วันนี้ เวลา 00:09 • ไลฟ์สไตล์

สมบูรณ์เป็นนิตย์

ผู้วินิจฉัย 4:1-7 TH1971
[1] ครั้นเอฮูดสิ้นชีวิตแล้ว คนอิสราเอลก็ประพฤติชั่วอีกในสายพระเนตรของพระเจ้า [2] พระเจ้าจึงทรงขายเขาไว้ในมือของยาบินกษัตริย์เมือง คานาอัน ผู้ครอบครองอยู่ ณ กรุงฮาโซร์ แม่ทัพของท่านชื่อสิเสรา เป็นชาวเมืองฮาโรเชธฮาโกอิม [3] แล้วคนอิสราเอลก็ร้องทุกข์ถึงพระเจ้า เพราะว่ากษัตริย์ยาบินมีรถรบเหล็กเก้าร้อยคัน และได้บีบบังคับคนอิสราเอลอย่างร้ายถึงยี่สิบปี
[4] คราวนั้นผู้เผยพระวจนะหญิงคนหนึ่งชื่อเดโบราห์ ภรรยาของลัปปิโดทเป็นผู้วินิจฉัยคนอิสราเอลสมัยนั้น [5] นางเคยนั่งอยู่ใต้ต้นอินทผลัมเดโบราห์ที่อยู่ ระหว่างรามาห์ และเบธเอลในแดนเทือกเขาเอฟราอิม และคนอิสราเอลก็มาหานางที่นั่น เพื่อให้ชำระความ
[6] นางใช้คนไปเรียกบาราคบุตรอาบีโนอัม ให้มาจากเคเดชในนัฟทาลีและกล่าวแก่เขาว่า <<พระเยโฮวาห์พระเจ้าของอิสราเอลมิได้ทรง บัญชาท่านหรือว่า <ไปซิรวบรวมพลไว้ที่ภูเขาทาโบร์ จงเกณฑ์จากเผ่านัฟทาลีและเผ่าเศบูลุนหนึ่งหมื่นคน [7] และเราจะชักนำสิเสราแม่ทัพของ ยาบินให้มาพบกับเจ้าที่แม่น้ำคีโชน พร้อมกับรถรบและกองทหารของเขา และเราจะมอบเขาไว้ในมือของเจ้า> >>
สมบูรณ์เป็นนิตย์แล้ว ก็เป็นความจริงในสายตาพระเจ้ามองผมเพราะการตายของพระเยซูได้ทำให้ผมและทุกคนเป็นเช่นนั้นครับ
แต่บ่อยครั้งมากที่ผมก็มีความกังวลสงสัยเข้ามาตอนที่เห็นสภาพตัวเองหรือสถานการครับ ทำให้ผมเริ่มที่จะต้องพยายามทำอะไรสักอย่างเพื่อจะกอบกู้สถานการให้เป็นตามความคิด แทนที่จะสนใจว่าพระเจ้าต้องการอะไรครับ
บ่อยครั้งจึงถูกอาจารย์ตักเตือนครับว่ากำลังกลับไปอยู่ใต้ธรรมบัญญัติอีกคือเชื่อว่าตัวเองสามารถจะควบคุมทุกสิ่งได้ด้วยความพยายาม พอทำผิดพลาดทำไม่ได้ดั่งที่ต้องการก็จะกล่าวโทษตัวเองและตั้งใจใหม่ครั้งต่อไปจะต้องทำให้ได้ แล้วก็จะปรากฏข้อผิดพลาดอีกแล้วก็จะกล่าวโทษตัวเองและตั้งใจใหม่ครั้งต่อไปจะต้องทำให้ได้ วนเป็นลูบแบบนี้ครับ
ถ้าสภาพจิตใจผมปรากฏออกมาแบบนี้หมายความว่าผมยังไม่ได้เชื่อพระเจ้าครับ ยังไม่ได้เชื่อว่าชีวิตเก่าตัวเก่าที่บาปได้จบแล้ว ตายไปพร้อมกับพระเยซูที่บนกางเขนแล้วตั้งแต่เมื่อกว่าสองพันปีที่แล้ว ก็เลยปล่อยให้มันพูดออกมาเรื่อยๆแบบนี้ได้ คือยังเชื่อเสียงมารซาตานครับ
ความจริงพระเจ้ากำลังทำงานกับผมและทุกคนตลอดเวลาตามพระคัมภีร์ไบเบิ้ลบอกไว้ครับ สิ่งนี้เท่านั้นที่จะช่วยให้เราไม่หลงทางไปตามเสียงหรือความคิดที่ล่อลวงของมารซาตาน
พระคำตอนนี้กำลังอธิบายถึงสภาพของชาวอิสราเอลที่ไม่สามารถขับไล่เอาชนะกับยาบินกษัตริย์ของคานาอัน แม้ว่าพระเจ้ายกคานาอันให้ทั้งหมดแล้วก็ตาม?
แต่แทนที่จะกำจัดคนคานาอันกับรูปเคารพของพวกเขาให้หมดตามที่พระเจ้าบอกแต่แรก แต่กลับปล่อยทิ้งไว้ และแต่งงานกับคนคานาอันเกิดลูกหลานเยอะแยะมากมายออกมาด้วย พวกเขาจึงกลับกลายมาเป็นหอกข้างแคร่คอยทำร้ายข่มเหงตัวเองมาจนถึงทุกวันนี้ครับ
เหมือนกับสภาพจิตใจของทุกคนตอนนี้ที่ไม่ตามพระเจ้าที่บอกให้ปฏิเสธเนื้อหนังและความคิดหรืออารมณ์ความรู้สึกนึกคิดต่างๆ ที่ไม่ใช่พระคำพระเจ้า ปัญหามากมายที่กำลังเกิดขึ้นให้เห็นมากมายในชีวิตมาจากตรงนี้ครับ
หลายคนก็พยายามจะแก้แต่ไปแก้ที่ปลายเหตุ เช่นพยายามออกกฏหมายหรือหลักการมากมายให้ทุกคนทำตามแล้วจะดีแล้วจะรอด แต่มนุษย์ไม่ได้มีศักยภาพที่จะทำได้ถึงขนาดนั้นครับ มันต้องทำได้ทุกข้อทุกเวลาปัญหาจึงจะถูกแก้ ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ครับ
พระเจ้าไม่ได้สร้างมนุษย์ขึ้นมาให้มีศักยภาพแบบนั้น แต่สร้างขึ้นมาให้เชื่อวางใจพระเจ้า ให้พระเจ้าเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบชีวิต ถ้าอยู่ในสถานะนี้มนุษย์จะไม่มีปัญหา แต่ที่เป็นปัญหากันอยู่ทุกวันนี้มาจากการที่ไม่ยอมจะอยู่ในสถานะนี้ หลายคนก็ไปตามเสียงล่อลวงของมารซาตานที่ล่อลวงอยู่ทุกวันเวลาเพื่อจะฆ่าทำลายผู้คน
ภาพของเดโบราห์กับบาลาคและยาเอลกับสองเผ่าของอิสราเอลก็กำลังบอกถึงผลลัพธ์ที่ตามมาหลังจากที่พวกเขาหันกลับมาเชื่อพระเจ้า คือสามารถเอาชนะกับกองทัพศัตรูได้ แม้ยาเอลผู้หญิงคนเดียวแต่ก็ยังสามารถฆ่าได้แม้กับสิเสราแม่ทัพคานาอัน
คือไม่สำคัญเลยว่าคนนั้นจะเป็นใคร ถ้าเชื่อพระเจ้าก็ใช้ทำงานได้หมด ใช้ได้หมดแม้คนที่ดูอ่อนแอที่สุดของโลกแบบนี้ครับ
แต่พอไม่เชื่อพระเจ้า ไปเชื่อสิ่งอื่นๆที่มารซาตานล่อลวง ผลลัพธ์ก็เป็นปัญหาแน่ๆ ครับ เพราะเขาต้องการฆ่าทำลายผู้คนแล้วมันจะออกผลมาดีได้ยังไง
ก็เห็นหลายคนเชื่อพระเจ้าแต่เชื่อแบบกล้าๆกลัวๆ ผลมันก็เหมือนคนตอกตะปูมือใหม่ครับ ก็จะกลัวตอกผิดโดนมือด้วย ก็เลยไม่กล้าตอกแรง กว่าจะตอกได้สักดอกก็เสียหายบิดงอทิ้งเยอะ ที่ผ่านมาผมเองก็เชื่อพระเจ้ามาแบบนี้เหมือนกัน กล้าๆกลัวๆ มองแล้วก็น่าสมเพช
แต่มองอาจารย์คิมฮักเชิลวันนี้ดูมีความเชื่อเยอะ อาจารย์ก็เคยผ่านช่วงเวลากล้าๆกลัวๆ แบบนี้มาก่อนเหมือนกันกับการเชื่อติดตามพระเจ้า แต่ก็ก้าวไปต่อเรื่อยๆ พระเจ้าก็สร้างจิตใจที่เชื่อเพียงพระเจ้าให้เติบใหญ่ขึ้นๆ ไม่ใช่กลัวแล้วไม่เอาเลย แต่ยอมเป็นทาสเนื้อหนังต่อไปให้มารซาตานใช้ทำร้ายตัวเองและคนมากมาย สิ่งนี้ต่างหากที่น่ากลัวแต่กลับไม่กลัว
เหมือนชาวอิสราเอลก่อนเดโบราห์จะมา ก็ยอมให้กษัตริย์ยาบินของคานาอันกดขี่ข่มเหงอยู่อย่างนั้น กลัวหัวหด ลืมพระเจ้าไปเลย ลืมเลยว่าพระเจ้าให้ครอบครองคานาอัน แต่กลับมาเป็นทาสพวกเขา เพราะเชื่อเสียงล่อลวงของมารซาตานเหมือนผู้คนมากมายทุกวันนี้ครับ ซึ่งก็ได้แต่กลายเป็นเครื่องมือมารซาตานทำร้ายตัวเองครอบครัวและผู้คนมากมายไปเรื่อยๆเท่านั้นเองครับ
วันที่10-12 กุมภาพันธ์เดือนหน้านี้ จึงอยากจะเชิญชวนท่านผู้อ่านได้เข้ามาร่วมงานอบรมพระคัมภีร์ฯด้วยกัน เพื่อจะได้หลุดพ้นออกจากความสิ้นหวังและได้พบกับความสุขที่แท้จริง ถ้าได้ฟังอย่างเข้าใจกับพระคำในงานอบรมครั้งนี้ครับ
สำรองที่นั่ง,ที่พักหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 085-083-5433,094-432-0889
ขอบคุณครับ
โฆษณา