2 ก.พ. เวลา 05:27 • ข่าวรอบโลก

หรือว่าเดนมาร์กจะเป็น “แจ็คผู้ฆ่ายักษ์”

ไพ่เด็ดที่ “เดนมาร์ก” จะใช้ตอบโต้ “ทรัมป์” ในประเด็นเรื่อง “กรีนแลนด์”
ประเด็นเรื่องทรัมป์ขู่เดนมาร์กว่าอยากจะได้ “เกาะกรีนแลนด์” มาเป็นของสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าทางใดทางหนึ่งถึงขั้นอาจใช้กำลังทหารบุกยึดมา ก็ยังเหลือเป็นกระแสข่าวอยู่ในตอนนี้ สืบเนื่องจากมาตรการกำแพงภาษีที่ทรัมป์ประกาศเริ่มใช้แล้วกับ แคนาดา เม็กซิโก
สื่ออย่าง Foreign Policy ได้เผยแพร่บทความน่าสนใจหัวข้อว่า “How Denmark Can Hit Back Against Trump on Greenland” หรือแปลเป็นไทยคือ “เดนมาร์กสามารถตอบโต้ทรัมป์เกี่ยวกับเรื่องกรีนแลนด์ได้อย่างไร” โดยคอลัมนิสต์ที่ชื่อว่า เอลิซาเบธ บรอ ทางเพจสรุปที่เธอเขียนไว้ในบทความดังนี้ [1]
1
ทรัมป์เคยพูดยั่วเดนมาร์กว่าจะซื้อกรีนแลนด์ตั้งแต่ที่เขาเป็นประธานาธิบดีสมัยแรกแล้ว นายกหญิงเดนมาร์กตอนนั้นก็คนเดียวกับตอนนี้ปฏิเสธหัวชนฝาว่า “เราไม่ขาย” ตอนนั้นเรื่องก็เงียบไป มาถึงสมัยสองของทรัมป์ คราวนี้เขาเล่นใหญ่ขู่ตั้งแต่ยังไม่เข้าสาบานตนแล้ว และดูยังไงก็จริงจังกว่าครั้งแรกมาก “ต้องเอาให้ได้ ใช้กำลังก็เอา”
1
มีการเกริ่นย้อนกลับไปเมื่อ 15 มกราคมที่ผ่านมา โดย FT เปิดเผยบทสรุปการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างทรัมป์และนายกเดนมาร์ก “เมตเต เฟรเดอริกเซน” ว่าเป็นไปอย่างดุเดือดนานถึง 45 นาที โดยทรัมป์ซึ่งยังไม่ได้เข้ารับตำแหน่งเลยตอนนั้น ได้แสดงท่าที “ก้าวร้าว” ต่อเธอ ประเด็นสำคัญคือการที่เฟรเดอริกเซนก็ยังปฏิเสธหัวชนฝาเหมือนเดิมว่า “ไม่ขาย”
2
ประเทศนอร์ดิกเล็กๆ แห่งนี้ (เดนมาร์ก) ซึ่งเป็นสมาชิกร่วมก่อตั้งนาโตด้วย มีประชากรเพียง 6 ล้านคน กำลังเผชิญกับความเป็นไปได้ที่พี่ใหญ่อย่างอเมริกาจะเข้ามายึดดินแดนโพ้นทะเลของเดนมาร์กด้วยกำลัง แม้ว่าเดนมาร์กจะมีขนาดกองทัพบกและกองทัพเรือเพียงติ๋วเดียว (มีกำลังทหารประจำการเพียง 20,000 นาย) เมื่อเทียบกับอเมริกา แต่เดนมาร์กก็มีอิทธิพลทางเศรษฐกิจมากมายที่สามารถใช้ตอบโต้กลับสหรัฐได้เมื่อจำเป็น มีอะไรบ้างมาดูกัน
1
เครดิตภาพ: EPA
  • เดนมาร์กเป็นที่ตั้งของ Maersk ซึ่งเป็นบริษัทขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกเมื่อพิจารณาจากกำลังการบรรทุกสินค้า สินค้าที่ไม่ใช่ของเหลวส่วนใหญ่ของโลกถูกขนส่งผ่านทางตู้คอนเทนเนอร์ และในปี 2023 บริษัทเดินเรือของเดนมาร์กได้ขนส่งสินค้าเหล่านี้มูลค่าประมาณ 24 ล้านตันด้วยเรือ 672 ลำ Maersk มีขนาดใหญ่มากจนเรือของบริษัทคิดเป็นประมาณ 14.3% ของกลุ่มเรือขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ทั่วโลก [2]
1
Maersk จัดส่งสินค้าไปและกลับจากท่าเรือหลายแห่งทั่วสหรัฐอเมริกา และขึ้นเทียบท่าเพื่อถ่ายโอนตู้คอนเทนเนอร์สำหรับส่งต่อไปยังอเมริกาใต้อีกด้วย ตอนนี้บริษัทเดินเรือต่างๆ ก็มีกำลังการใช้เรือเต็มหรือเกือบเต็มแล้ว หากบริษัทเดินเรือใดหยุดเดินเรือไปแบบกะทันหัน ย่อมหาเรือมาชดเชยได้ยากมาก หากรัฐบาลเดนมาร์กสั่งห้ามไม่ให้บริษัท Maersk เดินเรือมายังท่าเรือของสหรัฐอเมริกา ธุรกิจและผู้บริโภคในอเมริกาก็จะเจ็บปวดทันที
4
ตู้คอนเทนเนอร์ของ Maersk กำลังถูกขนถ่ายที่ท่าเรือฮูสตันของสหรัฐอเมริกา เครดิตภาพ: Jim Allen/FreightWaves
  • เดนมาร์กมีบริษัทยาชื่อ Novo Nordisk ยักษ์ใหญ่ด้านเภสัชกรรม เป็นผู้ผลิตเซมากลูไทด์ ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญใน Ozempic และ Wegovy ซึ่งเป็นยาลดน้ำหนักที่ปฏิวัติวงการต่อต้านโรคอ้วนและการรักษาโรคเบาหวานในสหรัฐอเมริกา บริษัทผลิตเซมากลูไทด์ในเดนมาร์ก และแม้ว่าจะมีการพยายามหลายครั้งจากผู้ลอกเลียนแบบและคนอื่นๆ แต่ก็ยังไม่สามารถผลิต Ozempic เทียบเท่าของแท้จากศูนย์ในสหรัฐอเมริกาได้
จากการศึกษาทางวิชาการพบว่าระหว่างปี 2021 ถึง 2023 จำนวนใบสั่งยา Ozempic ในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นเกือบ 400% จำนวนใบสั่งยาทั้งหมดสำหรับยาที่มีเซมากลูไทด์เพิ่มขึ้นถึง 2.6 ล้านใบในธันวาคม 2023 และในพฤษภาคมปีเดียวกันนั้นการสำรวจโดย Barclays Research ประมาณการว่ามีชาวอเมริกันมากกว่าครึ่งล้านคนรับประทาน Wegovy
4
เช่นเดียวกับ Maersk บริษัท Novo Nordisk ทำเงินได้มหาศาลในอเมริกา โดยหุ้นของบริษัทพุ่งสูงขึ้นมากกว่า 7% เมื่อเดือนที่แล้วจากข่าวการทดลองยาใหม่เพื่อลดน้ำหนักอย่าง Amycretin และได้ผลน่าพอใจ ทำให้ความต้องการ Ozempic นั้นสูงมากจนบริษัท Novo Nordisk ต้องลงทุน 4.1 พันล้านดอลลาร์ในโรงงานแห่งหนึ่งที่นอร์ทแคโรไลนา ซึ่งจะใช้ผลิตส่วนผสมหลักของยาตัวนี้
แต่หากรัฐบาลเดนมาร์กสรุปว่าความมั่นคงของประเทศตกอยู่ในอันตรายจากคำขู่ของทรัมป์ รัฐบาลเดนมาร์กอาจสั่งให้ Novo Nordisk หยุดทำธุรกิจในสหรัฐอเมริกา (ยอมเสียรายได้ส่วนหนึ่งเพื่อแลกกับอธิปไตยของประเทศ) ชาวอเมริกันจำนวนมากจะสังเกตเห็นการขาดหายไปของยาตัวนี้ในตลาดทันที ซึ่งอาจต้องสั่งนำเข้ายาตัวนี้ต่อจากที่อื่นแทน ทำให้ราคาตลาดถีบตัวสูงขึ้น
เครดิตภาพ: Finnomena
  • นอกเหนือจากนั้นหากเดนมาร์กตัดสินใจตอบโต้ ผู้บริโภคในสหรัฐฯ อาจสังเกตเห็นทันทีว่าไม่มีเฟอร์นิเจอร์หรูหราจากเดนมาร์ก และลูกๆ ของพวกเขาอาจเสียใจกับการไม่มีเลโก้รุ่นล่าสุดเล่น ปัจจุบันตัวต่อเลโก้ผลิตในเม็กซิโก (และเดนมาร์ก ฮังการี สาธารณรัฐเช็ก และจีน) แม้ว่าบริษัทของเล่นของยักษ์ใหญ่ของเดนมาร์กแห่งนี้จะสร้างโรงงานในเวอร์จิเนียซึ่งใช้สำหรับผลิตให้กับตลาดสหรัฐฯ ก็ตาม แต่ก็อาจส่งผลกระทบต่อการจ้างพนักงานมากกว่า 1,700 คน
โรงงานเลโก้ที่อเมริกาจริงแล้วทรัมป์เป็นคนเชิญชวนบริษัทของเล่นของเดนมาร์กนี้ให้มาตั้งโรงงานที่นี่เอง โดยโน้มน้าวให้สิทธิพิเศษด้านภาษีที่ต่ำกว่าการไปตั้งฐานการผลิตในประเทศอื่น แล้วทรัมป์จะตกม้าตายไม่สามารถพึ่งพาการลงทุนโรงงานของเล่นจากเดนมาร์กได้ หากเพื่อนที่เคยชวนเขามาลงทุนต้องถูกปฏิบัติเหมือนศัตรูโดยตัวเขาเอง
เครดิตภาพ: WAVY
เมื่อถึงคราวจำเป็นจริงๆ เชื่อว่าเฟรเดอริกเซนนายกเดนมาร์กก็อาจต้องสั่งบริษัทเหล่านี้ชะลอการทำธุรกิจในสหรัฐอเมริกา ถึงแม้ว่าในใจลึกๆ เธอจะไม่เต็มใจมากนักก็ตาม เพราะมันสูญเสียแหล่งรายได้ใหญ่ไปเหมือนกัน แต่เพื่ออธิปไตยของประเทศบางครั้งก็ต้องทำ เธอใช้ทางเลือกนี้ในการสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เพื่อหวังให้ทรัมป์เลิกตอแยเอากรีนแลนด์ เรื่องที่ทรัมป์มาวุ่นวายกับประเทศในยุโรปอย่างเดนมาร์กก็ถือว่ามีวาระแอบแฝงอยู่
1
  • ยุโรปกลายเป็นเหยื่อของแนวคิดที่อเมริกาเป็นศูนย์กลาง (เสริมเพิ่มเติม ไม่ได้อยู่ในบทความต้นเรื่อง)
การที่ทรัมป์ตั้งกำแพงภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโก 25% และการเตรียมการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหภาพยุโรปในลักษณะเดียวกันนั้นเป็นไปได้เนื่องจากผู้เล่นเหล่านี้ทั้งหมดต้องพึ่งพาวอชิงตันทั้งในด้านการทหาร การเมือง และเศรษฐกิจ
2
อย่างไรก็ตามมีความสงสัยอย่างมากเกี่ยวกับประสิทธิภาพของนโยบายภาษีนำเข้าของรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดใหม่ของทรัมป์ 2.0 แต่แนวทางของทรัมป์นั้นชัดเจนอย่างยิ่ง
หากต้องการให้ยุโรปกลายเป็นผู้เล่นระดับโลก ก็มีแนวคิดอยู่ว่าประเทศต่างๆ ของยุโรปควรชิงลงมือออกจากนาโตเสียก่อน ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานาโตเป็นกลไกอย่างเป็นทางการสำหรับการปกครองโลกเก่าของอเมริกา
ในช่วงสามปีที่ผ่านมาภายใต้การบริหารของไบเดน อเมริกาได้ทำให้ความสัมพันธ์กับรัสเซียร้าวฉานขึ้นอย่างรวดเร็วและบังคับให้ยุโรปทำสงครามกับรัสเซียผ่านยูเครน ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์ของพันธมิตรในนาโตและบทบาทผู้นำในพันธมิตรแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น ไม่มีอะไรจะสามัคคีได้เท่ากับการมีศัตรูร่วมกัน
1
ในเวลาเดียวกันอเมริกาก็ได้เข้ามาแข่งขันแย่งชิงส่วนแบ่งทรัพยากรธรรมชาติจากรัสเซียไปจากสหภาพยุโรป (ที่เห็นได้ชัดก็คือก๊าซธรรมชาติ) ทำให้ยุโรปต้องพึ่งพาสหรัฐอเมริกามากขึ้นในปัจจุบัน สหภาพยุโรปสามารถพึ่งพาทรัพยากรของรัสเซียได้ก็ต่อเมื่อความพ่ายแพ้ทางยุทธศาสตร์เกิดขึ้นกับรัสเซียเท่านั้น ซึ่งยิ่งส่งเสริมให้ยุโรปโดดเข้าร่วมในความขัดแย้งในยูเครน
2
เครดิตภาพ: Global Compliance News
ในขณะเดียวกันเป็นที่ชัดเจนว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ชุดใหม่ของทรัมป์ 2.0 ไม่ได้มองว่ายุโรปเป็นอิสระทางยุทธศาสตร์ ไม่ว่าจะร่วมกันหรือแยกจากกัน แม้แต่โครงสร้างโลกาภิวัตน์ของบรัสเซลส์ที่มีการขัดเกลาขึ้นเพื่อควบคุมอิทธิพลของโลกเก่า ตอนนี้ก็กำลังขัดขวางอยู่
มีความคิดที่น่าสนใจว่า สหภาพยุโรปซึ่งได้รับทรัพยากรธรรมชาติจากแคนาดาด้วยเช่นกัน อาจยังคงพยายามกระตุ้นแนวคิดทางการเมือง ดังนั้นเป็นไปได้ที่เจตนาของทรัมป์ที่จะรวมแคนาดาเข้ากับสหรัฐฯ เป็นรัฐที่ 51 ถูกกำหนดโดยความจำเป็นในการถ่วงดุลอำนาจ
1
  • เชิงอรรถ:
<เครดิตภาพปก: occupydemocrats>
โฆษณา