3 ก.พ. เวลา 12:57 • ธุรกิจ

เมื่อโดนัลด์ ทรัมป์ กลับมาครองบัลลังก์

หลายสาเหตุ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ เราจะเตรียมรับมืออย่างไร
การกลับมาของโดนัลด์ ทรัมป์ ในตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นนโยบายการค้า, ภาษี, ค่าเงินดอลลาร์ หรือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หลายประเทศอาจต้องเตรียมตัวรับแรงกระแทกจากแนวทางที่เขาเคยใช้เมื่อดำรงตำแหน่งครั้งแรก (2017-2021) และอาจนำมาใช้อีกครั้ง
1. ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
1.1 นโยบายกีดกันทางการค้า
ทรัมป์เคยใช้มาตรการภาษีเพื่อลดการนำเข้าสินค้าจากประเทศอื่น เช่น สงครามการค้ากับจีนที่กระทบเศรษฐกิจโลก
หากกลับมา เขาอาจเพิ่มกำแพงภาษีกับสินค้าต่างชาติ ส่งผลให้ห่วงโซ่อุปทานโลกเปลี่ยนแปลง
1.2 ค่าเงินดอลลาร์และตลาดเงิน
ทรัมป์เคยวิจารณ์เฟด (ธนาคารกลางสหรัฐฯ) ว่าทำให้ดอลลาร์แข็งค่ามากเกินไป ซึ่งกระทบการส่งออก
หากดอลลาร์อ่อนค่าจากนโยบายของทรัมป์ ประเทศที่พึ่งพาการนำเข้าจากสหรัฐฯ อาจต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้น
1.3 นโยบายพลังงาน
ทรัมป์สนับสนุนอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น น้ำมันและก๊าซ ส่งผลต่อราคาพลังงาน
ประเทศที่พึ่งพาการนำเข้าน้ำมันจากสหรัฐฯ หรือได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมัน อาจต้องปรับตัว
1.4 นโยบายต่อต้านจีน
ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับจีนอาจรุนแรงขึ้น ส่งผลต่อเศรษฐกิจโลก
ประเทศที่มีการค้ากับจีนและสหรัฐฯ ต้องหาทางรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของห่วงโซ่อุปทาน
2. วิธีเตรียมรับมือ
2.1 กระจายความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ
ธุรกิจที่พึ่งพาการส่งออกไปสหรัฐฯ ควรมองหาตลาดใหม่
ประเทศต่างๆ ควรหาทางลดการพึ่งพาการค้ากับจีนหรือสหรัฐฯ เพียงฝ่ายเดียว
2.2 จับตานโยบายภาษีและอัตราแลกเปลี่ยน
ผู้นำทางธุรกิจและนักลงทุนควรติดตามอัตราภาษีศุลกากรที่อาจเปลี่ยนแปลง
เตรียมกลยุทธ์บริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
2.3 เตรียมรับมือตลาดพลังงานที่ผันผวน
ประเทศที่นำเข้าน้ำมันควรหาทางสำรองพลังงานหรือลงทุนในพลังงานหมุนเวียน
บริษัทที่พึ่งพาพลังงานควรมีแผนสำรองสำหรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
2.4 ใช้ประโยชน์จากโอกาสที่เกิดขึ้น
หากทรัมป์ลดภาษีให้บริษัทสหรัฐฯ อาจมีโอกาสลงทุนหรือทำธุรกิจร่วมกัน
ประเทศที่ไม่ได้รับผลกระทบจากนโยบายของทรัมป์ อาจดึงดูดนักลงทุนที่ต้องการย้ายฐานการผลิต
การกลับมาของโดนัลด์ ทรัมป์ อาจสร้างความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ แต่ก็มีโอกาสสำหรับผู้ที่เตรียมตัวล่วงหน้า การกระจายความเสี่ยง, ติดตามนโยบายอย่างใกล้ชิด, และหาทางปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสม จะช่วยให้ประเทศและธุรกิจรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้ดียิ่งขึ้น
ประเทศไทยอาจได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจในหลายด้าน โดยเฉพาะการค้า การลงทุน และอัตราแลกเปลี่ยน นี่คือ 4 ประเด็นหลักที่ไทยต้องจับตา
1. ผลกระทบต่อการค้าไทย
ทรัมป์เคยมีนโยบาย "America First" ที่เน้นปกป้องอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ และอาจนำมาตรการกีดกันทางการค้ากลับมา ซึ่งไทยอาจได้รับผลกระทบใน 2 ด้าน
1.1 ภาษีนำเข้าและสงครามการค้า
หากทรัมป์เพิ่มกำแพงภาษีสินค้าจีนอีกครั้ง ไทยอาจได้รับผลดีและผลเสีย
ข้อดีบางบริษัทอาจย้ายฐานผลิตจากจีนมาไทยเพื่อเลี่ยงภาษี
ข้อเสียไทยเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่การผลิตจีน หากการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ ลดลง ไทยก็อาจได้รับผลกระทบ
1.2 การค้าไทย-สหรัฐฯ
ไทยเป็น ผู้ส่งออกสำคัญไปสหรัฐฯ โดยเฉพาะชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อาหารแปรรูป และยานยนต์
หากทรัมป์ใช้มาตรการปกป้องอุตสาหกรรมภายใน อาจมีข้อจำกัดเพิ่มขึ้นในการส่งออก
2. ค่าเงินและการลงทุน
2.1 เงินบาทอาจผันผวนหนัก
นโยบายเศรษฐกิจของทรัมป์อาจทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งหรืออ่อนอย่างรวดเร็ว
เงินบาทอาจแข็งค่าหากมีเงินลงทุนไหลเข้าจากนักลงทุนที่หนีจากจีน
หรืออาจอ่อนค่าหากตลาดเกิดความกังวลและเกิดการไหลออกของเงินทุน
2.2 นักลงทุนสหรัฐฯ อาจชะลอการลงทุน
หากทรัมป์ให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจภายในสหรัฐฯ อาจมีแรงจูงใจให้นักลงทุนกลับไปลงทุนในประเทศ
การลงทุนใน EEC (เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก) อาจได้รับผลกระทบ
3. ผลกระทบต่อตลาดพลังงาน
ทรัมป์สนับสนุนการผลิต น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ของสหรัฐฯ ซึ่งอาจกดดันราคาพลังงานโลก
หากราคาน้ำมันผันผวน ไทยอาจได้รับผลกระทบต่อ ค่าครองชีพและต้นทุนการผลิต
4. ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
4.1 สงครามเย็นใหม่: ไทยอาจถูกกดดันให้เลือกข้าง
หากทรัมป์ใช้แนวทางแข็งกร้าวกับจีน ไทยอาจต้องระวังไม่ให้กระทบความสัมพันธ์กับทั้งสองฝ่าย
สหรัฐฯ อาจกดดันไทยให้ลดความร่วมมือกับจีนในโครงการเช่น รถไฟความเร็วสูง หรือ เทคโนโลยี 5G
4.2 ไทยอาจถูกเพ่งเล็งเรื่องค่าเงินและแรงงาน
สมัยทรัมป์เคยจับตามองไทยว่า "บิดเบือนค่าเงิน" เพื่อเอื้อการส่งออก
ไทยอาจถูกกดดันให้ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งกระทบต้นทุนการผลิต
ไทยควรเตรียมตัวอย่างไร?
กระจายตลาดส่งออก หาตลาดใหม่ เช่น อินเดีย ตะวันออกกลาง และอาเซียน
ติดตามอัตราแลกเปลี่ยน เตรียมรับมือเงินบาทที่อาจผันผวน
เร่งลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ เช่น พลังงานหมุนเวียน หรืออุตสาหกรรมที่ไม่ได้พึ่งพาสหรัฐฯ
รักษาสมดุลความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ไม่เอนเอียงไปฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมากเกินไป
ไทยอาจไม่ได้รับผลกระทบแรงเหมือนจีน แต่ก็ต้องปรับตัวให้ทันกับนโยบายของทรัมป์ที่อาจเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจโลก
ภิชยะ เรือง
โฆษณา