30 ม.ค. เวลา 03:30 • ธุรกิจ

Wayne Huizenga จากคนเก็บขยะ สู่เศรษฐี รวย 95,000 ล้าน

“พ่อแม่หย่าร้าง ดร็อปเรียนกลางคัน แล้วหันไปทำงานขับรถบรรทุก ปั๊มน้ำมัน ไปจนถึงคนเก็บขยะ”
นี่คือชีวิตของคุณ Wayne Huizenga
แม้เส้นทางชีวิตจะขรุขระ แต่ต่อมาเขาได้กลายเป็นเศรษฐีชาวอเมริกัน ที่มีความมั่งคั่ง 95,000 ล้านบาท และมีธุรกิจเก็บขยะใหญ่สุดในโลก จนคุณ Bill Gates เข้ามาลงทุนอีกด้วย
แม้คุณ Wayne Huizenga จะจากโลกนี้ไปหลายปีแล้ว แต่เรื่องราวของเขาก็เป็นกรณีศึกษาที่ดี ของการสร้างธุรกิจ
คุณ Wayne Huizenga คือใคร
ทำไมถึงสร้างตัว จนรวยเกือบแสนล้านบาทได้
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
คุณ Wayne Huizenga เกิดในปี 1937 ที่เมืองชิคาโก สหรัฐอเมริกา โดยคุณปู่ของเขา ทำธุรกิจรถเก็บขยะภายในเมือง ด้วยรถม้า
แต่ในเวลาต่อมา ครอบครัวของเขา ก็ย้ายไปอยู่เมืองฟลอริดา ทำให้คุณพ่อของเขาไม่ได้สานต่อธุรกิจเก็บขยะต่อจากคุณปู่ และหันไปทำงานเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างแทน เพราะในตอนนั้น ธุรกิจอสังหาฯ ในฟลอริดา กำลังเติบโตอย่างมาก
ทว่าหลังจากนั้น พ่อแม่ของคุณ Huizenga ก็ได้แยกทางกัน เขาจึงตัดสินใจย้ายกลับไปเมืองชิคาโก และเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัย
ซึ่งคุณ Huizenga ต้องทำงานเพื่อหาเลี้ยงตัวเอง จนสุดท้ายต้องตัดสินใจดร็อปเรียน แล้วออกมาทำงาน ทั้งขับรถบรรทุกส่งของ เด็กปั๊มน้ำมัน ไปจนถึงคนเก็บขยะ
จนในปี 1968 หลังจากทำงานไปได้สักพัก คุณ Huizenga ก็ชวนเพื่อนอีก 2 คนมาก่อตั้งธุรกิจด้วยกัน
ธุรกิจนั้นชื่อว่า Waste Management Company
เพื่อรับจ้างขนส่งและเก็บขยะ ต่อยอดธุรกิจที่คุณปู่ของเขาเคยทำไว้
โดยคุณ Huizenga ตัดสินใจไปยืมเงินจากคุณพ่อ 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินปัจจุบันราว 600,000 บาท
เพื่อนำไปซื้อรถเก็บขยะ 1 คัน ไว้คอยบริการเก็บขยะในชิคาโก ก่อนจะขยายกิจการ ด้วยการเข้าซื้อบริษัทคู่แข่งในพื้นที่ต่าง ๆ ของสหรัฐอเมริกา
ธุรกิจของเขาเติบโตอย่างมาก จนมีรถเก็บขยะเพิ่มขึ้นจาก 1 คัน กลายเป็นรถเก็บขยะ 133 คัน และสามารถนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา หลังจากก่อตั้งบริษัทได้เพียง 4 ปีเท่านั้น
ต่อมาในปี 1980 คุณ Huizenga ตัดสินใจเข้าซื้อกิจการ Service Corporation of America บริษัทจัดการขยะที่ครอบคลุมพื้นที่บริการ หลายพื้นที่ในอเมริกาเหนือ
ผลของดีลนี้ ทำให้ในเวลานั้น Waste Management กลายเป็นบริษัทจัดการขยะที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา
1
ถึงตรงนี้ก็ถือว่า คุณ Huizenga ประสบความสำเร็จ และมาไกลจากอาชีพคนเก็บขยะอย่างมาก แต่เขากลับมีความทะเยอทะยานสูง และไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า Blockbuster ที่เคยเป็นร้านให้เช่าวิดีโอใหญ่สุดในโลก คุณ Huizenga ก็เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการเติบโตของธุรกิจนี้ด้วย
เพราะในปี 1987 คุณ Huizenga เห็นโอกาสเติบโตของร้านนี้ จึงได้ลงทุนและใช้วิธีเดียวกันกับการขยายธุรกิจจัดการขยะ ด้วยการไล่ซื้อกิจการคู่แข่งในหลาย ๆ พื้นที่
เมื่อครองตลาดแล้ว เขาจึงเปิดขายแฟรนไชส์ในพื้นที่ต่าง ๆ จนสามารถเพิ่มสาขา Blockbuster จาก 19 สาขา กลายเป็น 3,000 สาขาทั่วโลก ภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปีเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม คุณ Huizenga เห็นว่าธุรกิจนี้จะโดน
คู่แข่งอย่างสตรีมมิงวิดีโอ และเคเบิลทีวี แย่งส่วนแบ่งตลาดจาก Blockbuster ในอนาคตมากขึ้น
1
เขาจึงพยายามปรับให้ร้านมีธุรกิจบันเทิงเข้ามา
แต่เห็นแล้วว่า ไม่สามารถปรับได้ทันคู่แข่ง จึงตัดสินใจขายกิจการให้กับ Viacom ด้วยมูลค่าราว 609,000 ล้านบาท ในปี 1994
2
และยังไม่หยุดเพียงแค่นี้ หลังจากธุรกิจ Blockbuster คุณ Huizenga ยังได้ก่อตั้งธุรกิจดีลเลอร์รถยนต์ ที่ชื่อว่า AutoNation ในอีก 2 ปีถัดมา จนกลายเป็นบริษัทดีลเลอร์รถยนต์ใหญ่สุดในสหรัฐอเมริกา อีกด้วย
ก่อนที่ต่อมาจะหันมาขยายธุรกิจจัดการขยะอีกครั้ง ด้วยการตั้งบริษัท Republic Services ซึ่งให้บริการหลุมฝังกลบขยะ จนใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจาก Waste Management ที่เขาก็ยังเป็นเจ้าของ
ซึ่งวันนี้ Waste Management มีมูลค่าบริษัทอยู่ที่ 2,896,400 ล้านบาท
ส่วน Republic Services มีมูลค่าบริษัท 2,281,100 ล้านบาท
นี่ยังไม่รวมธุรกิจที่คุณ Huizenga ไปลงทุนอื่น ๆ อีก เช่น โรงแรม รีสอร์ต ทีมอเมริกันฟุตบอล เบสบอล และอีกมากมาย
อย่างไรก็ตาม คุณ Huizenga ได้เสียชีวิตลงในปี 2018 ด้วยวัย 80 ปี
ซึ่งความมั่งคั่งสุดท้ายของเขา อยู่ที่ 95,000 ล้านบาท
แม้เขาจะจากไป และไม่สามารถนำความมั่งคั่งติดตัวไปด้วยได้ แต่สิ่งที่เขาเหลือทิ้งไว้ ก็คือธุรกิจที่เขาสร้างขึ้นมา ยังคงช่วยขับเคลื่อนสังคมต่อไป
รวมถึงทิ้งแรงบันดาลใจให้คนรุ่นหลัง จากเรื่องราวการสร้างเนื้อสร้างตัว จากธุรกิจเก็บขยะที่ดูเหมือนเป็นสิ่งไร้ค่า
และบทเรียนจากเรื่องนี้ นอกจากการมองเห็นโอกาสทางธุรกิจแล้ว สิ่งที่ต้องเอาเป็นแบบอย่างคือ การพยายามค้นหาเป้าหมายที่ท้าทายไปเรื่อย ๆ
เหมือนที่คุณ Huizenga ไม่หยุดอยู่แค่ธุรกิจจัดการขยะ แต่ยังลุยต่อในอีกหลายสนาม ทั้ง Blockbuster, AutoNation, Republic Services และอื่น ๆ
เพราะในโลกนี้มีไอเดีย และโอกาสทางธุรกิจอยู่มากมาย
แต่คนที่ประสบความสำเร็จ แตกต่างจากคนอื่น
ตรงที่ว่า กลุ่มหลัง จบที่การคิด
กลุ่มแรก ทั้งคิด และลงมือทำให้เกิดขึ้น ก็เท่านั้นเอง..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
ความสำเร็จของ Waste Management ได้ไปเตะตา มหาเศรษฐีอย่างคุณ Bill Gates ที่ในเวลาต่อมา ได้เข้ามาลงทุนใน Waste Management
ซึ่งตอนนี้ มูลนิธิ Bill & Melinda Gates ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ของ Waste Management ด้วยสัดส่วน 8% หรือคิดเป็นมูลค่าราว 220,500 ล้านบาท
1
โฆษณา