14 ก.พ. เวลา 12:00 • อาหาร
Rimping Supermarket Nawarat Branch

ย้อนรอยประวัติศาสตร์ “Bacon” (เบคอน) และความแตกต่างระหว่างเบคอนหนา และเบคอนบาง

รู้หรือว่าไม่ว่าจีนเป็นประเทศแรกที่ผลิต Bacon (เบคอน) ขึ้นมาเมื่อราว ๆ 1,500 ปีก่อนคริสตกาล โดยปรากฎขึ้นในรูปแบบของ “หมูสามชั้นหมักเกลือ” (Salted Pork Belly) ว่ากันว่าในอดีตชาวจีนนำหมูสามชั้นไปหมักเกลือแล้วนำไปต้มจนน้ำเริ่มแห้งแล้วนำไปตากทำเป็น Bacon รูปแบบแรกสุด
.
ต่อมามีการสันนิษฐานว่า Bacon เริ่มเป็นที่รู้จักในจักรวรรดิโรมันผ่านการพิชิตในตะวันออกกลาง ซึ่งชาวโรมันเริ่มเรียนรู้วิธีการหมักหมูด้วยเกลือ รวมไปถึงวิธีการเพาะพันธุ์หมู และนำมาพัฒนาเป็นแบบของตัวเอง โดยชาวโรมันจะนำหมูไปต้มกับผลมะเดื่อแล้วตากให้แห้งและใส่พริกไทยลงไปเพิ่มเติมเรียกว่า “Petaso” (เพตาโซ)
.
เมื่อเวลาผ่านไปในช่วงยุคกลางของยุโรป ชาวแองโกล-แซกซัน (Anglo-Saxons) ได้ขัดเกลาศิลปะการทำ Bacon โดยนำเทคนิคการรมควันมาใช้ จนเนื้อหมูหมักเกลือที่ได้กลายมาเป็น Bacon ที่เรารู้จักในปัจจุบัน ซึ่งในเวลาไม่นาน Bacon รูปแบบนี้ก็แพร่กระจายไปทั่วยุโรป
.
ในศตวรรษที่ 12 มีเรื่องเล่าว่าโบสถ์แห่งหนึ่งในเมืองดันมอว์ (Dunmow) ประเทศอังกฤษ ได้จัดงานที่เรียกว่า The Dunmow Flitch Trials ขึ้นมา เพื่อให้คู่รักมายืนยันว่าในหนึ่งปีกับอีกหนึ่งวันที่ผ่านมา ทั้งคู่ไม่เคยทะเลาะกันเลย โดยจะมีผู้พิพากษามาตัดสินว่าจริงหรือไม่ เชื่อได้หรือเปล่า ถ้าเชื่อได้ก็จะได้รับ Bacon กลับบ้านไปนี่จึงกลายเป็นที่มาของสำนวนที่ว่า “Bringing home the bacon” นั่นเอง
.
ในช่วงศตวรรษที่ 12 Bacon จะถูกเรียกว่า “Bacoun” ในภาษาอังกฤษ ซึ่งหมายถึงหมูทุกชนิด แต่ในเวลาต่อมาก็มีการจำกัดความของคำนี้ให้แคบลงเหลือเพียง Bacon ที่หมายถึง หมูเค็มนั่นเอง
ในสหรัฐอเมริกา Bacon ได้รับความนิยมในช่วงอาณานิคม โดยผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยุโรปนำเทคนิคการทำ Bacon เข้ามาเผยแพร่ ด้วยอายุการรักษาที่ยาวนาน และมีรสชาติเข้มข้น Bacon จึงกลายเป็นอาหารหลักในครัวเรือนชาวอเมริกัน นิยมนำไปทานคู่กับขนมปัง แซนด์วิช หรือเบเกอร์เป็นอาหารเช้า
.
ตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา Bacon ได้รับการพัฒนาอย่างนับไม่ถ้วน ซึ่งแต่ละภูมิภาคก็จะมีสูตรและเทคนิคเป็นของตัวเอง เช่น การปรุงรส รวมถึงวิธีการหั่นที่แตกต่างกันทั้งแบบหนาและแบบบาง
Bacon แบบหนาสามารถมีความหนาได้ถึง 10 มิลลิเมตรเลยทีเดียว โดยเนื้อจะมีความชุ่มฉ่ำ ผิวด้านนอกกรอบส่วนด้านในจะนุ่ม เหมาะที่จะทานเป็น BLT แซนด์วิชชนิดหนึ่ง ที่ตั้งชื่อตามอักษรย่อจากคำภาษาอังกฤษของส่วนผสมหลักคือ เบคอน (Bacon) ผักกาดหอม (Lettuce) และมะเขือเทศ (Tomato) ในทางกลับกัน Bacon บางมักจะมีชิ้นหนาประมาณ 1.5 มิลลิเมตร สามารถปรุงให้สุกได้อย่างรวดเร็ว เนื้อสัมผัสจะมีความกรอบ นิยมนำไปทานคู่กับสลัด พาสต้า หรือนำไปห่อทานคู่กับวัตถุดิบอื่น ๆ เช่น ผัก และอาหาร เป็นต้น
สามารถหาซื้อ Bacon ได้ที่ริมปิงทุกสาขานะคะ
โฆษณา