19 ก.พ. เวลา 12:00 • อาหาร
Rimping Supermarket Nawarat Branch

ย้อนรอยประวัติศาสตร์ “Glico” (กูลิโกะ) บริษัทขนมยักษ์ใหญ่สัญชาติญี่ปุ่นที่โด่งดังในระดับโลก

Glico เป็นบริษัทผลิตขนมยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น มีต้นกำเนิดย้อนกลับไปราวศตวรรษที่ 19 ก่อตั้งโดย Ezaki Glico (เอซากิ กูลิโกะ) เรื่องราวเล่าว่าในปี 1919 คุณ Ezaki ได้ค้นพบค้นสารไกลโคเจน (Glycogen) ซึ่งเป็นสารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่งในน้ำต้มหอยนางรม จากนั้นเขาจึงเกิดไอเดียทำขนมหวานที่นำสารไกลโคเจนมาใช้ เนื่องจากสารดังกล่าวมีคุณค่าทางโภชนาการ ซึ่งเคยช่วยชีวิตลูกชายของเขาที่ป่วยเป็นโรคไข้รากสาดใหญ่มาแล้ว
.
ในปี 1921 บริษัทได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ขนมเสริมสุขภาพชนิดแรกขึ้นมาคือ Glico Caramel โดยมีบรรจุภัณฑ์เป็นกล่องสีแดงโดดเด่นรูปนักวิ่งยกมือสองข้างเข้าเส้นชัย เปิดขายครั้งแรกที่ห้างสรรพสินค้า Mitsukoshi ในโอซากา ซึ่งขายดีเป็นอย่างมาก เนื่องจากเขาเกิดไอเดียนำของเล่นที่เด็ก ๆ ชื่นชอบใส่ไว้ในกล่องด้วย
.
เมื่อความต้องการมีเพิ่มมากขึ้น ในปี 1925 คุณ Ezaki จึงขยายโรงงานเพิ่มขึ้นในพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งในโตเกียว โอซาก้า และเมืองต้าเหลียนประเทศจีน แต่ทว่าโชคไม่ดีนักในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โรงงานทั้งหมดของเขาถูกทำลาย จากการโจมตีทางอากาศ ด้วยเหตุนี้บริษัทจึงยุบหายไป จนกระทั่งปี 1951 บริษัทก็กลับมาเปิดตัวอีกครั้ง
.
หลังจากกลับมาเปิดบริษัทคุณ Ezaki ก็ได้กล่าวถึงเหตุการณ์การทำลายล้างเอาไว้ว่า “แม้ว่าสงครามจะทำลายสิ่งอื่นทั้งหมด แต่ทรัพย์สินที่เหลืออยู่ก็คือ Glico นั่นเอง”
ในปี 1951 คุณ Ezaki กลับมาเดินหน้าสร้างโรงงานใหม่อีกครั้งในโอซากา และโตเกียว จากนั้นอีก 5 ปีต่อมาเขาก็ได้ก่อตั้งบริษัท Ezaki Glico Foods Co., Ltd. และ Glico Dairy Co., Ltd. ขึ้นมา เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากแป้งสาลี ก่อนจะมีการควบรวมกิจการทั้งหมดเป็นบริษัท Glico Dairy Co., Ltd. ในปี 1966 และเริ่มผลิตสินค้าออกมาจำหน่ายมากมาย เช่น อัลมอนด์, เพรทซ์ (Pretz), ไจแอนท์โคน และที่้โด่งดังมากที่สุดก็คือ “ป๊อกกี้” (Pocky) เคลือบช็อกโกแลต
.
เดิมทีป๊อกกี้ถูกวางตลาดให้เป็นขนมขบเคี้ยวสำหรับผู้หญิงที่ทำงานยุ่ง โดยตอนแรกป๊อกกี๊จะถูกเคลือบช็อกโกแลตแบบเต็มแท่งทำให้เวลารับประทานมือจะเลอะเทอะ ด้วยเหตุนี้บริษัทจึงเปลี่ยนไปเคลือบช็อกโกแลตโดยเว้นส่วนท้ายเอาไว้เพื่อให้จับได้สะดวกและไม่เลอะเทอะ โดยได้แรงบันดาลใจมาจาก Kushikatsu อาหารทอดเสียบไม้ที่นิยมในญี่ปุ่น
.
ในปี 1970 บริษัทได้ก่อตั้งบริษัท Thai Glico Co., Ltd. ขึ้นมา เพื่อขยายฐานลูกค้าไปทั่วเอเชีย ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จากนั้นก็เริ่มขยายไปฝั่งยุโรปทั้งในแคนาดา และฝรั่งเศส จนท้ายที่สุดในปี 2003 ก็เริ่มขยายไปยังอเมริกา
.
ในปี 1972 บริษัทได้เปิดพิพิธภัณฑ์ Glico ในโอซาก้า เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีของ Glico โดยจัดแสดงของเล่นประมาณ 4,000 ชิ้นในกล่อง Glico Caramel พร้อมด้วยสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับคุณ Ezaki ผู้ก่อตั้งบริษัท ซึ่งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้รับการอนุมัติให้เป็นมรดกทางอุตสาหกรรมที่ทันสมัย โดยกระทรวงเศรษฐกิจในปี 2008
.
ในปี 1998 บริษัทได้เปิดตัวป้ายรูปนักวิ่งที่กำลังวิ่งอยู่ในเมืองโอซากา ชื่อว่า “Glico Running Man” โดยมีฉากหลังเป็นอาคาร และสิ่งก่อสร้างเด่น ๆ ประจำเมือง เช่น ปราสาทโอซากา พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง โอซากาโดม หอคอยซึเทนคาคุ เป็นต้น ซึ่งใช้เพื่อเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงความมุ่งมั่นของบริษัทต่อความก้าวหน้า ความอุตสาหะ และชัยชนะ โดยปัจจุบันนี้ป้ายนี้ก็ยังคงตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมืองโอซากา กลายเป็นแลนด์มาร์คสำคัญแห่งหนึ่งที่ใครไปเที่ยวญี่ปุ่นมักจะแวะถ่ายรูป
.
ด้วยความนิยมของป๊อกกี้ที่ไม่เคยลดลงเลยนับตั้งแต่เปิดตัว ในปี 1999 บริษัท Glico จึงกำหนดให้วันวันที่ 11 พฤศจิกายนของทุกปีเป็นวันป๊อกกี้ และเพรทซ์ หรือชื่อในภาษาญี่ปุ่นคือ “Pokki no hi ポッキーの日” ซึ่งเป็นแคมเปญการตลาดที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ได้รับการยอมรับอย่างล้นหลามทั้งในและต่างประเทศ
.
ปัจจุบัน Glico ยังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์ออกมาหลากหลายรูปแบบ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคมีทั้ง ป๊อกกี้รสชาติใหม่ ๆ ไอศกรีม นม โยเกิร์ต ช็อกโกแลต บิสกิต ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ไปจนถึงอาหารคาวอย่างแกงกะหรี่ และชีสด้วย
สามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์จาก Glico ได้ที่ริมปิงทุกสาขานะคะ
โฆษณา