31 ม.ค. เวลา 03:50 • การศึกษา

"การยกเลิกสัญญาเช่าเมื่อสัญญาครบกำหนดแต่ผู้เช่ายังเช่าต่อโดยผู้ให้เช่าไม่คัดค้าน"

ในทางกฎหมาย สัญญาเช่าถือเป็นสัญญาที่คู่สัญญาตกลงกันโดยผู้ให้เช่ายินยอมให้ผู้เช่าใช้ทรัพย์สินของตนเป็นการชั่วคราว และผู้เช่าตกลงชำระค่าเช่าให้แก่ผู้ให้เช่า การเช่าสิ้นสุดลงตามกำหนดเวลาที่ตกลงกันไว้ในสัญญา แต่หากเมื่อครบกำหนดแล้ว ผู้เช่ายังคงใช้ทรัพย์สินเช่าต่อไป และผู้ให้เช่าไม่คัดค้าน กฎหมายกำหนดให้ถือว่าเป็นการต่ออายุสัญญาเช่าโดยปริยาย ซึ่งมีผลต่อสิทธิและหน้าที่ของทั้งสองฝ่าย
บทความนี้จะอธิบายถึงขั้นตอนการยกเลิกสัญญาเช่าเมื่อสัญญาครบกำหนดแล้วแต่ยังมีการเช่าต่อไป โดยอ้างอิงบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องใน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
1) สัญญาเช่าสิ้นสุดลงเมื่อครบกำหนด
ตาม มาตรา 564 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ วางหลักว่า "สัญญาเช่าย่อมระงับไปเมื่อสิ้นกำหนดเวลาที่ตกลงกันไว้ โดยมิต้องบอกกล่าวก่อน"
หมายความว่า หากคู่สัญญาตกลงเช่ากันเป็นระยะเวลาที่แน่นอน เช่น 1 ปี 3 ปี หรือ 10 ปี เมื่อถึงกำหนด สัญญาจะสิ้นสุดลงโดยอัตโนมัติ และผู้เช่าต้องส่งมอบทรัพย์สินคืนแก่ผู้ให้เช่า
อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่เมื่อครบกำหนดแล้วผู้เช่ายังคงอยู่ในทรัพย์สินเช่าต่อไป และผู้ให้เช่าไม่ได้คัดค้าน กฎหมายถือว่าเป็นการเช่าต่อโดยปริยาย
2) การเช่าต่อโดยปริยายและผลทางกฎหมาย
มาตรา 570 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์วางหลักว่า "เมื่อสิ้นกำหนดเวลาเช่า ผู้เช่ายังคงครองทรัพย์สินอยู่ และผู้ให้เช่าไม่ทักท้วง ให้ถือว่าคู่สัญญาได้ทำสัญญาใหม่ต่อไปไม่มีกำหนดเวลา"
เมื่อสัญญากลายเป็น "สัญญาเช่าไม่มีกำหนดระยะเวลา" สิทธิและหน้าที่ของผู้เช่าและผู้ให้เช่ายังคงเป็นไปตามสัญญาเดิม แต่สามารถบอกเลิกได้ตามกฎหมาย
3) ขั้นตอนการยกเลิกสัญญาเช่าเมื่อกลายเป็นสัญญาไม่มีกำหนดเวลา
เมื่อสัญญาเช่ากลายเป็นสัญญาเช่าไม่มีกำหนดเวลา ผู้ให้เช่าสามารถใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาได้ โดยต้องปฏิบัติตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดไว้ในมาตรา 566
มาตรา 566 วางหลักว่า "ถ้ากำหนดเวลาเช่าไม่ปรากฏในสัญญา คู่สัญญาฝ่ายใดจะบอกเลิกสัญญาเช่าในขณะเมื่อสุดระยะเวลาอันเป็นกำหนดชำระค่าเช่าก็ได้ แต่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้าให้อีกฝ่ายรู้ตัวไม่น้อยกว่าหนึ่งงวดค่าเช่า แต่ไม่จำเป็นต้องบอกกล่าวล่วงหน้าเกินกว่าสองเดือน"
หมายความว่า หากค่าเช่ากำหนดจ่ายเป็นรายเดือน ผู้ให้เช่าต้องแจ้งบอกเลิกสัญญาล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือน (ควรแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร) ก่อนให้ผู้เช่าย้ายออก หากผู้เช่าปฏิเสธการออก ผู้ให้เช่าสามารถดำเนินการทางกฎหมาย เช่น ฟ้องขับไล่
4) แนวทางปฏิบัติเมื่อผู้เช่าไม่ยอมออก
หากผู้เช่าไม่ยอมออกจากทรัพย์สินหลังจากครบกำหนดแจ้งบอกเลิกสัญญาแล้ว ผู้ให้เช่าสามารถดำเนินการทางกฎหมายได้ดังนี้
1. ส่งหนังสือบอกกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อยืนยันการบอกเลิกสัญญา
2. หากผู้เช่ายังไม่ออก ให้แจ้งตำรวจ เพื่อให้เป็นพยานว่าผู้เช่ายังคงครอบครองทรัพย์สินโดยไม่มีสิทธิ์ (ลงบันทึกประจำวัน)
3.ฟ้องขับไล่ต่อศาล
5)ข้อควรระวังสำหรับผู้ให้เช่าและผู้เช่า
ผู้ให้เช่า ควรแจ้งบอกเลิกสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร และหลีกเลี่ยงการกระทำผิดกฎหมาย เช่น การตัดน้ำตัดไฟ หรือบุกเข้าไปยึดทรัพย์สินโดยพลการ
ผู้เช่า ควรปฏิบัติตามสัญญาและกฎหมาย เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้น
สรุป
เมื่อสัญญาเช่าครบกำหนดแต่ผู้เช่ายังคงอยู่ต่อ และผู้ให้เช่าไม่คัดค้าน สัญญานั้นจะกลายเป็น "สัญญาเช่าไม่มีกำหนดเวลา" ซึ่งสามารถบอกเลิกได้โดยต้องแจ้งล่วงหน้าตามที่กฎหมายกำหนด (เช่น อย่างน้อย 1 เดือนสำหรับอสังหาริมทรัพย์ที่กำหนดจ่ายค่าเช่าเป็นรายเดือน) หากผู้เช่าไม่ย้ายออก ผู้ให้เช่าสามารถใช้กระบวนการทางศาลเพื่อขับไล่ได้
การปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้องจะช่วยป้องกันข้อพิพาทและทำให้การเช่าสิ้นสุดลงอย่างราบรื่น
#สนุกกับกฎหมายวันละนิดชีวิตง่ายขึ้น
#ทนายน้อยหน่า
ภาพ: สถานที่คัดสำเนาทะเบียนราษฎร์เพื่อส่งหนังสือบอกเลิกสัญญาเช่าให้ผู้เช่าล่วงหน้า 1 เดือน สามารถขอคัดได้ที่สำนักงานเขตหรือสำนักงานเทศบาลทั่วประเทศ (ใช้ระบบออนไลน์)
โฆษณา