31 ม.ค. เวลา 01:10 • หุ้น & เศรษฐกิจ

เรื่องราวการล้างพอร์ตในวันที่กราฟทองคำทำ All Time High

"มันจะขึ้นไปอีกแค่ไหนกันนะ?" ผมคิดขณะที่จ้องกราฟราคาทองคำบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ในเช้าวันนั้น
เส้นกราฟดูเหมือนจะทะยานขึ้นไม่มีหยุด ทองคำทำ All Time High ใหม่ เรียกว่าเป็นข่าวใหญ่ในวงการเทรด
ผมเองก็เป็นหนึ่งในเทรดเดอร์ ที่ไม่อยากพลาดโอกาสทองครั้งนี้
เช้าของวันที่เต็มไปด้วยความหวัง
เช้าของวันนั้น เป็นวันที่จำได้ขึ้นใจ ผมเปิดพอร์ตด้วยความตื่นเต้น ตัดสินใจเข้าสถานะ Long ด้วยความมั่นใจว่า "กราฟจะพุ่งขึ้นไปอีกแน่นอน" เพราะข่าวจากทุกสำนักบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า "ราคาทองยังมีโอกาสไปต่อ!"
ผมใส่ Leverage สูงๆ หวังทำกำไรเร็วๆ และเยอะๆ ในหู ยังได้ยินเสียงแว่วๆ อยู่ตลอดบอกว่า "นี่แหละ! จังหวะของเรา!"
ผมเฝ้าดูกราฟพร้อมกับอ่านข่าว "เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ดอลลาร์อ่อนค่า เฟดอาจลดดอกเบี้ย" ทุกสิ่งที่อ่านเหมือนจะหนุนความมั่นใจให้ล้นพอร์ต
จุดเริ่มต้นของความพังพินาศ
แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น...
หลังจากราคาทองขึ้นไปแตะจุดสูงสุด มันกลับตัวลงแรงแบบไม่ให้ตั้งตัว ผมใจเต้นรัว รีบเปิดแอปเช็กพอร์ต พอร์ตสีเขียว...กลายเป็นสีแดงในพริบตา!
"มันต้องรีบาวด์สิ!" ผมยังคิดพร้อมกับถือสถานะต่อไป หวังว่าราคาจะกลับมาขึ้นอีกครั้ง
แต่ทุกอย่างดูเหมือนสวนทางกันหมด ราคาลงต่อแบบไม่มีเบรก ผมเริ่มมือสั่น เหงื่อแตก มือกดเพิ่ม Margin แบบไร้เหตุผล พยายามยื้อสถานะสุดกำลัง
วินาทีที่พอร์ตว่างเปล่า
ไม่นานนัก ก็มีข้อความแจ้งเตือน "Margin Call" ขึ้นมา และแล้วสิ่งที่ฉันกลัวที่สุดก็เกิดขึ้น... พอร์ตโดนล้าง!
บทเรียนราคาแพง ที่ฝากรอยแผลไว้ในใจ
ผมนั่งนิ่งอยู่หน้าจอที่มืดลงไปแล้ว… เสียงแจ้งเตือนสุดท้ายดังขึ้นก่อนที่ทุกอย่างจะเงียบสนิท
“Margin Call – Your position has been liquidated.”
มือทั้งสองข้าง ยังค้างอยู่บนเมาส์ แต่ไม่มีอะไรให้คลิกอีกต่อไป พอร์ตที่เคยเต็มไปด้วยตัวเลขสีเขียว บัดนี้เหลือแต่ความว่างเปล่า ความรู้สึกเหมือนหัวใจหล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม มือสั่นจนแทบจับอะไรไม่อยู่
นี่มัน…ความฝันหรือความจริง?
ลองกดรีเฟรชจออีกหลายๆครั้ง เหมือนกับว่าถ้ามันเป็นแค่บั๊กของระบบ ตัวเลขจะกลับมาเหมือนเดิม… แต่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง พอร์ตที่เคยสร้างมาตลอดหลายเดือนหายไปต่อหน้าต่อตา ทุกอย่างหายวับไปพร้อมกับกราฟที่ดิ่งลงราวกับภูเขาถล่ม
ความเงียบงันในห้องตอนนี้ดังสนั่นในหัว ไม่มีเสียงอะไรเลยนอกจากเสียงลมหายใจที่หนักหน่วง กับหัวใจที่เต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมา ผมหลับตาแน่น พยายามกลั้นน้ำตา แต่เปล่าเลย… หยดน้ำอุ่นๆ ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
"มันจบแล้วจริงๆ สินะ?"
ภาพในอดีตย้อนกลับมาเหมือนหนังม้วนเดิม
ผมนึกย้อนกลับไปถึงเช้าวันนั้น วันที่มีความมั่นใจสุดๆ "ฉันกำลังจะคว้า [แจ็คพอต] ของชีวิต ทุกข่าวทุกบทวิเคราะห์บอกว่าทองจะพุ่งขึ้นอีก โอกาสแห่งชีวิตได้เปิดให้ฉันแล้ว…
ผมได้โยนเงินทั้งหมดที่มีเข้าไปในออเดอร์นั้น ใส่เลเวอเรจแบบไม่คิดชีวิต เหมือนนักพนันที่มั่นใจว่า "ครั้งนี้ต้องชนะ"
แต่ตลาดมันไม่เคยปรานีใคร
ภาพกราฟที่ผมเคยจ้องมันทุกวันเหมือนเป็นเพื่อนที่ไว้ใจ ตอนนี้มันกลายเป็นศัตรูที่โหดร้ายที่สุดในชีวิต ราคาทะลุขึ้นไปถึงจุดสูงสุด แล้วหลังจากนั้น… ทุกอย่างก็พลิกกลับ เหมือนถูกกระชากลงมาจากยอดเขา แม้ว่าจะพยายามฝืน หวังว่ามันจะดีดกลับ แต่ตลาดไม่ได้สนใจว่า เราต้องการอะไร... มันพร้อมจะคร่าทุกอย่างไปจากทุกคน
เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นเรื่อยๆ ตัวเลขสีแดงกะพริบให้ฉันเห็นชัดเจน ฉันพยายามเติมเงินเข้าไป พยายามรักษาสถานะ แต่มันก็เหมือนคนที่พยายามอุดรอยรั่วของเรือที่กำลังจม…
สุดท้าย ผมก็ต้องนั่งดูทุกอย่างพังทลายต่อหน้าต่อตา
ความเจ็บปวดที่ไม่มีใครเห็น
หลังจากนั้น ผมได้ปิดคอมพิวเตอร์ แล้วเดินไปนั่งกอดเข่าอยู่ตรงมุมห้อง ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน แค่รู้สึกว่าโลกทั้งใบมืดมนไปหมด
ได้แต่โทษตัวเอง
"ถ้าฉันตั้ง Stop Loss ไว้ก็คงไม่เป็นแบบนี้"
"ถ้าฉันไม่โลภเกินไปก็คงไม่เจ็บขนาดนี้"
"ฉันมันโง่เอง"
ทุกคำพูดตอกย้ำตัวเองซ้ำๆ เหมือนค้อนที่ค่อยๆ ทุบลงบนจิตใจ
รู้สึกถึงความพ่ายแพ้ ความสิ้นหวัง… มันเป็นความรู้สึกที่ทรมานยิ่งกว่าการเสียเงิน มันคือการที่ ต้องยอมรับว่า "ฉันพลาดไป และมันคือความผิดของฉันเอง"
แผลที่เปลี่ยนเป็นบทเรียน
ผ่านไปหลายวัน ผมค่อยๆ กลับมามองเหตุการณ์นี้ใหม่ เริ่มอ่านหนังสือเทรดมากขึ้น ศึกษาการบริหารความเสี่ยง ตั้งกฎให้ตัวเอง และที่สำคัญ… ต้องเรียนรู้ที่จะยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง
"ความล้มเหลวครั้งนี้ ไม่ได้ทำให้ฉันพัง… มันแค่ทำให้ฉันแข็งแกร่งขึ้น"
ผมได้แต่คิดกับตัวเอง และให้กำลังใจ
ใช่ มันอาจเป็นบทเรียนที่แพงที่สุดในชีวิต แต่มันก็คือค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายเพื่อเติบโต มันคือรอยแผลที่ทำให้ผมเป็นเทรดเดอร์ที่ดีขึ้น
และแม้ว่ามันจะเป็นวันที่มืดมนที่สุดวันหนึ่ง แต่ก็รู้ดีว่า…
แสงสว่างมันจะกลับมาเสมอ ถ้าเราไม่ยอมแพ้
ถึงคนที่กำลังอ่านอยู่ตอนนี้ ถ้าคุณเคยล้มเหลวแบบผมนี่… ขอให้รู้ไว้ว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียว เราทุกคนล้วนเคยเจ็บ เคยพลาด แต่สิ่งที่สำคัญคือ คุณจะลุกขึ้นมาสู้ต่อหรือเปล่า?
ตลาดยังคงอยู่เสมอ และโอกาสใหม่ก็ยังมีเสมอ…
อย่าปล่อยให้ความล้มเหลวครั้งเดียว มาขโมยอนาคตของคุณไป 💪🔥
โชคดีกับทุกๆท่าน #PassiveTrader #พนักงานประจำก็เทรดได้
โฆษณา