสิ่นมู่ชิงจำต้องแต่งงานตั้งแต่อายุแค่ 13 ปี แต่ยังไม่ร่วมหอ เข้าเรือนตระกูลเหลียงแล้วก็เจอฟ้าฝนพายุคลั่งที่แฝงอยู่ในจวนสามีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพี่ชายสามีสองคน สะใภ้ใหญ่ สะใภ้รอง แม่สามี ฮูหยินผู้เฒ่า ไหนจะรักแอบ ๆ ของสามีกับน้องสาวต่างสกุล ซึ่งฝ่ายหญิงก็ใช้มารยาสตรีจับฝ่ายชายผู้อ่อนหัดอยู่หมัด ทำให้นางค้นคิดวิธีแยกทางกับเขาอย่างเด็ดขาดในเวลาต่อมา
ระหว่างเส้นทางวุ่นวายในเรือนหน้าเรือนหลังแถมด้วยเรือนเดิมของครอบครัว เสิ่นมู่ชิงก็ได้พบเซียวซ่าพร้อมกับความระแวงแคลงใจว่าเขามีสาวใช้ห้องข้าง เป็นชายหนุ่มตระกูลพ่อค้าระดับคหบดีที่มีปัญหาภายในมากมาย วันหนึ่งเซียวซ่าสอบได้เป็นจ้วงหยวนฝ่ายบู๊ และมักจะมาขอคำแนะนำจากบิดาของนางเอกซึ่งเร้นกายลดอำนาจอยู่ในจวนเงียบ ๆ ทั้งคู่พบกัน แต่จำต้องเสแสร้งว่าไม่คิดอะไรต่อกัน
นางเอกทำการค้า ยุ่งเหยิงกับเรื่องของบริวาร ญาติโกโหติกา พระเอกมุ่งเติบโตในเส้นทางแม่ทัพ แต่แล้ววันหนึ่ง ฮ่องเต้อาสาไปรบกับแคว้นที่บุกเข้ามา เกิดหายสาบสูญพร้อมกับผู้ติดตามที่มีเซียวซ่าเป็นหนึ่งในนั้นด้วย เสิ่นมู่ชิงขอร้องให้บิดาช่วยเซียวซ่า สำนึกตัวว่านางเองก็รักปักใจเขาเหลือเกิน
ความรักพระนางขลุกขลักไม่พอ บ้านเมืองยังระส่ำระสาย ต้องยกอ๋องผู้หนึ่งขึ้นมาเป็นฮ่องเต้ ผ่านไปพักหนึ่ง ฮ่องเต้องค์เดิมถูกจับเป็นตัวประกันพร้อมเซียวซ่าและผู้ติดตามอีกจำนวนหนึ่ง ฮ่องเต้องค์ใหม่ก็ไม่ยอมลงจากบัลลังก์ เมื่อดำเนินการแลกตัวประกันกลับมา พระเอกถูกเนรเทศไปอยู่ชายแดน ฮ่องเต้องค์เก่าถูกคุมขังอยู่ในตำหนัก ทีแรกบิดาเสิ่นมู่ชิงไม่ยอมให้บุตรสาวสมรสกับเซียวซ่า แต่เหตุการณ์ในหอสุราทำให้เปลี่ยนความคิด
และแล้ว นางเอกก็แต่งงานกับพระเอกย้ายไปอยู่อย่างกันดารที่เมืองฮู่ติ้ง ทีนี้คนอ่านก็จะได้รู้จักเครือญาติฝั่งเซียวซ่าเพิ่มอีกสิบกระบุง เพราะพระเอกของเรามีพ่อแม่แท้ ๆ แต่ด้วยปัญหาภายใน กลับถูกยกให้เป็นบุตรชายใต้นามนายท่านสี่ จึงเท่ากับมีพ่อสองคน แม่สองคน ซึ่งล้วนไม่สนิทใจทั้งนั้น แถมพระเอกก็มีภาวะขาดแคลนความรักความอบอุ่นแต่เด็ก จึงแสดงออกด้วยอาการปากอย่างใจอย่าง คิดหนัก ปากหนัก
ยังดีที่คนอ่านจะได้รับความปลอบประโลมจากฉากหวาน ๆ ของพระนางที่ดาหน้ามาเรื่อย ๆ 555 จือจือไม่หวงฉากในม่านมุ้งนะคะ ถือว่าช่วยเยียวยาอาการจำใครในเรื่องไม่ค่อยได้นอกจากพระนางกับบุคคลแวดล้อมนิดหน่อยก็แล้วกัน 55555
เล่ามาถึงตรงนี้คิดว่าเรื่องเยอะพอแล้วใช่ไหมคะ ไม่ใช่ค่า ยังมีเรื่องราวอีกสารพัดให้เราอ่านไปงงไปว่าฉันต้องรู้ด้วยไหม 555 เช่น แจกแจงสาวใช้คนสนิทแต่ละคนว่าควรแต่งงานกับใคร ฝ่ายชายมาจากไหน บ่าวคนสนิทของพระเอกมีภูมิหลังอย่างไรบ้าง ไหนจะลูกน้องที่โผล่มาแวบ ๆ แต่กลายเป็นคนสำคัญในภายหลังซึ่งเราจำไม่ได้แล้วว่าเขามีที่มาที่ไปอย่างไร ไหนจะสหายนางเอกที่แรก ๆ คล้ายจะมาอย่างระแวดระวัง แต่สุดท้ายไม่มีอะไรในกอไผ่ แถมมาหลายคนด้วยนะ
ยังยุ่งไม่พอ ฝั่งพระเอกก็เยอะเรื่อง น้องต่างมารดา น้องบิดามารดาเดียวกัน ญาติพี่น้องในตระกูลอีกนับสิบ เพื่อนร่วมรบ เพื่อนอาจารย์สำนักศึกษา (ซึ่งต้องหาคู่ให้ในเวลาต่อมา แล้วเราก็ต้องเป็นพยานการพบกันของพวกเขา) ชายแดนมีผู้บุกรุก เซียวซ่าสุดหล่อเก่งการรบก็ต้องไปรบด้วย วันหนึ่งฮ่องเต้องค์เก่าโค่นบัลลังก์ฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน พระเอกกลายเป็นขุนนางรักและครอบครัวทรงอำนาจขึ้นมาในพริบตา
สิ่งที่ตามมาคือวิธีอยู่อย่างฉลาดบนยอดคลื่นโดยมีท่านพ่อตาคอยชี้แนะ พ่อแม่ตัวจริงของพระเอกที่อยู่ห่างกัน ทะเลาะกันมาตลอด อยู่มาวันหนึ่งก็ตั้งใจจะสยบอนุ กลับมาคืนดีใช้ชีวิตด้วยกันอีกครั้ง พระนางของเราก็ต้องเข้าไปแก้ปัญหาคอยคลี่คลายพลางเลี้ยงลูกสาวลูกชายไปด้วย
อ้อ บุคลิกนางเอกของจือจืออีกเรื่องคือมีลูกเก่ง 5555 คลอดง่าย ทยอยมีเรื่อย ๆ 555 ให้คนอ่านเอ็นดูท่ามกลางสงครามระหว่างเรือนหน้าเรือนหลัง เรือนชาวบ้าน กระทั่งตำหนักนอกในของฮ่องเต้ 555
คงมีคนสงสัยว่าสามีเก่าของนางเอกล่ะเป็นอย่างไร จือจือก็ต้องคลี่คลายให้อย่างสะอกสะใจอยู่แล้ว นอกจากเราจะได้เผือกเรื่องชาวบ้านแบบไม่ขาดตอน ยังได้ร่วมรับรู้ต้นเหตุ กลางเหตุ ปลายเหตุ กระทั่งจุดจบของแต่ละคนอย่างกระจ่างสุด ๆ
ขอบอกว่าชื่อเรื่องคือใช่ที่สุด 555 หนทางไปสู่ความสุขมักเต็มไปด้วยอุปสรรค ไม่ใช่แค่คู่พระนางนะ แต่ทุกตัวละครของจือจือเลยล่ะ อ่านจบด้วยความงุนงงว่าฉันก็เผือกได้จนสุดทางนะ 555
หนังสือหนามาก ใช้เวลาอ่านนานเพราะตัวละครเยอะ รายละเอียดยิบย่อยที่ไม่อยากรู้เต็มไปหมดแต่หยุดอ่านไม่ยักได้ 555 ยกความดีความชอบให้จือจือกับผู้แปลนะคะ เรื่องสอดส่องวิถีชีวิตแต่เช้ายันเข้านอนขนาดนี้ถ้าเขียนไม่เก่ง แปลไม่รอด คนอ่านคงวางตั้งแต่เล่มแรก
คะแนนเต็มสิบ ให้ 8 หักความญาติเยอะจนสับสน ความไม่มีจุดหักเหชัด ๆ ของเรื่อง (เพราะหักมาตลอด 555) หักสำนวนการแปลที่ลื่นไหลก็จริงแต่รู้สึกว่าไม่ราบรื่นสละสลวยเท่าเรื่องอื่น ๆ ของจือจือที่เราเคยอ่าน ถามว่าหนังสือเรื่องนี้เหมาะกับใคร ตอบแบบกำปั้นทุบดินว่าเหมาะกับนักอ่านที่ชอบจือจือค่ะ 5555
โฆษณา