วิเคราะห์ การตลาดของ Oh! Juice ให้คนกลับมา ซื้อซ้ำได้เรื่อย ๆ
-Oh! Juice แบรนด์ร้านเครื่องดื่มสมูททีจาก เครือโอ้กะจู๋ ที่เปิดตัวมาไม่ถึงปี แต่ตอนนี้มีมากกว่า 15 สาขาแล้ว
ที่น่าสนใจคือหลังจากเปิดตัวแบรนด์ Oh! Juice ก็ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว
- 8 มีนาคม ที่จะถึงนี้ คุณอู๋-ชลากร เอกชัยพัฒนกุล เจ้าของแบรนด์ Oh! Juice และโอ้กะจู๋ จะมาเล่าเรื่องราว และกลยุทธ์ธุรกิจให้ฟังในงาน “The Entrepreneur Forum 2025” อิเวนต์สำหรับคนอยากเริ่มธุรกิจของตัวเอง หาไอเดียธุรกิจ ต่อยอดธุรกิจ
จองบัตรได้แล้วตอนนี้ ที่ลิงก์นี้ (บัตรมีจำนวนจำกัด) https://www.zipeventapp.com/e/The-Entrepreneur-Forum-2025
-ส่วนหนึ่งที่ทำให้ Oh! Juice ติดตลาดอย่างรวดเร็ว และยังคงได้รับความนิยมมาถึงตอนนี้ ก็คือกลยุทธ์ทางการตลาดที่ดึงให้กลับมาซื้อได้ซ้ำ ๆ แบบกระแสไม่ตกด้วย
แล้ว Oh! Juice มีกลยุทธ์อย่างไร
BrandCase พาทุกคนมาลองวิเคราะห์กัน
1. ระบบสมาชิก ที่ดึงให้เรากลับไปซื้ออีก
แน่นอนว่าตอนเปิดตัวใหม่ ๆ ใคร ๆ ก็อยากพากันไปลองว่ารสชาติของสมูททีแบรนด์ Oh! Juice จะเป็นอย่างไร แต่ที่น่าสนใจคือ เมื่อเราไปซื้อที่ร้านครั้งแรก สิ่งที่ทางพนักงานจะพูดกับเราคือ ชักชวนให้มาสมัครสมาชิกกับทางร้าน
โดยจะได้คูปองส่วนลด 50% สำหรับการซื้อเครื่องดื่มในครั้งถัดไป (ปัจจุบันอัปเดตเป็น 20%)
ซึ่งกลยุทธ์นี้ก็ค่อนข้างได้ผลดี
เพราะคนส่วนใหญ่ที่สมัครสมาชิก ก็จะพากันกลับไปซื้อ Oh! Juice เป็นครั้งที่สอง
นอกจากเรื่องของการให้ส่วนลดในแก้วที่สองแล้ว
ระบบสมาชิกยังมีการสะสมแต้มต่าง ๆ ซึ่งแต้มเหล่านี้ก็สามารถนำไปแลกเครื่องดื่มฟรี แลกโปรโมชันพิเศษประจำเดือนได้
หรือจะเป็นการสะสมแต้มให้ครบ 50 แต้ม เพื่อรับสิทธิ์รับเครื่องดื่มฟรี 1 แก้ว ในเดือนเกิดของตัวเองเพียงโชว์บัตรประชาชน
2. จับมือดาราดัง ออกเมนูใหม่
นอกจากเมนูสมูททีปกติที่ราคา แก้วละ 85 - 125 บาท ทางร้านก็จะมีเมนูพิเศษด้วย
อย่างเช่นเมนู
- Ocean N Earth ที่เป็นเมนูสีฟ้า มีอะโวคาโดรองด้านล่างเหมือนหญ้าสีเขียว ราคา 270 บาท ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งเมนูขายดีของร้าน
แต่ที่น่าสนใจคือ หลังจากผ่านมาได้ไม่กี่เดือน ทาง Oh! Juice
ก็ได้จับมือกับคุณชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต ดารานักแสดงชื่อดัง
มาร่วมคิดเมนูพิเศษใหม่ประจำร้าน นั่นก็คือ Material Girl Smoothie ที่มีส่วนผสมหลักเป็นเชอร์รี
ซึ่งพอมีเมนูนี้ คนที่เป็นแฟนคลับของคุณชมพู่ อารยาก็ต่างพากันมาลอง รวมถึงคนที่ชื่นชอบเมนูที่พิเศษของทางร้านก็เปลี่ยนมาลองเมนูนี้แทน
ที่น่าสนใจคือการเลือกคนที่จะมาคิดเมนูของ Oh! Juice อย่างคุณชมพู่ อารยา
ที่มีภาพลักษณ์ของคนที่รักสุขภาพ เข้ายิม ออกกำลังกายอยู่บ่อย ๆ มีจุดเด่นในเรื่องการดูแลตัวเองอยู่แล้ว ทำให้ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีในเรื่องของสุขภาพ และยังดึงกลุ่มคนที่รักสุขภาพให้รู้จักแบรนด์มากขึ้นด้วย
3. เมนูใหม่ ๆ เข้าถึงคนได้รวดเร็ว
ข้อดีของ Oh! Juice เมื่อเทียบกับร้านอาหารโอ้กะจู๋คือ หาสาขาได้ง่ายกว่า เข้าถึงโซนที่มีคนหนาแน่นได้ง่ายกว่า โดยเฉพาะในกลุ่มคนออฟฟิศ
ซึ่งถ้าใครสังเกตหน้าร้านของ Oh! Juice จะเห็นว่าจริง ๆ แล้วทางร้านไม่ได้ขายแค่สมูททีอย่างเดียว แต่ยังนำสินค้า Take Away ที่สามารถซื้อกลับบ้านได้ง่าย ๆ มาวางขายที่หน้าร้านด้วย อย่างเช่น ขนมปัง
ซึ่งตรงนี้ก็เป็นอีกหนึ่งข้อดีที่ช่วยมาเสริม Ecosystem ของโอ้กะจู๋เอง
เช่น หากแบรนด์บริษัทคิดค้นเมนูใหม่ที่เป็นแบบพร้อมทานง่าย ๆ ก็สามารถนำมาวางขายที่หน้าร้าน Oh! Juice ได้เลย
อย่างล่าสุด ทางแบรนด์ก็ได้เปิดขาย Premium Irish Gold Sea Moss ซูเปอร์ฟูดที่แปรรูปมาจากสาหร่ายทะเล อาหารเสริมที่กำลังเป็นที่นิยมในตอนนี้
ทาง Oh! Juice ก็นำซูเปอร์ฟูดตัวนี้มาวางขายที่หน้าร้านอย่างรวดเร็ว
ซึ่งกลยุทธ์นี้ก็ยังช่วยดึงคนที่ไม่เคยทานเมนูสมูททีของ Oh! Juice แต่มาลองเมนู Sea Moss ตัวใหม่ที่สาขาได้ด้วย
ทั้งหมดนี้ก็คือกลยุทธ์ที่น่าสนใจของ Oh! Juice ที่ดึงให้คนกลับมาซื้อได้เรื่อย ๆ
ซึ่งจริง ๆ Oh! Juice ยังมีกลยุทธ์น่าสนใจอีกเยอะมาก
- 8 มีนาคม ที่จะถึงนี้ คุณอู๋-ชลากร เอกชัยพัฒนกุล เจ้าของแบรนด์ Oh! Juice และโอ้กะจู๋ จะมาเล่าเรื่องราว และกลยุทธ์ธุรกิจให้ฟังในงาน ”The Entrepreneur Forum 2025“ อิเวนต์สำหรับคนอยากเริ่มธุรกิจของตัวเอง หาไอเดียธุรกิจ ต่อยอดธุรกิจ
จองบัตรได้แล้วตอนนี้ ที่ลิงก์นี้ (บัตรมีจำนวนจำกัด) https://www.zipeventapp.com/e/The-Entrepreneur-Forum-2025
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
