5 ก.พ. เวลา 02:00 • กีฬา
Anfield

ทำไมถึงมีแค่แมนเชสเตอร์ซิตี้ที่ทุ่มเงินเสริมทัพในตลาดหน้าหนาว

----
ตลาดเสริมทัพหน้าหนาวซีซั่น 2024/25 ปิดตัวลงไปพร้อมกับความเงียบงันของลิเวอร์พูล และ อาร์เซนอล ซึ่งเป็น 2 ทีมคั่วแชมป์พรีเมียร์ลีกในขนาดนี้ แตกต่างกับแมนเชสเตอร์ซิตี้ที่ทุ่มเงินเกือบ 178 ล้านปอนด์เพื่อเสริม 5 นักเตะในภายระยะเวลาหนึ่งเดือน
เอาล่ะ ในมุมมองของแฟนบอลทั่วไป แมนซิตี้เป็นทีมที่น่าอิจฉาเสมอ ดูเหมือนว่าเบื้องหลังของสโมสรมีพละกำลังมากพอที่จะสนับสนุนเป็ป กวาร์ดิโอลาห์ แต่ความจริงที่เป็นอาจไม่ใช่อย่างที่คิด
ในขณะที่ ลิเวอร์พูลและอาร์เซนอล การตัดสินใจไม่เสริมทัพกลางของพวกเขา ก็มีเหตุผลของตัวเอง ที่ไม่ได้เกี่ยวกับความงกหรือไม่ทะเยอะทะยานของเจ้าของทีม
----
ความพยายามในการ "แก้กรรม" ของแมนเชสเตอร์ซิตี้
ทุกอย่างเริ่มต้นในช่วงซัมเมอร์ พวกเขาเสียตัวหลัก ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ซึ่งขอย้ายทีมไปแอตเลติโก มาดริด รวมถึงกองหลังดาวรุ่งอย่างเทย์เลอร์ ฮาร์วู้ด-เบลลิส ไปเซาแธมป์ตัน และคนหมดใจ ชูเอา คันเซโล่ ไปลีกซาอุ
แมนซิตี้เสริมทัพเพียง ซาวินโญ่ ซึ่งเป็นผู้เล่นในตำแหน่งปีก และไปดึงอิคาย กุนโดกันกลับมา ทว่า เป็ป กวาร์ดิโอลาห์ ดันมองข้ามเรื่องอายุของตัวหลักในทีมอย่าง เควิน เดอ บรอยน์, โรดรี้, ไคล์ วอล์คเกอร์ หรือแม้แต่ผู้รักษาประตูทั้ง 2 คน เขามองว่าดาวรุ่ง ริโก้ ลิวอิส, เจมส์ แม็คอาที, ออสการ์ บ๊อบ น่าจะเติมเต็มชุดใหญ่ได้เหมือนฟิล โฟเด้น โดยไม่ได้คาดคิดว่า โรดรี้ จะเครื่องพังพร้อม ๆ กับเคดีบี และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เรือใบแล่นไม่ไปเพราะใบเรือมีรอยฉีกขาด
ในช่วงเวลาที่ลิเวอร์พูลเข้าสู่ 10 นัดอันตราย หากแต่กลายเป็นแมนซิตี้ที่กำลังจมดิ่ง เป็นครั้งแรกในเส้นทาง 17 ปีของการเป็นผู้จัดการทีมที่เป็ป กวาร์ดิโอลาห์ไม่สามารถแกะหนังยางออกจากถุงข้าวแกงได้ เป๊ปและทีมบริหารทำได้อย่างเดียวคือประคองผลงาน จนกว่าจะถึงเดือนมกราคม
เป๊ปอาจจะมีเป้าหมายหลังจบฤดูกาลที่ไม่ใช่แมนซิตี้ แต่เขาต้องเก็บมันไว้ในลิ้นชัก แล้วตัดสินใจจรดปากกาต่อสัญญา เพราะแมนซิตี้กำลังเผชิญกับอนาคตที่ไม่แน่นอนจาก 130 คดีและกำลังใจที่ดำดิ่งจากผลงานทีมที่ไม่มีใครเคยประสบมาก่อน
การต่อสัญญาเป็นเหมือน 2 มือที่ประคองแก้วที่ร้าวไว้ จนกระทั่งปี 2025 มาถึง นักเตะและแฟนบอลรู้สึกได้ถึง "จุดเซฟ" ให้พวกเขาได้ฮีล ได้หายใจหายคอ
และตอนนั้นเอง ไม่ว่าซัมเมอร์ 2025 จะมีนักเตะเป้าหมายที่ต้องการกี่คน เป๊ปต้องยอมกาชื่อทิ้งทั้งหมด แล้วอนุมัติการซื้อผู้เล่นเท่าที่จะทำได้ในราคาที่แพงกว่าปกติ พวกเขาเสริมโอมาร์ มาร์มูซ มาแทนอัลวาเรซ คูชานอฟและวิคเตอร์ รีซมาเสริมเซนเตอร์ คริสเตียน แม็คฟาเลนมาเสริมฟูลแบ็ค และนิโก กอนซาเลซมาอุดตำแหน่งกองกลางตัวรับ นี่คือเม็ดเงินมหาศาลในตลาดหน้าหนาวที่เราไม่ค่อยได้เห็นจากทีมอื่น
การทุ่มเงินตัดหน้าสโมสรอื่นเพื่อคว้าตัวมาร์มูซ และ นิโก กอนซาเลซ ดูเป็นอะไรที่ง่ายดายเหลือเชื่อ มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะซื้อตัวหลักที่กำลังทำผลงานได้ดี อย่างมาร์มูซเอง ตอนแรกเขาก็ลังเลที่จะทิ้งไอน์ทรัค แฟรงเฟิร์ตไว้กลางฤดูกาล แต่นอกเหนือจากตัวเลขมหาศาลที่จะได้แล้ว หนึ่งสิ่งที่ได้แน่นอนคือ ตำแหน่งตัวจริง ซึ่งแม้แต่ ลิเวอร์พูล ที่สนใจเขาและเขาก็สนใจ ไม่สามารถการันตีให้เขาได้ในเวลานี้
ค่าเหนื่อยระดับสามแสนปอนด์ ตำแหน่งตัวจริง ทำงานกับเป๊ป และการได้เล่นร่วมกับเออร์ลิ่ง ฮาลันด์ สมการนี้สมบูรณ์แบบเกินกว่าจะปฏิเสธ
เข้าใจใช่ไหมครับ เป๊ปที่กำลังสุ่มเสี่ยงจะถอยหลังตกไปยูโรป้า เมื่อมีเงินที่ไม่ได้ใช้ในช่วงซัมเมอร์ ก็ต้องใช้ไปก่อน สถานการณ์มันบีบให้เขาต้องเลือก
...
ทำไมอาร์เตต้าไม่เสริมกองหน้า
ซัมเมอร์ที่แล้ว มิเกล อาร์เตต้า ได้ดาวิด ราย่า คาลาฟิออรี่ และ มิเกล โมริโน่ มาเสริมประตู แบ็คซ้าย และกองกลาง ทำให้ทีมมีความสมดุลขึ้นพอสมควร แต่หากแต่ ศูนย์หน้าตัวเป้า ต่างหากคือตำแหน่งที่พวกเขาขาด
ซีซั่นนี้ ไค ฮาร์แวตซ์ รั้งตำแหน่งดาวซัลโวของอาร์เซนอลจากการยิงได้ 15 ประตูในทุกรายการ 9 ประตูในพรีเมียร์ลีก คือไม่ติดท็อปเทนดาวซัลโวด้วยซ้ำ จนทำให้อาร์เตต้าต้องงัดลูกเซ็ตพีซมาสู้ นักเตะอาร์เซนอลช่วยกันทำประตู และได้ผลตอบแทนที่ 47 ประตู เทียบเท่าแมนซิตี้ เป็นรองเพียงลิเวอร์พูลทีมเดียว
อาร์เซนอลพยายามที่จะเสริมกองหน้าในตลาดหน้าหนาว แต่ก็พลาดไปทั้ง มาติส แตลจากบาเยิร์น รวมถึงโอลี่ วัตส์กินจากแอสตัน วิลล่า รายหลังนี่พร้อมย้ายมาก แต่วิลล่าเรียกราคาสูง
ทำให้อาร์เตต้าตัดสินใจไม่เพิ่มราคา และอยู่กับสิ่งที่มีเพื่อรอคอยเป้าหมายที่แท้จริงในช่วงซัมเมอร์
แม้ว่าจะไม่ได้ซื้อใครเลยในตลาดรอบนี้ แต่ก็มีข้อดีคือ อีธาน เอ็นวาเนรี่ และ ไมล์ส ลิวอิส-สเกลลี่ สองดาวรุ่งลูกหม้อของทีมได้โอกาสในการลงสนามอย่างเต็มที่ แถมยังโชว์ฟอร์มได้ในระดับสูง โดยเฉพาะในเกมที่ถล่มแมนเชสเตอร์ซิตี้ 5-1
...
ลิเวอร์พูลกับม้านั่งสำรองที่เต็มเอี๊ยด
ในเกมล่าสุดกับบอร์นมัธ แฟนบอลถึงกับร้องระงมเมื่อไม่เห็นชื่อของเฟเดริโก คิเอซ่าในรายชื่อสำรอง ทั้ง ๆ ที่เขาเพิ่งโชว์ฟอร์มเด่นในเกม UCL
เฟดไม่ได้มีอาการบาดเจ็บ หรือโดนดร็อปเพราะฟอร์มไม่ดี แต่เมื่อต้องเลือก ดิโอโก โชต้า, ดาร์วิน นูนเญซ, เคอร์ติส โจนส์, และฮาร์วี่ เอลเลียต ย่อมมาก่อนในเวลานี้ แค่ตัวรุกก็กินพื้นที่ไปครึ่งม้านั่งสำรองแล้ว
นี่คือปัญหาจากจุดแข็งของทีมฟิตเนสของอาร์เน่อ ชล็อต ซึ่งมีชื่อเสียงมาตั้งแต่ทำทีมเฟเยนอร์ด สามารถบริหารจัดการสภาพร่างกายนักเตะให้พร้อมใช้ได้ 80 - 90% จนจบฤดูกาล
ก็อย่างที่เห็น ชล็อตไม่ได้ขาดนักเตะ มีตัวหมุนเวียนเสมอ โชต้า, เฟด, ซิมิคาส, แบรดลี่ย์, เอนโด, มอร์ตัน, ควอนซาห์, เคลเลเฮอร์. ยารอส, แม็คคอนเนล, โกเมซ
ผู้เล่นที่ลิเวอร์พูลจะซื้อมาใหม่ ต้องอยู่ในระดับไหนที่จะเบียดกลุ่มคนเหล่านี้ที่สู้กันมาจนพาทีมรั้งจ่าฝูง หรือจะโอเคมั้ยถ้าจะต้องรอโอกาสจากสำรองอีกที แบบที่แม้แต่คิเอซ่ายังต้องรอ
นั่นคือเหตุและผลที่ลิเวอร์พูลเลือกที่จะไม่ซื้อ "ใครก็ได้" ในตลาดหน้าหนาว
เมื่อจบฤดูกาล จะมีหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลง บางคนต้องไป และจะมีคนใหม่เข้ามาแทน
ฝีมือที่แท้จริงของริชาร์ด ฮิวจ์จะเป็นอย่างไร คำตอบที่แท้จริงอยู่ในซัมเมอร์ที่จะถึงนี้
ส่วนตอนนี้ดื่มด่ำกับฝีมือการบริหารจัดการทีมของอาร์เน่อ ชล็อตกันไปก่อน นี่คือช่วงเวลาทองที่เขากำลังโชว์สกิลการคุมทีม โดยไม่มีปัจจัยการเสริมทัพมาเกี่ยวข้อง
ได้เสริมทีม 1 คน ทำได้ขนาดนี้ เหลือจะเชื่อ
#แท็กข่าวสาร
#MRJACKJ.
#แจ๊คแอนฟีลด์
#กดติดตามเพื่อรับข้อมูลข่าวสารใหม่ๆ
#กดหัวใจเพื่อเป็นกำลังใจให้ผมด้วยครับ
#ขอบคุณครับ
โฆษณา