Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
jutama_story
•
ติดตาม
1 ก.พ. เวลา 14:45 • นิยาย เรื่องสั้น
กรุ่นกลิ่นดอกไม้ ตอนที่ 56 ดอกเทียนนกแก้วสื่อรัก :
“อุปกรณ์สำหรับเดินทางครบ” หญิงสาวพึมพำก่อนที่จะลุกเดินเข้าไปในห้องครัว
“จัดกระเป๋าเสร็จแล้วเหรอจ๊ะ พิม?” พิธพิมลที่มือกำลังจับมีดหั่นพริกขี้หนูถามบุตรสาว
“รองเท้าผ้าใบ กางเกงขายาว เสื้อกันหนาว ถุงนอน เต็นท์ ไฟฉาย ข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว ยารักษาโรค ข้าวปลาอาหารแห้ง ไม้ค้ำเดินของแม่พร้อมแล้วค่ะ ว่าแต่แม่เถอะค่ะ เตรียมร่างกายพร้อมที่จะเดินป่าหรือยังคะ?” หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า
“แม่พร้อมแล้วจ้ะ”
สองคนแม่ลูกออกกำลังกายเพื่อปรับร่างกายให้มีความพร้อมก่อนออกเดินทางไกลมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว
“แม่ทำอะไรให้พี่พิธกับคุณหมอนพกินบ้างค่ะมื้อค่ำนี้?”
“พะโล้โบราณ ผัดกะเพรากุ้ง ผัดผักรวมเมนูโปรดของลูก แล้วก็มีไข่ดาวด้วยจ้ะ”
“อ๋อ ค่ะแม่”
วันนี้สองคนแม่ลูกพากันออกจากบ้านตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อให้ทันขึ้นเครื่องไฟต์แรก และเดินทางต่อด้วยรถตู้โดยสารจนมาถึงโรงพยาบาลในตอนบ่าย ก่อนที่จะไปตลาดเพื่อซื้อวัตถุดิบมาปรุงอาหารสำหรับมื้อค่ำที่จะถึง
“อากาศเย็นดีจังเลยนะคะแม่”
“บนยอดดอยไม่รู้ว่าจะเย็นสักแค่ไหนกันนะ” หญิงวัยกลางคนตั้งคำถาม
“พิมเตรียมเสื้อตัวหนาสุดไว้ให้แล้วค่ะ แม่ไม่ต้องห่วง”
“ขอบใจจ้ะ พรุ่งนี้แม่คงไปอยู่รอลูกแค่ตรงจุดกางเต็นท์นั่นแหละ ให้เดินขึ้นไปบนยอดดอยด้วยคงไม่ไหว”
“ได้ค่ะแม่ ว่าแต่แม่อยู่คนเดียวได้แน่นะคะ?”
“ได้สิจ๊ะ”
“ได้ก็ได้ค่ะ”
สองคนแม่ลูกพากันมาช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน อากาศจึงค่อนข้างจะหนาวเย็น แต่เดิมพวกเธอตั้งใจว่าจะมากันเมื่อกลางเดือนตุลาคมที่ผ่าน ทว่า หญิงสาวมีงานด่วนเข้ามาให้ต้องดำเนินการ
……….
“เหนื่อยไหมคะแม่?”
พิมลหันมาถามหญิงวัยกลางคนที่กำลังก้าวขาเดินอย่างระมัดระวังด้วยกลัวว่าจะลื่นล้มลงไปกองอยู่กับพื้นเพราะทางที่เดินเริ่มจะลื่นและลาดชันมากขึ้นเรื่อย ๆ
“เริ่มเหนื่อยแล้วเหมือนกัน พิม”
เธอตอบเสียงสั่น ฟังไม่เป็นธรรมชาติ เพราะมีลมหายใจแทรก ด้วยต้องออกแรงเดินมากกว่าปกติ
“แม่ว่าเดี๋ยวถึงจุดพักแล้วแม่ขอนั่งพักก่อนดีกว่า ไม่อยากฝืนร่างกาย”
“เอาอย่างนั้นเหรอคะแม่? ไม่ไหวแล้วเหรอคะ?”
พิมลเดินเข้ามาหาแม่ของเธอแล้วจับมือให้กำลังใจ
“คุณหมอล่ะคะ ไหวไหมคะนั่น?” เธอร้องถามหมอนพรัตน์ที่กำลังตามหลังมาไม่ไกลสักเท่าไร ก่อนจะจูงมือหญิงวัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ แล้วพากันเดินลัดเลาะมาตามเส้นทางจนถึงลานกางเต็นท์ที่ไม่มีต้นไม้ใหญ่รกทึบ ทว่า โดยรอบจะเป็นทุ่งหญ้าที่สูงท่วมหัว มีพื้นที่โล่งเตียน และจุดที่พวกเขาพักกางเต็นท์มีเต็นท์ให้เห็นอยู่แค่สี่ห้าหลังเท่านั้น นั่นคงเป็นเพราะเจ้าหน้าที่ต้องการให้พื้นที่ทั้งหมดสมบูรณ์ให้ได้มากที่สุด
เมื่อพากันมาถึงลานกางเต็นท์ในช่วงบ่าย หนุ่มสาวสองคนตั้งใจจะขึ้นไปยังจุดชมวิวบนยอดดอย เพื่อชมพระอาทิตย์ตก ซึ่งจุดชมวิวมีระยะทางห่างออกไปไม่ไกลมากนัก
“แม่ไม่ไปด้วยนะ ขอหยุดพักก่อนแล้วกัน ไว้พรุ่งนี้เช้าค่อยไปดูพระอาทิตย์ขึ้นก่อนกลับ”
“เอาอย่างนั้นจริง ๆ เหรอคะแม่? แม่ไม่ไหวจริง ๆ เหรอคะ?”
“จ้ะ พิมไปกับคุณหมอเถอะ แม่ไม่ไหว ขอพักเก็บแรงก่อน”
“ค่ะแม่”
“เดินระวัง ๆ ด้วยนะลูก พิม…คุณหมอด้วยนะคะ”
“ครับคุณแม่”
หนุ่มสาวรับคำหญิงวัยกลางคนที่ตอนนี้หน้าตาดูซีดเซียวท่าทางเหมือนจะหมดเรี่ยวหมดแรง
……….
“เหนื่อยอยู่เหมือนกันนะคะคุณหมอ”
“ครับน้องพิม”
หนุ่มสาวพากันเดินมาได้สักพักก็เริ่มรู้สึกคอแห้ง น้ำเสียงเริ่มแหบหาย ด้วยเส้นทางที่มีความลาดชันต้องออกแรงทรงตัวประมาณหนึ่ง
“พิมว่าเราเดินช้า ๆ กันก่อนดีกว่าค่ะ”
“ครับน้องพิม”
หมอนพรัตน์รีบตอบรับด้วยรู้สึกว่าตนเองก็เริ่มจะหมดเรี่ยวแรง ถึงแม้นเมื่อคืนไม่ได้อยู่เวรจนดึกดื่น ทว่า เป็นเพราะพักหลัง ๆ มานี้เขาไม่ค่อยได้ออกกำลังกายสักเท่าไร
เมื่อเดินใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ พวกเขาก็ได้พบกับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติท่ามกลางเนินเขาสลับซับซ้อนสูงเสียดฟ้า ที่ปกคลุมไปด้วยพืชพรรณนานาชนิดดูแปลกตาเป็นอย่างมาก
“โอ้ว คุณหมอดูสิคะ นั่น!” หญิงสาวร้องเรียกหมอนพรัตน์ที่เดินอยู่ด้านหลังของเธอ
“ดอกเทียนนกแก้ว” เป็นครั้งแรกเช่นกันที่หมอหนุ่มได้เห็น
“ดอกเทียนนกแก้วสวยมากจริง ๆ ค่ะคุณหมอ”
“ครับน้องพิมสวยมากจริง ๆ ครับ”
หนุ่มสาวพากันชื่นชมดอกไม้ที่ชูช่อบานสะพรั่งอวดความสวยงามอยู่ตรงหน้า
“ต้นเล็กนิดเดียวเองนะคะ”
พิมลพูดถึงไม้พุ่มขนาดเล็ก ที่มีความสูงประมาณ 40 เซนติเมตร ลักษณะลำต้นอวบน้ำ ลักษณะใบเป็นใบเดี่ยว ปลายใบแหลม ขอบใบหยักเป็นหนามแหลม โคนใบมน ผิวใบเรียบ ดอกมีรูปร่างคล้ายนกแก้วที่กำลังกางปีกบิน แลดูสวยงามสะดุดตา เธอก้มหน้าลงไปสูดดมกลิ่นด้วยท่าทางตื่นเต้นดีใจ
“เก็บภาพไปฝากแม่ดีกว่า”
หญิงสาวพูดพร้อมกับกดชัดเตอร์
ด้วยตนเองเป็นสายธรรมชาติชอบปีนเขาเดินป่าชอบความท้าทายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การพิชิตดอยหลวงสักครั้งหนึ่งในชีวิตอยู่ในลิสต์ของเธอมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
“สวยจัง ตอนนี้เราอยู่บนยอดดอยที่มีความสูงเป็นอันดับสามของประเทศไทยนะคะคุณหมอ”
“ครับน้องพิม”
“คุณหมอดูสิคะ” หญิงสาวชี้ให้หมอนพรัตน์ดูแสงพระอาทิตย์ซึ่งสาดส่องอยู่บนยอดภูเขาที่ห่างออกไปไกลสุดลูกหูลูกตา
“สวยงามมากครับน้องพิม”
ทิวทัศน์ที่สวยงามบวกกับอากาศที่เย็นสดชื่น สร้างความประทับใจให้กับเธอและหมอนพรัตน์เป็นอย่างมาก
“ว้าว ธรรมชาติที่นี่น่าหลงใหลเอาเสียจริง”
หญิงสาวอุทานด้วยความตื่นตาตื่นใจกับการเดินป่าในครั้งนี้ สำหรับเธอ การได้สัมผัสกับอากาศดี ๆ ท่ามกลางธรรมชาติ ป่าเขาลำเนาไพร เป็นสิ่งรื่นรมย์ใจที่สุดอยู่แล้ว
“โอ้ว สวยงามมาก” สายลมกับแสงแดดจาง ๆ บรรยากาศยามเย็นบนยอดดอยทำให้หญิงสาวรู้สึกผ่อนคลายหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง
“คุณหมอดูโน่นสิคะ สวยมาก” เธอร้องบอกพร้อมกับชี้มือชี้ไม้ให้หมอนพรัตน์ดูแสงสีส้มอ่อน ๆ ที่กำลังจะลับขอบฟ้า
“สวยมากครับน้องพิม”
หมอนพรัตน์ยืนมองพระอาทิตย์ที่กำลังจะตกดินในอีกไม่นาน ในความคิดของหมอหนุ่ม นี่ไม่ใช่เป็นเพียงสัญญาณการสิ้นสุดของวัน ทว่า ยังเป็นแสงที่ช่วยทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้าในการเดินทางอีกด้วย
“เหนื่อยมากไหมคะคุณหมอ?”
เธอถามเมื่อสังเกตเห็นใบหน้าที่ซีดเซียวของหมอหนุ่ม
“นิดหน่อยครับน้องพิม”
วันนี้พวกเขาพากันมาถึงเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยหลวงตอน 8 โมงเช้าพอดีเป๊ะ หลังจากทำเรื่องลงทะเบียนขออนุญาตเดินป่า และจ่ายค่ามัดจำขยะ ค่าโดยสารรถยนต์แล้วจึงได้เริ่มออกเดินทาง โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง จึงมาถึงจุดเริ่มต้นในการเดินเท้า และใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 4 ชั่วโมง โดยมีระยะทางที่ต้องเดินเท้าประมาณ 6.5 กิโลเมตร เส้นทางมีความราบและชันสลับกัน ต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินเป็นอย่างมาก จึงทำให้ต้องใช้พลังงานมากสักหน่อยกว่าที่จะถึงจุดกางเต็นท์
และจากจุดกางเต็นท์มาถึงจุดชมวิวก็ต้องเดินต่อมาอีกประมาณ 30-40 นาที จึงจะถึงจุดสูงสุดของยอดดอย แม้นจะได้หยุดพักบ้าง ทว่า ก็ยังคงทำให้พวกเขารู้สึกเหนื่อยล้าอยู่พอสมควร
“เป็นเส้นทางเดินป่าที่แม้จะเหนื่อยหน่อยแต่ก็สนุกดีนะคะคุณหมอ”
“ครับน้องพิม เป็นประสบการณ์ที่ดีครับ”
หมอนพรัตน์ตอบรับด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ ตามสไตล์ของตนเอง ทว่า มีรอยยิ้มบนใบหน้าและสายตาที่มองหญิงสาวดูเป็นประกายแวววาว
หลังจากชมความสวยงามบนยอดดอยแล้วก็ได้เวลาเดินกลับมายังจุดกางเต็นท์ ซึ่งจะต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก เนื่องจากทางลงมีความลื่นและลาดชันอยู่พอประมาณ ทำให้หนุ่มสาวเหนื่อยล้ากันพอสมควร
……….
“เป็นไงบ้างคะแม่ หนาวมากไหม?” หญิงสาวถามแม่ของเธอที่ขณะนี้อยู่ในชุดกันหนาวที่หนาเป็นพิเศษ
“อากาศบนนี้หนาวมากจริง ๆ จ้ะพิม” หญิงวัยกลางคนพูดเสียงสั่น
ด้วยสภาพอากาศตอนกลางคืนที่ค่อนข้างจะหนาวเย็น ต่างกันกับในเวลากลางวันที่ยังคงมีแสงแดดรำไรให้ได้เห็นอยู่บ้าง จึงทำให้พิธพิมลไม่กล้าที่จะออกมาสัมผัสกับบรรยากาศด้านนอกของเต็นท์แม้แต่นิดเดียว
“ได้เวลาพักผ่อนแล้วค่ะแม่ นอนหลับพักผ่อนนะคะคุณหมอ พิมก็จะนอนแล้วค่ะ” พูดกับแม่ของเธอแล้วหญิงสาวก็ร้องบอกกับหมอนพรัตน์ที่อยู่ในเต็นท์ตรงข้าม ก่อนที่จะเอื้อมมือไปรูดซิปปิดเต็นท์เพื่อที่จะนอนหลับพักผ่อนเก็บแรงไว้ตื่นมาดูแสงแรกของวัน ที่เขาว่ากันว่าควรมาเห็นด้วยตาสักครั้งในชีวิต
“เป็นไงบ้างคะแม่ หลับสบายดีไหม?”
“แม่หลับสบายเลยล่ะพิม” พิธพิมลตอบบุตรสาวด้วยน้ำเสียงสดใส หลังจากที่ได้นอนหลับพักผ่อนจนเต็มอิ่ม
“คุณหมอล่ะคะ เป็นไงบ้าง นอนหลับสบายไหม?”
“สบายครับคุณแม่”
“พิมว่าเรารีบไปกันดีกว่าค่ะ” หญิงสาวชักชวนทั้งสองคนด้วยความกระตือรือร้น เพราะอยากเก็บภาพแสงแรกแห่งวันให้ได้มากที่สุด
“จ้ะ ไปจ้ะลูก ไปกันค่ะคุณหมอ”
“ครับคุณแม่”จุดชมวิวจะต้องเดินเท้าไกลพอสมควร จึงต้องออกเดินทางกันตั้งแต่เช้ามืด เพื่อให้ทันได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้น และทะเลหมอกที่ว่ากันว่าเป็นวิวที่สวยที่สุด หาดูจากที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว
“วู้ว”
เธอร้องเสียงหลงด้วยความตื่นตาตื่นใจเมื่อได้สัมผัสกับธรรมชาติในยามเช้าบนยอดดอยที่แวดล้อมไปด้วยพืชพรรณต่าง ๆ ดอกไม้สีสันสวยงามที่กำลังชูช่อแข่งกัน ทะเลหมอกหนาที่ปกคลุมอยู่บนยอดภูเขา
“ช่างควรค่าแก่การได้มาเห็นกับตาจริง ๆ”
เธอพึมพำกับตัวเองเมื่อได้มาเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ในความคิดของเธอ การได้มาสัมผัสด้วยตัวเองเป็นการรับรู้ที่แตกต่างกับภาพที่เห็นจากโซเชียลมีเดียหรือคำบอกเล่าจากหลาย ๆ ปากเป็นอย่างมาก
“ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติสินะ”
เธอพึมพำ ณ ขณะที่รู้สึกว่ากำลังถูกธรรมชาติโอบกอด…
👉🏻 ตามกันต่อในตอนที่ 57 นะคะ
แนวคิด
ชีวิต
หนังสือ
บันทึก
1
6
1
6
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย