วันนี้ เวลา 02:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

จีนหลอกจีน ฉุด 9 ล้านคนไม่ถึงเป้า

การตั้งเป้าหมายเชิงนโยบายปั้มจีนเที่ยวไทย 9 ล้านคนของ รมว.ท่องเที่ยว เมื่อดูจากสถานการณ์ ณ วันนี้ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย เฉพาะแค่เป้าของ ททท. ที่ตั้งไว้ 8 ล้านคน ก็แทบจะต้องเข็นกันอยู่แล้ว โดยเฉพาะหลังจาก “ซิงซิง” นักแสดงชาวจีน ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกลวงไปเมียนมา หลังเดินทางเข้าไทย ตามมาด้วย “จีนปล้นจีน” ที่เขตห้วยขวาง เรือล่ม ทุนจีนสีเทา ทัวร์ศูนย์เหรียญ ทำให้เกิดกระแส “ไทยไม่ปลอดภัย” ในโซเชียลจีนต่อเนื่อง ลามไปถึงการยกเลิกคอนเสิร์ตในไทยของ Eason Chan นักร้องดังชาวฮ่องกง
1
การกระหนํ่าอย่างหนักของโซเชี่ยลจีนที่ลากยาวมาถึงวันนี้ ในทุกแพลตฟอร์ม ถึงความไม่ปลอดภัยในการเดินทางมาเที่ยวไทย ฉุดให้เที่ยวบินเช่าเหมาลำจากเมืองต่างๆ ของจีน ที่จองกรุ๊ปทัวร์มาเที่ยวตรุษจีนในไทยก่อนหน้านี้ สายการบิน และโรงแรมต้องกุมขมับ จากการทยอยยกเลิกการจองที่เกิดขึ้น
ขณะที่บุ๊กกิ้งตั๋วเครื่องบินในเที่ยวบินประจำ ของนักท่องเที่ยวกลุ่มเดินทางเที่ยวด้วยตัวเอง (FIT) ก็ชะลอตัวลง ฉุดให้การเดินทางมาฉลองตรุษจีนในไทย ทางศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าจะหดตัว 17.5% เทียบกับตรุษจีนปีก่อน โดยคาดว่าจะอยู่ที่ 1.75 แสนคน ลดลงจากตรุษจีนปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ 2.12 แสนคน
สิ่งที่เกิดขึ้นทำลายบรรยากาศด้านการท่องเที่ยว ทั้งๆ ที่มู้ดการเดินทางเที่ยวไทยของนักท่องเที่ยวจีนก่อนหน้านี้ ตั้งแต่วันที่ 1-26 ม.ค.2568 มีการเติบโตถึง 20 % โดยเดินทางเข้ามาไทยแล้ว 532,853 คน
แม้ผลกระทบจะเป็นช่วงระยะสั้น แต่ตลาดนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทย ก็ยังมีความไม่แน่นอนสูง เพราะเมื่อเกิด ข่าวลบต่างๆขึ้น โดยเฉพาะการค้ามนุษย์ และ สแกมเมอร์ ก็จะฉุดการชลอตัวของนักท่องเที่ยวจีนทันที
ประกอบกับเศรษฐกิจจีนชลอตัว คาดว่าทั้งปี 2568 จีนมีแนวโน้มจะเดินทางมาเที่ยวไทยยังคงตํ่ากว่า 8 ล้านคน เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี 2567 ซึ่งอยู่ที่ 7.3 ล้านคน ยังไม่เติบโตเท่ากับก่อนโควิด-19 ที่ไทยเคยมีนักท่องเที่ยวสูงถึง 11 ล้านคน
การแก้ปัญหาและสร้างความเชื่อมั่นในตลาดจีน สิ่งที่ทำได้ คือ ททท.เน้นนำเสนอข้อมูลความเป็นจริง สื่อสารและทำความเข้าใจแก่นักท่องเที่ยวจีน เพื่อให้ข่าวจริงล้มล้างข่าวเฟคนิวส์ในโซเชี่ยลจีน พร้อมร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) ตั้ง War Room ร่วมประเมินสถานการณ์ และแก้ไขปัญหาข่าวลือ ข่าวปลอม และภาพลักษณ์ด้านลบบนโลกออนไลน์ ร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชน
ฝ่ายไทยยังคงทำได้แค่นี้ จะสู้กับเฟคนิวส์ได้หรือไม่ ก็ยังเป็นสิ่งที่ทางไทยเองก็มีความกังวล แต่ททท.ก็ต้องพยายามสร้างความเชื่อมั่นต่อเนื่อง เพราะตลาดจีนที่จะกระทบมากส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องท่องเที่ยวจีนจากเมืองรอง ที่ไม่เคยเดินทางมาก่อน และเป็นกลุ่มกรุ๊ปทัวร์
ส่วนนักท่องเที่ยวจีนที่เคยเดินทางมาเที่ยวไทยอยู่แล้ว และส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากเมืองหลัก ส่วนใหญ่จะเข้าใจดีว่าการเดินทางท่องเที่ยวไทย ไม่ได้มีปัญหาในเรื่องนี้ แต่ก็เป็นอุปสรรค ในการทำตลาดเมืองรอง และการดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ของ ททท.
ขณะที่การแก้ปัญหาทุนจีนสีเทา การค้ามนุษย์ และสแกมเมอร์ในประเทศเพื่อนบ้าน คงเป็นเรื่องยาก เพราะเป็นเรื่องของผลประโยชน์ ถ้าปัญหาเกิดขึ้นในไทย เราปราบปรามได้ จับกุมจริงจัง อย่างน้อยก็เป็นการกู้ภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวในตลาดจีนได้ในระดับหนึ่ง ถ้าทุกฝ่ายมีเป้าหมายเดียวกัน ที่จะทำให้ประเทศไทยปลอดภัย ไม่ใช่วัวหายแล้ว ล้อมคอกอย่างทุกวันนี้
โฆษณา