5 ก.พ. เวลา 08:15 • ปรัชญา

[ มนุษย์กับความไร้สาระของจักรวาล ]

.
มนุษย์กับการแสวงหาความหมายในจักรวาลอันไร้แก่นสาร
จักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาลไม่เคยสนใจความมีอยู่ของมนุษย์ เราเป็นเพียงเศษเสี้ยวเล็ก ๆ ในมิติแห่งกาลเวลาและอวกาศ และโลกที่แสนยิ่งใหญ่ของเราเป็นเพียงดั่งอภิมหาเศษเสี้ยวของเมล็ดทรายที่ลอยเท้งเต้งอยู่ในจักรวาล
แต่มนุษย์กลับดิ้นรนแสวงหาความหมายในการดำรงอยู่ ท่ามกลางความเงียบงันของจักรวาล เราพยายามสร้างเรื่องราวให้แก่ตัวเอง และพยายามเติมเต็มความไร้แก่นสารนั้นด้วยศาสนา ปรัชญา วิทยาศาสตร์ หรือแม้แต่ความรักและความฝัน
ในบทความนี้ เราจะสำรวจแนวคิดเกี่ยวกับความไร้สาระของจักรวาล และวิธีที่มนุษย์พยายามตอบสนองต่อมันผ่านมุมมองของนักปรัชญาต่าง ๆ
.
จักรวาลอันไร้ความหมาย: ความจริงที่มนุษย์ไม่อยากยอมรับ
หากมองจากมุมมองจักรวาลวิทยา ไม่มีเหตุผลใดที่มนุษย์จะต้องดำรงอยู่ ไม่มีจุดหมายที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ไม่มีพลังลี้ลับที่คอยชี้นำชีวิตของเรา คามูส์ (Albert Camus) นักปรัชญาเอกซิสเตนเชียลลิสม์แบบแอบซูร์ด (Absurdism) ชี้ให้เห็นว่ามนุษย์ล้วนแสวงหาความหมาย แต่จักรวาลกลับเงียบงัน นี่จึงก่อให้เกิด "ความไร้สาระ" หรือ "Absurdity" นั่นเอง
ซาร์ตร์ (Jean-Paul Sartre) และเสรีภาพในโลกที่ไร้ความหมาย – หากไม่มีพระเจ้า และไม่มีแผนที่กำหนดไว้ให้เรา ซาร์ตร์กล่าวว่า "เราถูกสาปให้เป็นอิสระ" เราจึงต้องสร้างความหมายขึ้นมาเอง และรับผิดชอบต่อชีวิตของตนเอง
นีทเช่ (Friedrich Nietzsche) และการเอาชนะความไร้สาระ – นีทเช่ประกาศว่า "พระเจ้าตายแล้ว" และเสนอให้มนุษย์เป็น "Übermensch" หรือ "มนุษย์เหนือมนุษย์" ที่สร้างคุณค่าและความหมายให้ตัวเอง
.
ความไร้สาระในชีวิตประจำวัน
เราพบกับความไร้สาระในชีวิตทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นการทำงานซ้ำซาก ความสัมพันธ์ที่ไม่แน่นอน หรือความจริงที่ว่าเราทุกคนต้องตาย ไม่ว่าเราจะสร้างสิ่งใดขึ้นมา ท้ายที่สุดทุกอย่างก็จะถูกกลืนหายไปในกาลเวลา คามูส์เปรียบชีวิตเหมือน "ซิซีฟัส" (Sisyphus) ชายผู้ต้องกลิ้งหินขึ้นภูเขา เพียงเพื่อให้มันกลิ้งกลับลงมาไปตลอดกาล
แต่แทนที่เราจะสิ้นหวัง คามูส์กลับเสนอให้เรากอดรับ "ความไร้สาระ" และมีความสุขกับการต่อสู้แม้ไร้จุดหมาย เพราะ "ซิซีฟัสต้องมีความสุข" ในการรับรู้ความไร้สาระของชีวิตแต่ยังเลือกที่จะใช้ชีวิตอย่างเต็มที่
.
เราจะใช้ชีวิตอย่างไรในจักรวาลที่ไร้ความหมาย?
เมื่อเราตระหนักว่าชีวิตไม่มีความหมายโดยกำเนิด เราจึงต้องสร้างความหมายขึ้นมาเอง นี่คือแนวทางที่เราอาจเลือก:
การยอมรับและใช้ชีวิตอย่างมีสติ – เข้าใจว่าทุกสิ่งล้วนไม่เที่ยง และเลือกใช้ชีวิตโดยไม่ต้องพึ่งพาความหมายที่กำหนดจากภายนอก
การสร้างสรรค์คุณค่าใหม่ ๆ – เช่นเดียวกับแนวคิดของนีทเช่ เราสามารถกำหนดเป้าหมายและสร้างสรรค์สิ่งที่มีความหมายต่อตนเอง
การใช้ชีวิตอย่างซิซีฟัส – แม้รู้ว่าทุกสิ่งจะสลายไป เราก็ยังสามารถสนุกกับกระบวนการใช้ชีวิตได้
.
บทสรุป: การกอดรับความไร้สาระและการมีชีวิตที่แท้จริง
จักรวาลไม่ได้ให้ความหมายกับเรา แต่เราสามารถสร้างมันขึ้นมาได้เอง ความงดงามของชีวิตอยู่ที่การใช้มันอย่างเต็มที่โดยไม่ต้องพึ่งพาอำนาจที่มองไม่เห็น ชีวิตอาจไม่มีความหมายโดยธรรมชาติ แต่มันมีคุณค่าสำหรับเราหากเราเลือกที่จะให้คุณค่ากับมัน
ดังนั้น จงกอดรับความไร้สาระ ใช้ชีวิตให้เต็มที่ และสร้างความหมายของคุณเอง
โฆษณา