#เสรีภาพหรือศีลธรรมที่ถูกบังคับ? คำถามทางปรัชญาจาก A Clockwork Orange
A Clockwork Orange (1971)-ภาพยนตร์โดย Stanley Kubrick ผู้กำกับที่ขึ้นชื่อเรื่องความสมบูรณ์แบบ การควบคุมทุกรายละเอียด และแนวทางการเล่าเรื่องที่ท้าทายขนบเดิมของภาพยนตร์ฮอลลีวูด
ผ่านสายตาของ Alex DeLarge วัยรุ่นจิตวิปริตผู้หลงใหลในความรุนแรง เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ Alex และพวกเหล่าผองเพื่อนDroogs ออกตระเวนก่อเหตุอาชญากรรมทั้งทำร้ายชายเร่ร่อนด้วยความสนุกสนาน เปิดศึกตีกับแก๊งอันธพาลอีกกลุ่ม บุกเข้าไปในบ้านของนักเขียนชื่อดัง และข่XขืXภรรยาของเขาต่อหน้าต่อตา
ในขณะที่เพลิดเพลินกับการใช้ชีวิตแบบอาชญากร Alex เริ่มมีความขัดแย้งกับสมาชิกในแก๊งของเขา พวกเขาวางแผนหักหลัง Alex ระหว่างการปล้นบ้านของหญิงชราว หลังจากที่ Alex ฆ่Xหญิงชราสำเร็จพวก Droogs ก็แจ้งตำรวจและปล่อยให้เขาถูกจับกุม Alex ถูกตัดสินจำคุกและพยายามทำตัวเป็นนักโทษตัวอย่างเพื่อหาทางออกจากเรือนจำ
จนได้ยินเกี่ยวกับ “Ludovico Technique” โปรแกรมทดลองของรัฐบาลที่ออกแบบมาเพื่อ “รักษา” อาชญากรให้กลายเป็นประชาชนที่ดี รัฐบาลเสนอให้ผู้ต้องขังที่สมัครใจเข้าร่วมการทดลองนี้ได้รับการปล่อยตัวเร็วขึ้น Alex ไม่รอช้าและอาสาเข้ารับการทดลอง และเรื่องราวความน่าพิศวงปนขนลุกก็ได้เริ่มขึ้น
สิ่งนี้สะท้อนถึงแนวคิดที่ว่า ศีลธรรมไม่สามารถถูกปลูกฝังได้ด้วยการบังคับ แต่ต้องเกิดจากการเลือกด้วยตัวเอง Alex ไม่เคยเลือกที่จะเป็นคนดี เขาเพียงถูกบังคับให้ไม่สามารถทำชั่วได้ ซึ่งทำให้เขาปราศจากอิสระในการตัดสินใจที่แท้จริง
***อำนาจของรัฐบาลในการควบคุม***
รัฐบาลในหนังต้องการลดอาชญากรรมโดยใช้วิธีควบคุมพฤติกรรมของอาชญากรแทนที่จะให้พวกเขาได้รับความยุติธรรมตามกฎหมาย จึงได้สร้าง Ludovico Technique ซึ่งเป็นตัวแทนของการควบคุมที่ขัดต่อหลักมนุษยธรรม มันไม่ได้เปลี่ยนแปลงจิตใจของ Alex อย่างแท้จริง
แต่มัน “โปรแกรม” ให้ร่างกายของเขาตอบสนองทางลบต่อความรุนแรง รัฐบาลไม่ได้สนใจว่า Alex จะเป็น “คนดี” จริงๆ หรือไม่ แต่สนใจเพียงว่า เขาจะไม่สามารถสร้างปัญหาให้สังคมได้อีก ในระหว่างกระบวนการ Alex ถูกบังคับให้นั่งดูฉากความรุนแรงติดต่อกัน พร้อมกับได้รับยาที่ทำให้เขาคลื่นไส้และรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรง
ร่างกายของเขาถูกตั้งโปรแกรมให้เชื่อมโยงความรุนแรงกับความทรมาน ผลลัพธ์คือ ทุกครั้งที่ Alex คิดจะใช้ความรุนแรง หรือแม้แต่พยายามป้องกันตัวเอง เขาจะรู้สึกคลื่นไส้และทรมาน ราวกับร่างกายของเขาปฏิเสธการกระทำเหล่านั้นโดยอัตโนมัติ
แต่ปัญหาของการควบคุมพฤติกรรมแบบนี้คือ มันไม่ได้เปลี่ยนแปลงจิตใจของ Alex
ในช่วงท้ายเรื่อง Alex กลายเป็น เครื่องมือทางการเมือง
ฝ่ายรัฐบาลใช้เขาเป็นโครงการนำร่องของ Ludovico Technique เพื่อแสดงให้เห็นว่านโยบายของพวกเขาสามารถ “กำจัดอาชญากร” ได้ ฝ่ายต่อต้านรัฐบาล (นำโดย Frank Alexander นักเขียนที่เขาเคยทำร้าย) ใช้เขาเพื่อโจมตีรัฐบาล โดยพยายามผลักดันให้เขาฆ่าตัวตาย เพื่อใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง หลังจากที่ Alex ถูกปล่อยตัวออกจากคุก
เขากลับกลายเป็น เหยื่อของความรุนแรง ที่เขาเคยก่อไว้ เขาถูกกลุ่มชายเร่ร่อนทำร้าย,ถูกอดีตพวก Droogs ที่ตอนนี้กลายเป็นตำรวจซ้อมอย่างโหดเหี้ยม,และถูก Frank Alexander ใช้เป็นเครื่องมือในการโจมตีรัฐบาล Frank และฝ่ายต่อต้านรัฐบาล ไม่ได้สนใจความทุกข์ของ Alex จริงๆ แต่ต้องการใช้เขาเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อเปิดโปงความโหดร้ายของรัฐบาลหลังจากที่ Alex พยายามฆ่าตัวตาX และกลายเป็นประเด็นข่าวใหญ่
รัฐบาลเริ่มกังวลว่าการทดลองของพวกเขาจะถูกเปิดโปงและส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของรัฐ แทนที่จะยอมรับว่าการทดลองผิดพลาด รัฐบาลกลับเลือกใช้วิธี “เยียวยา” Alex พวกเขา ลบผลของ Ludovico Technique และคืนเสรีภาพให้เขา รวมถึงเสนอข้อตกลงที่เป็นประโยชน์ต่อ Alex เพื่อป้องกันไม่ให้เขาเปิดเผยเรื่องราวของการทดลอง
การกระทำนี้แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลไม่ได้สนใจว่า Alex จะเป็นคนดีหรือไม่ พวกเขาสนใจแค่รักษาอำนาจของตัวเอง ในฉากสุดท้าย ของเรื่อง Alex จินตนาการถึงตัวเองที่กลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม เต็มไปด้วยเซ็กซ์และความรุนแรง พร้อมกับคำพูด “I was cured, all right.” ซึ่งเป็นการประชดประชันว่าเขาไม่ได้ถูก “รักษา” จริงๆ และรัฐบาลเองก็ไม่ได้สนใจเรื่อง “ความดี” ของประชาชนจริงๆ