บททดสอบของอัจฉริยะแห่งยุคสมัย
ถ้าพูดถึงแมนซิตี้ในยุคนี้ทุกคนคงคิดถึงทีมที่แข็งแกร่งโดยการันตีด้วยการได้แชมป์พรีเมียร์ลีค 6 สมัยในรอบ 7 ปี แถมยังมีนักเตะที่พึ่งได้รางวัลบัลลงดอร์อย่างโรดรี้ แต่ในฤดูกาลนี้แมนซิตี้ที่เราคุ้นเคยได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงด้วยสถิติ 24 นัด ชนะ 12 เสมอ 5 และแพ้ถึง 7 นัด อยู่อันดับ 4 ของตาราง
โดยนัดล่าสุดในคืนที่ผ่านมาโดนอาร์เซนอลถล่มถึง 5-1 จากทีมที่ครองแชมป์จนเรียกว่าจะแถบผูกขาดกลายเป็นทีมที่ตอนนี้ต้องสู้เพื่อชิงตำแหน่งไปเล่นในแชมป์เปี้ยนลีคเรามาลองวิเคราะห์กันว่าเกิดอะไรขึ้นในฤดูกาลนี้
การซื้อขายก่อนเปิดฤดูกาล - ฤดูกาลนี้แมนซิตี้เสียตัวหลักไป 1 รายคือ ยูเลี่ยน อัลวาเรซ และได้มีการซื้อซาวินโญ่เข้ามารวมถึงได้ กุนโดกัน กลับคืนมาภาพรวมยังคงเป็นทีมที่แข็งแกร่งเนื่องจากแกนหลักยังอยู่ครบซึ่งในตอนแรกแฟนๆแมนซิตี้ก็คงไม่รู้สึกว่าทีมจะมีปัญหาอะไร
การบาดเจ็บของแกนหลักที่ทดแทนไม่ได้ - ทุกคนรุ้กันดีว่าโรดรี้เป็นนักเตะที่สำคัญกับเป๊ปมากที่สุดซึ่งการเสียโรดรี้จากอาการบาดเจ็บตั้งแต่นัดที่ 2 นับเป็นความเสียหายที่ใหญ่มากแต่แมนซิตี้ยังคงเดินหน้าชนะอย่างต่อเนื่องจนกระทั่ง เดอ บรอย ได้รับบาดเจ็บอีกคนก่อนนัดสำคัญอย่างการเจอกับอาเซน่อลทำให้เริ่มสะดุดเป็นนัดแรกเนื่องจากแกนหลักในตำแหน่งกองกลางหายไปถึง 2 คน
เท่านั้นยังไม่พอ รูเบน ดิอาส ปราการหลังตัวหลักยังได้รับบาดเจ็บไปอีกคนจนทำให้แมนซิตี้แพ้เป็นนัดแรกของฤดูกาล
Rodri บาดเจ็บ ACL ตั้งแต่ต้นฤดูกาล
ผลกระทบจากการขาดผู้เล่นหัวใจสำคัญถึง 3 คน - ทั้ง 3 คนที่่บาดเจ็บต้องเรียกได้ว่าไม่สามารถมีคนทดแทนได้จริงๆ โรดรี้ เป็นทั้งตัวคุมเกม,ตัดเกม,สอดเข้ามาทำประตู ซึ่งเป๊ปให้ความสำคัญกับตำแหน่งนี้ที่สุดไม่ว่าจะเป็นตอนที่คุมบาเซโลน่าหรือบาเยิร์น
เดอ บรอย ก็เป็นเพลย์เมกเกอร์ของทีมซึ่งแถบจะเป็นคนเดียวในทีมที่เล่นโดยการแทงบอลแนวลึกให้กับ ฮาแลนด์ ทำให้เมื่อขาดไปการเข้าทำของแมนซิตี้ก็ขาดความหลากหลายและขาดจังหวะทีเด็ดในการยิงไกลเพิ่มเข้าไปอีก
รูเบน ดิอาส เป็นหัวใจในเกมรับของแมนซิตี้มาตลอดตั้งแต่เป๊ปทำการซื้อเข้ามาในฤดูกาล 2020/21 ตั้งแต่ที่นักเตะ 3 คนนี้เจ็บพร้อมกันแมนซิตี้ชนะเพียงแค่ 2 นัดจาก 12 นัด ตั้งแต่เดือนพศจิกายน-กลางมกราคม ยังไม่นับนักเตะคนอื่นๆที่เจ็บหรือไม่ฟิตอีกด้วย
การแก้ไขปัญหาในตลาดหน้าหนาว - จากผลงานที่ถือว่าน่าผิดหวังอย่างมากรวมถึงมีตัวเจ็บเต็มไปหมดแมนซิตี้จึงได้ลงมาดำเนินการในตลาดหน้าหนาวที่ผ่านมาโดยได้มีการซื้อ โอมาร์ มาร์มูช รองดาวซัลโวจากบุนเดสลีก้าในราคา 75 ล้านยูโร เพื่อมาชดเชยในตำแหน่งของ อัลวาเรซ และ คูซานอฟ 40 ล้านยูโร เพื่อมาเสริมความแข็งแกร่งในแนวรับ
Omar Marmoush แนวรุกตัวใหม่ของแมนซิตี้
แต่ปัญหาที่สำคัญที่สุดอย่างตัวคุมเกมกลับไม่มีการดำเนินการซื้อเข้ามาและผลงานของทั้ง 2 นักเตะใหม่ใน 2 นัดของพรีเมียร์ลีคถือว่ายังไม่โดดเด่นนักโดย มาร์มูซ ลง 2 นัดยังไม่มีประตูและแอสซิสต์และสำหรับ คูซานอฟ ต้องเรียกว่าเป็นฝันร้ายเลยเมื่อทำเสียประตูในนัดแรกที่ลงสนามและต้องเป็นสำรองในนัดถัดมา
ซีซั่นนี้แค่ประคองซีซั่นหน้าว่ากันใหม่ - จากการเสริมทีมในตลาดหน้าหนาวซีซั่นนี้ความคาดหวังสูงสุดของทีมคงทำได้แค่ต่อสุ้เพื่อเอาโควต้าไปเล่นแชมป์เปี้ยนลีคในฤดูกาลหน้าเนื่องจากตัวที่ซื้อเข้ามาไม่ใช่ตัวที่จะสามารถแก้ปัญหาได้ในทันทีแต่เป็นการซื้อเพื่ออนาคต
แถมในตำแหน่งที่สำคัญที่สุดอย่างกองกลางก็ยังไม่ได้ซื้อใครอีกด้วยไม่ว่าจะเพราะไม่มีตัวที่ถูกสเป็คหรือการซื้อในตลาดหน้าหนาวก็ไม่ใช่ว่าจะซื้อได้ง่ายๆ การซื้อแบบ panic buy ยิ่งไม่เหมาะเพราะเป็นตำแหน่งที่สำคัญมาก
การแย่งพื้นที่ UCL ในฤดูกาลนี้คือเป้าหมายของทีม
สำหรับฤดูกาลนี้แฟนแมนซิตี้ก็คงได้แต่คาดหวังว่าเป๊ปจะหาวิธีแก้ไขสถานการณ์เกมของทีมโดยเฉพาะในแนวรับที่เสียประตูง่ายมากและทำให้ปิดเกมไม่ได้ในหลายๆนัดทั้งๆที่นำก่อนสำหรับเกมบุกยังคงพอเบาใจได้บ้างอย่างน้อยก็ยังทำประตูได้แถบทุกนัด
โดย เฮอร์เซเลอร์ โค้ชหนุ่มของไบรท์ตันก็ได้พูดถึงสถานการณ์นี้ไว้เหมือนกันว่าเขากำลังจับตามองอยู่ว่ายอดโค้ชอย่างเป๊ปจะแก้ไขสถานการณ์อันยากลำบากนี้ยังไง
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
