2 ก.พ. เวลา 02:16 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

เปรียบเทียบหมัดต่อหมัด DeepSeek vs OpenAI

DeepSeek และ OpenAI เป็นสองบริษัทที่มีบทบาทสำคัญในวงการปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยแต่ละองค์กรมีแนวทาง วิสัยทัศน์ และรูปแบบการดำเนินงานที่แตกต่างกัน
บริษัท DeepSeek ก่อตั้งในปี 2023 โดยมีต้นกำเนิดจากประเทศจีน โดยเน้นพัฒนา AI แบบโอเพนซอร์สที่เข้าถึงได้สำหรับทุกคน ในขณะที่บริษัท OpenAI ก่อตั้งขึ้นในปี 2015 โดยกลุ่มผู้ร่วมก่อตั้งที่มีชื่อเสียง เช่น อีลอน มัสก์ และแซม อัลต์แมน โดยมีเป้าหมายพัฒนา AI อัจฉริยะทั่วไป (AGI) เพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติ
บริษัท DeepSeek ใช้โมเดลปัญญาประดิษฐ์ DeepSeek-R1 ในขณะที่ OpenAI ใช้โมเดลปัญญาประดิษฐ์ GPT-4 ซึ่งได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางมาก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม บริษัท DeepSeek ยืนยันว่าตนเองมีต้นทุนพัฒนาต่ำกว่า คือ ประมาณ 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 202 กว่าล้านบาท และเปิดให้ใช้งานแบบโอเพนซอร์สเต็มรูปแบบ
ส่วนบริษัท OpenAI มีต้นทุนการพัฒนาสูงถึงหลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเปิดให้เข้าถึงผ่าน API ภายใต้สิทธิ์ของบริษัท
บริษัท DeepSeek โดดเด่นในด้านการแปลภาษา การเขียนโค้ด และการคำนวณทางคณิตศาสตร์ โดยกลุ่มเป้าหมายหลักคือ นักพัฒนาโปรแกรม สตาร์ตอัป และนักวิจัย ในขณะที่บริษัท OpenAI มีจุดแข็งด้านการเขียนเชิงสร้างสรรค์ การแปล และการวางแผนแก้ปัญหา โดยเน้นกลุ่มเป้าหมาย วิสาหกิจและธุรกิจขนาดใหญ่
และสุดท้ายในด้านค่าบริการนั้น ปัญญาประดิษฐ์ของ DeepSeek ใช้บริการได้ฟรี ส่วนปัญญาประดิษฐ์ของ OpenAI มีทั้งแบบฟรีและเสียค่าสมาชิก 20-200 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน
การเปรียบเทียบว่า DeepSeek หรือ OpenAI ดีกว่านั้นขึ้นอยู่กับ วัตถุประสงค์ และ กลุ่มเป้าหมาย ของผู้ใช้งาน เช่น หากต้องการบริการที่ฟรี และโอเพนซอร์สเต็มรูปแบบ ผู้พัฒนาและนักวิจัยสามารถเข้าถึงและปรับแต่งโมเดลปัญญาประดิษฐ์ได้ คงต้องยกให้กับ DeepSeek
แต่หากต้องการโมเดลปัญญาประดิษฐ์ที่ทรงพลังและได้รับการพิสูจน์แล้ว โดดเด่นด้านการเขียนเชิงสร้างสรรค์ การแปลภาษา และการวิเคราะห์ข้อมูล คงต้องยกให้กับ OpenAI ในขณะนี้คงยังเร็วเกินไปที่จะด่วนสรุปว่าปัญญาประดิษฐ์ของบริษัทไหนดีกว่ากัน
รู้หรือไม่ ? ภายหลังการเปิดตัว Deepseek มีรายงานว่าบริษัท OpenAI ได้ทีมพิเศษเพื่อศึกษา Deepseek รวมไปถึงการทำงานต่าง ๆ
ที่มาของข้อมูล
ที่มาของรูปภาพ ​
Getty Images, Freepik, Unsplash
#Deepseek #AI #OpenAI #TNNTech #TNNTechreports
โฆษณา