We finally know how life on Earth started, staggering new asteroid discovery suggests
ในที่สุดเราก็รู้ว่าชีวิตบนโลกเริ่มต้นอย่างไร การค้นพบที่ดาวเคราะห์น้อยดวงใหม่ที่น่าตกใจ
'น้ำซุปรสเค็ม' อาจไขความลับของชีวิตทั้งบนโลกและบนดาวเคราะห์ดวงอื่นที่อยู่ห่างไกล
หินอวกาศชิ้นเล็กๆ เผยให้เห็นว่า สิ่งมีชีวิตบนโลกอาจมาจากดาวเคราะห์น้อย และบอกเป็นนัยว่า สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่นอกโลกเราออกไปนั้น อยู่ใกล้กว่าที่เราคิดไว้มาก
เมื่อห้าปีที่แล้ว ภารกิจอันกล้าหาญของ องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐ หรือ องค์การนาซา NASA ยานสำรวจดาวเคราะห์น้อย ที่รู้จักกันในชื่อ ยานสำรวจ โอไซริส เร็กซ์ OSIRIS-REx ได้ลงจอดบนดาวเคราะห์น้อย เบนนู Bennu ซึ่งเบนนูเป็นดาวเคราะห์น้อยที่มีวงโคจรที่เกือบจะชนกับโลก และยานสำรวจ โอไซริส เร็กซ์ ได้เก็บตัวอย่างเล็กๆ ไว้ระหว่างที่ลงจอด และในช่วงปลายปี 2023 แคปซูลเล็กๆ ที่บรรจุตัวอย่างจากดาวเคราะห์น้อย โดยตัวอย่างหินมีน้ำหนัก 120 กรัม ได้ลงจอดที่ทะเลทราย ในรัฐยูทาห์ ประเทศสหรัฐอเมริกา
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทั่วทั้งโลกก็ต่างรอคอย ที่จะได้ยินว่า แคปซูลของยานสำรวจดาวเคราะห์บรรจุอะไรอยู่ ปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์ได้ยืนยันว่า ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ ไม่เพียงแต่ประกอบด้วยสารอินทรีย์เท่านั้น แต่ยังมีส่วนผสมทั้งหมดที่ประกอบเป็นดีเอ็นเออีกด้วย
เบนนู เป็นดาวเคราะห์น้อย ที่โคจรรอบดวงอาทิตย์ในวงโคจรใกล้โลก ดาวเคราะห์น้อยถือได้ว่า เป็นชิ้นส่วนโบราณของระบบสุริยะของเรา ดาวเคราะห์น้อยนี้ได้ก่อตัวมาจากการรวมตัวของก้อนหินขนาดน้อยใหญ่ ตั้งแต่โลกเรากำเนิดขึ้นมาใหม่ๆ เมื่อประมาณ 4.5 พันล้านปีก่อน
แม็คคอย Tim McCoy ภัณฑารักษ์ เชี่ยวชาญด้านอุกกาบาต ที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติแห่งชาติ สมิธโซเนียน ประเทศสหรัฐอเมริกา และอยู่ในคณะผู้วิจัยในงานวิจัยใหม่ กล่าวว่า “ตอนนี้เรารู้จาก ดาวเคราะห์น้อย เบนนู ว่า ส่วนผสมที่มาเป็นสร้างเป็นสิ่งมีชีวิต มีการรวมกันอยู่ในรูปแบบที่น่าสนใจ และซับซ้อน อยู่ที่ดาวเคราะห์น้อย เบนนู ”
“เราได้ค้นพบวิถีทาง ของการเกิดเป็นสิ่งชีวิตขึ้นบนโลก”
การค้นพบครั้งสำคัญนี้ชี้ให้เห็นว่า สิ่งมีชีวิตก่อตัวบนโลก หลังจากการพุ่งชนของดาวเคราะห์น้อย แต่ก็เป็นสัญญาณบอกว่า ที่ไหนสักแห่งในจักรวาล หลังจากเกิดการชนของดาวเคราะห์น้อย เบนนู หรือหลังจากเกิดการชนของดาวเคราะห์น้อยอื่นๆ ชีวิตมีทุกสิ่งที่ต้องการ เพื่อที่จะเริ่มต้นการเกิดสิ่งมีชีวิตขึ้นบนโลก
ส่วนประกอบจาก ดาวเคราะห์น้อย เบนนู สามารถช่วยให้เกิดสิ่งมีชีวิตขึ้นมาได้อย่างไร
การค้นพบที่สำคัญที่สุดที่นักวิทยาศาสตร์พบคือ ดาวเคราะห์น้อย เบนนู จะมี 'น้ำซุปรสเค็ม' ที่ทำให้แร่ธาตุ และเกลือมาผสมกัน การผสมผสานนี้เอง ที่พัฒนาไปสู่โครงสร้างที่ซับซ้อน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของชีวิต
นักวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า น้ำเกลือจากนอกโลกเช่นนี้ อาจเป็นแหล่งกำเนิดสำคัญของสารประกอบอินทรีย์ทั่วทั้งจักรวาล รวมถึงที่โลกเราด้วย นอกเหนือจากการมีน้ำอยู่ น้ำเกลือเหล่านี้ ยังสามารถจุดประกายให้กับกระบวนการที่เรียกว่า การสังเคราะห์สารอินทรีย์พรีไบโอติก กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ เป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับชีวิต
แต่ที่น่าประหลาดใจก็คือ การไม่มีน้ำจึงมีบทบาทสำคัญมากที่นี่ โดยน้ำที่อยู่ในรูปของเหลวนั้น เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสิ่งมีชีวิต นักวิจัยกล่าวว่า ปฏิกิริยาทางเคมีที่จำเป็นเพื่อการก่อตัวเป็นโครงสร้างที่ซับซ้อนนั้น จำเป็นต้องสูญเสียน้ำไปในกระบวนการนี้
มีอะไรอยู่ในส่วนผสมที่สร้างชีวิตนี้
ผลการค้นพบได้เผยแพร่ผลการวิจัยในวารสาร เนเชอร์ และ เนเชอร์ดาราศาสตร์ Nature and Nature Astronomy โดยนักวิจัยทั่วโลกได้วิเคราะห์ชิ้นเล็กๆ ของตัวอย่างหินที่เก็บมาจากดาวเคราะห์น้อย โดยใช้กล้องจุลทรรศน์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งกล้องจุลทรรศน์อิเล็กทรอนิกส์ สามารถจะตรวจสอบวัตถุที่มีความเล็กและละเอียดสูง เช่น ความกว้างของเส้นผมมนุษย์เพียงเส้นเดียวได้
ผลการวิจัยหนึ่งนำโดยนักวิทยาศาสตร์ขององค์การนาซา ค้นพบว่า ที่ดาวเคราะห์น้อย เบนนู มีอินทรียวัตถุที่เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์กว่าที่เรามีอยู่บนโลกเสียอีก
วาคอช Douglas Vakoch ประธานองค์กรวิจัย Messaging Extraterrestrial Intelligence ชื่อย่อว่า METI บอกกับวารสาร บีบีซี ไซเอนซ์ โฟกัส BBC Science Focus ว่า "อาจดูเป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะคิดว่า โลกซึ่งมีสิ่งมีชีวิตอยู่มากมาย ควรเป็นแหล่งสะสมของสารอินทรีย์ที่หลากหลายที่สุด ในระบบสุริยะ"
“แต่ในความเป็นจริงแล้ว ที่ดาวเคราะห์น้อย เบนนู พบว่ามีโมเลกุลของสารอินทรีย์ ที่ซับซ้อนยิ่งกว่าโลกของเรา จากการนำตัวอย่างหินเหล่านี้มาจากดาวเคราะห์น้อย เพื่อมาตรวจสอบที่ห้องปฏิบัติการบนโลกเรา ทำให้เราสามารถเข้าใจประเภทของโมเลกุล ที่ทำหน้าที่เป็นรากฐานสำคัญของสิ่งมีชีวิต ตามที่เรารู้จักได้ดีขึ้น”
สารที่ทำหน้าที่เป็นรากฐานสำคัญของสิ่งมีชีวิตที่น่าประทับใจ ที่พบในตัวอย่างหินจากดาวเคราะห์น้อย ประกอบไปด้วย กรดอะมิโนซึ่งส่วนประกอบของโปรตีน 14 ชนิด จาก 20 ชนิดที่พบในทุกรูปแบบสิ่งมีชีวิตบนโลก นอกจากนี้ยังพบกรดอะมิโนที่ไม่ใช่โปรตีนอีก 19 ชนิดที่หาได้ยาก หรือขาดหายไปในชีววิทยาที่เรารู้จัก เป็นที่น่าประหลาดใจที่ตัวอย่างหิน ประกอบไปด้วย นิวคลีโอเบสทั้งห้าชนิด คือ อะดีนีน กวานีน ไซโตซีน ไทมีน และยูราซิล ซึ่งเบสทั้งห้าชนิดนี้ เป็นรหัสของ ดีเอ็นเอ และ อาร์เอ็นเอ
วาคอช กล่าวว่า “ไม่มีข้อบ่งชี้ว่า กรดอะมิโนบนดาวเคราะห์น้อย เบนนู ถูกสร้างขึ้นจากสิ่งมีชีวิต แต่กรดอะมิโนแสดงให้เห็นว่า องค์ประกอบสำคัญของชีวิตดังที่เรารู้ พบว่ามีอยู่มากมายในดาวเคราะห์น้อยดวงนี้”
สิ่งนี้ใกล้เคียงกับ 'ชีวิต' ที่เรารู้จักมากแค่ไหน?
นักวิจัยยังไม่ทราบว่า โครงสร้างที่ซับซ้อนขององค์ประกอบสำคัญของชีวิตก่อตัวบนดาวเคราะห์หลักของดาวเคราะห์น้อย เบนนู หรือมาก่อตัวหลังจากที่ดาวเคราะห์น้อย เบนนู แตกและหลุดออกจากดาวเคราะห์หลักดวงนั้น
แม็คคอย กล่าวว่า “ตอนนี้เรารู้แล้วว่า เรามีสารประกอบพื้นฐานสำคัญของชีวิตที่จะเคลื่อนไปตามวิถีทางที่จะเกิดเป็นชีวิต แต่เราไม่รู้ว่าระยะเวลานานขนาดใหน ที่สภาพของสิ่งแวดล้อม ได้เกื้อหนุนส่วนประกอบพื้นฐานสำคัญของชีวิต ให้เคลื่อนไปตามวิถีทางจนเกิดเป็นชีวิต”
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ยังไม่ชัดเจนว่า สิ่งแวดล้อมบนดาวเคราะห์น้อย เบนนู สามารถเริ่มต้นวิวัฒนาการทางชีววิทยาขั้นต่อไปได้หรือไม่
ดาร์ตเนลล์ Lewis Dartnell ศาสตราจารย์ นักชีวดาราศาสตร์ บอกกับบีบีซี ไซเอนซ์ โฟกัส ว่า “สิ่งที่ชีวิตต้องการไม่ใช่แค่กรดอะมิโน” "กรดอะมิโนเหล่านั้น จำเป็นต้องรวมตัวกันเป็นสายโซ่ยาวขนาดใหญ่ เพื่อเริ่มสร้างโปรตีน หรือเพื่อให้เบสนิวคลีโอไทด์รวมตัวกันเป็นดีเอ็นเอ ขั้นตอนต่อไปในการกำเนิดสิ่งมีชีวิต ไม่ใช่แค่การมีสารอินทรีย์อย่างง่าย ๆ เป็นส่วนประกอบเท่านั้น แต่จะต้องประกอบมาจาก ส่วนประกอบพื้นฐานสำคัญของชีวิตเหล่านั้น เข้าด้วยกัน”
ดาร์ตเนลล์ กล่าวเสริมว่า "ในการสร้างชีวิต โครงสร้างเหล่านั้น จะต้องเริ่มผลิตสารโมเลกุล เช่น โปรตีนและดีเอ็นเอ จากนั้นจึงสร้างโปรตีนและดีเอ็นเอเหล่านี้ให้เป็นเซลล์ เมื่อคุณมีเซลล์แล้ว คุณก็มีชีวิต แต่เซลล์นั้นมีความซับซ้อนมากกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับส่วนประกอบพื้นฐานสำคัญของชีวิต”
แล้วจะเป็นเซลล์ และเป็นชีวิต ได้อย่างไร นอกเหนือจากโมเลกุลของสารอินทรีย์และน้ำ “สิ่งสำคัญคือ แหล่งพลังงาน ไม่ว่าจะเป็นแสงแดดสำหรับการสังเคราะห์ด้วยแสง หรือแหล่งพลังงานเคมี” ดาร์ตเนลล์ กล่าว "คุณยังต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนาน จากกรดอะมิโน กว่าจะไปเป็นโปรตีน เป็นดีเอ็นเอ เป็นเซลล์ และเป็นสิ่งมีชีวิตขึ้นมา"
การค้นพบครั้งนี้ ถือเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ ในการค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับดาวเคราะห์ที่ใหญ่กว่า ที่เปรียบเหมือนเป็นพ่อแม่ของดาวเคราะห์น้อย เบนนู
วาคอช กล่าวว่า “จากการพินิจพิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมีของดาวเคราะห์น้อย เบนนูที่มีอยู่ในปัจจุบัน เราพบเบาะแสว่า ต้นกำเนิดของดาวเคราะห์น้อย เบนนูก่อตัวขึ้นที่ใด โดยการค้นพบล่าสุด ชี้ไปที่ต้นกำเนิดดาวเคราะห์น้อย เบนนูพบว่า อยู่ในระบบสุริยะชั้นนอก”
ส่วนประกอบของ ดาวเคราะห์น้อย เบนนู อาจเป็นบรรทัดฐานใหม่ ของสิ่งที่ควรมองหาในหินอวกาศอื่นๆ ตัวอย่างหินอวกาศนี้ได้รับการเก็บรักษาไว้อย่างดีอย่างไม่น่าเชื่อ ก่อนนำไปวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ ซึ่งหมายความว่า เกลือของหินตัวอย่างที่ยานสำรวจเก็บมา ยังคงสภาพสมบูรณ์
วาคอช กล่าวว่า “ไม่มีอะไรที่จะดีเท่ากับการเดินทางไปยังดาวเคราะห์น้อย เพื่อเก็บหินตัวอย่างที่เป็นของแท้จากดาวเคราะห์น้อย และนำกลับมายังห้องปฏิบัติการบนโลกอย่างปลอดภัย” " ภาระกิจของยานสำรวจดาวเคราะห์น้อย โอไซริส เร็กซ์ เป็นข้อพิสูจน์ถึงการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ที่สุด จากภารกิจส่งตัวอย่างหินจากดาวเคราะห์ กลับมายังโลก"
หากชิ้นส่วนหินตัวอย่างตกลงสู่พื้นโลกด้วยตัวมันเอง เกลือเหล่านี้ก็จะสลายตัวในชั้นบรรยากาศโลก แต่ตอนนี้ นักวิทยาศาสตร์รู้แล้วว่าจะต้องมองหาอะไร แม็คคอย และเพื่อนร่วมวิจัยของเขา อาจพบหลักฐานของน้ำเกลือนี้ ในคลังของหินอุกกาบาตที่มีอยู่
แม็คคอย กล่าวว่า “นี่เป็นการค้นพบแบบที่คุณหวังว่าคุณได้ทำภารกิจ” “เพราะเราได้ค้นพบในสิ่งที่เราไม่คาดคิด และนั่นเป็นรางวัลที่ดีที่สุด สำหรับการสำรวจทุกประเภท”
ผู้เขียน : Noa Leach
แปลไทยโดย : Wichai Purisa (senior scientist)
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
