5 ก.พ. เวลา 14:00 • ข่าวรอบโลก
สหรัฐอเมริกา

รูบิโอ ขึ้นชกครั้งแรก ชนะน็อก เมื่อปานามาประกาศถอนตัวจากโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง

คลองปานามาถูกสร้างขึ้นโดยสหรัฐฯ เป็นมุกที่ต้องแลกมาด้วยชีวิตของแรงงานหลายพันคน ส่วนใหญ่เป็นชนเชื้อสายแอฟริกา
ที่มาจากบาร์บาดอส จาไมกา และที่อื่นๆ ในแถบแคริบเบียน
1
จึงทำให้สหรัฐฯ ยังคงไว้ซึ่งการควบคุมคลองปานามา ซึ่งดูจากครั้งที่เปิดทำการในปี 2457 ที่พวกเขาเริ่มเจรจาต่อรอง
หลังจากนั้นเกิดเหตุจลาจลนองเลือดในปี 2507 โดยผู้ประท้วงชาวปานามา ที่โกรธเคืองกรณีที่ปล่อยให้ต่างชาติควบคุมคลองแห่งนี้
1
จิมมี คาร์เตอร์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ณ ขณะนั้น ตกลงมอบคลองแห่งนี้แก่ปานามาในช่วงปลายปี 2542 โดยอดีตประธานาธิบดีผู้ล่วงลับรายนี้มองว่า
เป็นสิ่งจำเป็นทางศีลธรรมที่อเมริกาต้องเคารพต่อประเทศที่เล็กกว่าแต่มีอธิปไตยแห่งนี้
2
แต่สำหรับ ทรัมป์ เขามีมุมมองที่ต่างออกไป
และหันมาใช้แนวทางคุกคามโดย "ไม้กระหน่ำ หรือ อุดมการณ์ไม้ใหญ่ (Big Stick)" (การใช้ความเข้มแข็งหรือการข่มขู่ในการจัดการกับสถานการณ์ทางการเมืองหรือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ) แบบเดียวกับในช่วงต้นศตวรรษที่ 20
ซึ่งสหรัฐฯ มักขู่ใช้กำลังในการเปิดทางดำเนินการต่างๆ โดยเฉพาะในละตินอเมริกา
การวาดเส้นแบ่งเขตชัดเจนแบบนี้(กับจีน) จนประธานาธิบดีปานามาประกาศว่าจะถอนตัวจากโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง(One Belt One Road)ในทันที
เมื่อ มาร์โก รูบิโอ (Rubio) รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้จัดการประชุมสองชั่วโมงกับประธานาธิบดีปานามา โฆเซ่ ราอูล มูลิโน (Murino) เมื่อเช้าวันที่ 2
มันทำให้ มูลิโนตัดสินใจในทันที ในการเปลี่ยนแปลงนโยบายสำคัญ รวมถึงการประกาศไม่ต่ออายุและขอถอนตัวจาก “โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ของพี่จีน
มาร์โก รูบิโอออกเดินทางต่างประเทศครั้งแรกนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งโดยแวะพักที่ปานามาเป็นแห่งแรก
การเดินทางของรูบิโอได้รับความสนใจอย่างมากเนื่องมาจากประธานาธิบดีทรัมป์ขู่ที่จะยึดคลองปานามาคืน
ด้วย...ปานามา ที่เป็นประเทศละตินอเมริกาประเทศแรกที่เข้าร่วมในการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง"
อดีตประธานาธิบดีฮวน คาร์ลอส วาเรลา ประกาศเมื่อเดือนมิถุนายน 2560 ว่าเขาจะตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวันและสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีน ในเดือนพฤศจิกายนของปีเดียวกัน
และในปีที่ผ่านมา เขาได้ออกเดินทางเยือนปักกิ่งและลงนามข้อตกลง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”
ภายใต้เงื่อนไขของบันทึกข้อตกลง โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางสามารถต่ออายุอัตโนมัติเป็นระยะเวลาอีกสามปีทุกๆ สามปี
เว้นแต่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะยุติสัญญา
1
กล่าวคือ ขณะนี้ โครงการ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ของจีนและปานามาได้รับการต่ออายุ(อีก)สองครั้งในปี 2563 และ 2566
อย่างไรก็ตาม Murino ยังไม่ได้ระบุว่าเขาจะแจ้งให้รัฐบาลจีนทราบเกี่ยวกับการตัดสินใจยกเลิกสัญญาและถอนตัวจากโครงการ Belt and Road เมื่อใด
แน่นอนว่า การเจรจาระหว่าง Rubio กับ Murino เน้นไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและปานามาและผลกระทบที่มีต่อสหรัฐอเมริกา
หลังการเจรจา รูบิโอออกแถลงการณ์ที่แข็งกร้าวเกี่ยวกับข้อพิพาทเรื่องการควบคุมท่าเรือคลองปานามาของจีน โดยกล่าวว่า
“สถานะปัจจุบันนี้เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ หากไม่เปลี่ยนแปลงในทันที สหรัฐฯ จะต้องดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องสิทธิของตน”
https://apnews.com/article/panama-rubio-trump-canal-mulino-illegal-immigration-f159e218e66812bc0e462d8fb8bb5b5f
นอกจากนี้ รูบิโอ ยังกล่าวอีกว่า “สหรัฐฯ ชี้ชัดแล้วว่าไม่สามารถและจะไม่อนุญาตให้จีนเสริมความแข็งแกร่งในการควบคุมพื้นที่คลองปานามาอีกต่อไป”
1
มูริโน เน้นย้ำว่าเพื่อชี้แจงข้อกล่าวหาของประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐฯ ที่ว่า รัฐบาลจีนมีอิทธิพลต่อคลองปานามา
โดยจีนกำลังพิจารณาปล่อยให้ทีมงานด้านเทคนิคของคลองปานามาเจรจาโดยตรงกับสหรัฐฯ
นอกจากนี้ เขายังกำลังรอผลการสอบสวนของกรมตรวจสอบบัญชีของรัฐบาลปานามาเกี่ยวกับบริษัทท่าเรือปานามา (Panama Ports Corporation (PPC)) ซึ่งเป็นบริษัทจีนที่มีการสมคบคิดระหว่างเจ้าหน้าที่และนักธุรกิจ
และการดำเนินงานแบบแฟรนไชส์ในท่าเรือ(คลอง)อีกสองแห่งอีกด้วย
1
ในระหว่างการเจรจา Murino ยังเน้นย้ำด้วยว่าเขาจะทำงาน "อย่างจริงใจ" ต่อไปกับสหรัฐฯ เพื่อชี้แจงประเด็นที่ยังคงค้างอยู่
1
ขณะเดียวกันก็ส่งเสริมความสำคัญของการลงทุนของสหรัฐฯ ในปานามา เนื่องจากปานามาเป็นศูนย์กลางธุรกิจที่สำคัญในละตินอเมริกา
และก่อนที่ รูบิโอจะเยือนปานามา มูริโนได้ย้ำว่าอำนาจอธิปไตยเหนือคลองเป็นของปานามา
1
แต่เขายังได้กล่าวต่อสาธารณะด้วยว่าข้อสงสัยในปัจจุบันของรัฐบาลทรัมป์เกี่ยวกับอิทธิพลของจีนที่มีต่อคลองปานามา ล้วนเกิดจากการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีน
ซึ่งเกี่ยวข้องกับเงินจำนวนหลายล้านดอลลาร์ที่ไม่ทราบที่มา
และอดีตประธานาธิบดีวาเรลา ก็กล่าวหาว่ากระบวนการเจรจา(ของเขา)นั้นไม่โปร่งใส
โฆษณา