เมื่อวาน เวลา 06:18 • ข่าว

ทรัมพ์เปิดกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ เตรียมเก็บเงินซื้อ Tiktok และ เกาะกรีนแลนด์

แต่ละมื้อ แต่ละเดย์ของ โดนัลด์ ทรัมพ์ ในแต่ละวัน พันเหตุการณ์ไม่เกินจริง จนสื่อตามลงข่าวแทบไม่ทัน ล่าสุด ฮีทรัมพ์เซ็นคำสั่งมาใหม่อีกแล้ว ให้จัดตั้งกองทุนใหม่ของรัฐบาลที่ชื่อว่า Sovereign Wealth Fund หรือ กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติที่จะดำเนินการโดยรัฐบาลกลางสหรัฐ
ซึ่งทรัมพ์ ให้เหตุผลว่า เงินในกองทุนนี้จะถูกใช้เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจในเชิงยุทธศาสตร์ ที่หลายฝ่ายคาดว่า น่าจะใช้เพื่อซื้อกิจการ Tiktok และ เกาะกรีนแลนด์ ให้มาเป็นสมบัติชาติของสหรัฐอเมริกา
ทรัมพ์ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ประเทศอื่นๆ ที่เล็กกว่าสหรัฐตั้งเยอะ เขายังมีกองทุนนี้ เอาไว้สนับสนุนแผนลงทุนระยะยาวของรัฐบาล แต่ที่สหรัฐกลับไม่มี (คือมีเฉพาะระดับรัฐ ไม่ใช่ระดับชาติ) ทั้งๆที่เคยผลักดันกันมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้เกิดสักที มาวันนี้ ฮีทรัมพ์เซ็นคำสั่งแกร๊กเดียว ตั้งได้เลย ไวจนงง
กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาตินี้ ส่วนมากมักจัดตั้งขึ้นโดยการนำรายได้จากเงินสำรองส่วนเกินของประเทศ มาลงไว้เพื่อใช้ในการลงทุนสร้างผลตอบแทนระยะยาวของรัฐบาล หรือเพื่อนำไปต่อ ยอดตามพัฒนาเศรษฐกิจตามแผนยุทธศาสตร์ชาติในระยะ 10 ปี 20 ปี หรือยาวไกลกว่านั้น ก็ว่ากันไป
ซึ่งชาติที่มีกองทุนแห่งชาติก้อนใหญ่ที่สุดคือนอร์เวย์ ที่มีเงินสำรองในกองทุนมากกว่า 1 ล้านล้านเหรียญ อันเป็นรายได้ที่หักจากอุตสาหกรรมปิโตรเลีย และ ก๊าซธรรมชาติ
แถมยังงอกเงย เติบโตขึ้นเรื่อยๆ จากการที่รัฐบาลนอร์เวย์เจียดแบ่งไปลงทุนเพิ่มในหุ้นบริษัทน้ำมันต่างชาติ และ บริษัทด้านเทคโนโลยีแถวหน้าของสหรัฐ อาทิ Google, Microsoft, Apple และ Amazon เป็นต้น โดยกองทุนนี้ รัฐบาลนอร์เวย์ ตั้งใจจะให้เป็นเงินบำนาญ และสวัสดิการสังคม ที่อาจเรียกได้ว่าเป็นกองทุนบำเหน็จ บำนาญที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ส่วนชาติอื่นๆ ที่มีกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ ที่มั่งคั่งสมชื่อรองลงมา คือ สหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์, จีน, คูเวต และ ซาอุดิอารเบีย ที่มีมูลค่ากองทุนเกิน 5 แสนล้านดอลลาร์ทุกประเทศ
แต่อีกไม่นาน สหรัฐอเมริกาก็จะมีกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติกับเขาแล้วนะจ๊ะ เบบี๋ ซึ่ง สกอตต์ เบสเซนท์ รัฐมนตรีคลังวางแผนว่า จะสามารถจัดตั้งกองทุนรัฐบาลนี้ได้ภายใน 12 เดือนข้างหน้า โดยวาดฝันว่า รัฐบาลทรัมพ์จะสร้างรายได้จากทรัพย์สินในงบดุลย์ของรัฐบาล เพื่อชาวอเมริกันทุกคน
ถึงแม้ว่าทรัมพ์จะไม่ได้บอกว่าจะเอางบประมาณส่วนไหนมาใส่ในกองทุนนี้ แต่สื่อสหรัฐก็พอจะเดาได้ว่า น่าจะเป็นรายได้จากกำแพงภาษีที่ทรัมพ์ขู่จะขูดรีดจากคู่ค้าต่างชาติทุกวัน 3 เวลาหลังอาหาร
และเนื่องจากรัฐบาลทรัมพ์ 2 จะมีอายุแค่เพียง 4 ปี ดังนั้นการใช้งบจากกองทุนความมั่งคั่งก็อยู่ในกรอบยุทธศาสตร์ระยะไม่เกินนี้ และ ทรัมพ์ก็ได้วางแผนใช้เงินไว้ในใจแล้ว หนึ่งในนั้นก็คือการลงทุนซื้อ Tiktok มาเป็นสมบัติของสหรัฐฯ
โดยทรัมพ์ได้เซ็นคำสั่งขยายเวลาการแบน Tiktok ตามคำสั่งของสหรัฐไปก่อนชั่วคราว เพื่อมองหาลู่ทางการเจรจาให้บริษัทจีนยอมขาย นอกจากนี้ แผนการซื้อเกาะกรีนแลนด์ และการขยายอิทธิพลของสหรัฐในพื้นที่คลองปานามา ก็อยู่ในแผนการใช้งบประมาณของทรัมพ์เช่นกัน
ถ้าทรัมพ์สามารถทำได้สำเร็จภายในระยะเวลาการทำงานของเขา ก็นับเป็นผลงานที่ชาวอเมริกันสามารถคุยได้ถึงลูก ถึงหลาน ว่าทรัมพ์สร้างมรดกให้กับลูกหลานชาวอเมริกันจากนโยบายที่ฟังดูบ้าบอ สุดโต่งของเขา หรืออย่างน้อยถ้าทำไม่สำเร็จ เงินกองทุนนี้ก็ยังเป็นของรัฐบาลกลางสหรัฐ ที่จะถูกใช้เพื่อประชาชนชาวอเมริกันในอนาคตหรือเปล่านั้น ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
แต่สำหรับบ้านเรา มีเพียงกองทุนเงินสำรองระหว่างประเทศ ที่เอาไว้รักษาเสถียรภาพของค่าเงินบาท และอำนาจในการทำธุรกรรมของชาติ แต่เรายังไม่มีกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ และดูเหมือนว่ายังไม่มีแผนในการจัดตั้งกองทุนนี้ในอนาคตอันใกล้
ที่อาจสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของรัฐบาลบ้านเรา ที่มักไม่ค่อยมีแผนยุทธศาสตร์ที่ยาวไกลนัก หรือ เคยมีแต่ก็ไปไม่ค่อยถึง เพราะการใช้งบประมาณของภาครัฐ มักไปลงในนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น แบบลด แลก แจก แถม โดยไม่ได้เน้นการลงทุนเพื่อสร้างรายได้ในระยะยาว หรือ ตั้งงบเพื่อรองรับแผนการพัฒนาที่กินเวลานานเกินอายุรัฐบาล
ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเศร้าพอสมควร ที่เรามักมีรัฐบาลที่เน้นการใช้ทรัพยากรของชาติเพื่อสนับสนุนฐานคะแนนเสียง มากกว่าการสร้างสมบัติชาติไว้ให้ลูกหลานได้มีกิน มีใช้ หรือมีอะไรต่อมิอะไรได้ในอนาคต
****************
ติดตามบทความของ "หรรสาระ" เพิ่มเติมได้ที่
Facebook - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
Twitter - @HunsaraByJeans
Blockdit - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
แพลทฟอร์มคุณภาพ ไม่ปิดกั้นการมองเห็นเนื้อหา
****************
แหล่งข้อมูล
โฆษณา