เมื่อวาน เวลา 08:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

อเมริกันไม่เชื่อมั่น ‘เศรษฐกิจทรัมป์’ ผุดเทรนด์ลดใช้จ่าย ‘No Buy 2025’

เมื่อประชาชนยังไม่มั่นใจในนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จึงเกิดเทรนด์ ‘No Buy 2025’ ครัวเรือนลดการใช้จ่าย ประหยัดมากขึ้น และซื้อของเท่าที่จำเป็นเท่านั้น เพราะราคาสินค้ายังคงพุ่งสูง ซึ่งเห็นได้ชัดในกลุ่มผู้บริโภคผู้หญิง
เมื่อโลกตกอยู่ในความปั่นป่วน การซื้อของตามอารมณ์ก็ทำได้ง่ายๆ
สถานการณ์นี้มีให้เห็นอยู่นานแล้วในโซเชียลมีเดียอเมริกัน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปซื้อของที่ร้าน HomeGoods หรือห้างสรรพสินค้า Target หรือช้อปง่ายๆ ผ่านการคลิกลิงก์ในเครืออเมซอน (Amazon) หรือคอยติดตามสินค้าใหม่ล่าสุด
แต่ตอนนี้ชาวอเมริกันจำนวนมาก โดยเฉพาะคอนเทนต์ครีเอเตอร์ผู้หญิง ออกมาต่อต้านการบริโภคที่มากเกินพอดี และให้คำมั่นว่าจะซื้อลดลง หรือลดการซื้ออะไรก็ตามที่เกินความจำเป็น และจะไม่ซื้อสินค้าที่ตัวเองมีอยู่แล้วจนกว่าสินค้านั้นจะหมดอายุ หรือใช้งานไม่ได้ ซึ่งเทรนด์นี้เรียกว่า “No Buy 2025 Challenge” และ “Project Pan”
แม้เทรนด์สนับสนุนลดการใช้จ่ายของที่ไม่จำเป็น (underconsumption core) ได้รับความนิยมอยู่แล้ว แต่เทรนด์อย่าง “Project Pan” หรือการเลิกซื้อผลิตภัณฑ์ความงามจนกว่าของที่ใช้อยู่จะหมดเกลี้ยง ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในเดือนม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งหลายคนยังคงทำตามแผนดังกล่าวอยู่ หรือเริ่มใช้จ่ายน้อยลงหรือไม่ใช้จ่ายเลย เมื่อเห็นนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เพิ่งเสนอเมื่อเร็วๆ นี้
โดยก่อนหน้านี้ทรัมป์ได้ให้คำมั่นสัญญาไว้ว่าจะทำให้ราคาสินค้าในประเทศลดต่ำลง
“ถ้าผมชนะ ผมจะทำให้ราคาสินค้าลดลงทันทีตั้งแต่วันแรก” ทรัมป์กล่าวปราศรัยเมื่อเดือน ส.ค. 2567 ซึ่งตอนนั้นทรัมป์มุ่งเป้าซื้อใจกลุ่มผู้มีสิทธิลงคะแนนที่ไม่พอใจกับราคาสินค้า
อย่างไรก็ตามชาวอเมริกันหลายคนยังคงไม่พอใจกับเศรษฐกิจแม้ทรัมป์ให้คำมั่นสัญญาไว้แล้วก็ตาม
อ่านต่อ:
โฆษณา