Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Vate's Pharma Scope
•
ติดตาม
12 ก.พ. เวลา 12:20 • สุขภาพ
ผจญภัยกู้ชีพ: เกลือแร่ วิตามิน ฮีโร่พิชิตความดันโลหิตสูง
สวัสดีครับทุกคน กลับมาพบกับเภสัชกรเวชอีกแล้ว วันนี้มีเรื่องอะไรมาให้ผจญภัยกันนะ ลองนึกภาพตามผมนะครับ... ร่างกายของเราเหมือนเมืองใหญ่ที่แสนจะวุ่นวาย มีเส้นเลือดเป็นถนน มีหัวใจเป็นปั๊มน้ำที่คอยส่งเลือดไปเลี้ยงทุกส่วน
แต่แล้ววันหนึ่ง...ภัยเงียบก็คืบคลานเข้ามา "ความดันโลหิตสูง" หรือโรคความดันนี่แหละครับ เหมือนผู้ร้ายที่ค่อยๆ เข้ามาสร้างปัญหา ทำให้ถนนในเมืองเริ่มตึงเครียด ปั๊มน้ำทำงานหนักเกินไป ถ้าปล่อยไว้นานๆ เมืองทั้งเมืองอาจจะพังได้เลยนะครับ
แต่ไม่ต้องกลัวครับ ในเมืองของเราไม่ได้มีแค่ผู้ร้าย ยังมีเหล่าฮีโร่ที่พร้อมจะออกมาปกป้องเมืองของเราจากภัยร้ายนี้ ฮีโร่ที่ผมกำลังพูดถึงก็คือ "เกลือแร่" และ "วิตามิน" จากอาหารที่เรากินเข้าไปทุกวันนี่เองครับ
วันนี้ ผมจะพาคุณผู้อ่านทุกท่านออกเดินทางผจญภัยไปในโลกของโภชนาการ เพื่อค้นหาเหล่าฮีโร่ที่จะมาช่วยกอบกู้เมืองของเราจากความดันโลหิตสูง เราจะไปดูกันว่า "เกลือ" ที่ดูเหมือนจะเป็นผู้ร้าย จะมีมุมที่เราต้องทำความเข้าใจอย่างไร แล้ว "แมกนีเซียม" "วิตามินอี" และ "เรสเวอราทรอล" จะเป็นฮีโร่ของเราได้อย่างไรบ้าง เตรียมตัวให้พร้อม แล้วออกเดินทางไปพร้อมกันเลยครับ
การเดินทางครั้งนี้อิงข้อมูลจากการผจญภัยที่ถูกบันทึกไว้ในวารสารทางการแพทย์ Hypertension Research ปี 2023 รับรองว่าการเดินทางครั้งนี้สนุก เข้มข้น และได้ความรู้กลับไปดูแลสุขภาพตัวเองแน่นอนครับ
ด่านแรก: เผชิญหน้ากับ "จอมวายร้ายโซเดียม"
ในการเดินทางครั้งแรกของเรา เราต้องเผชิญหน้ากับ "จอมวายร้ายโซเดียม" หรือ "เกลือ" นั่นเองครับ หลายคนอาจจะงงว่า เกลือเนี่ยนะเป็นผู้ร้าย ก็เกลือมันช่วยให้อาหารอร่อยนี่นา ใช่ครับ เกลือมีประโยชน์ แต่ถ้าเรากินมากเกินไป มันจะกลายเป็นจอมวายร้ายที่ทำร้ายเมืองของเราได้จริงๆ ครับ
เหมือนในรายงานการวิจัยลับฉบับหนึ่งที่ถูกตีพิมพ์ในวารสาร JAMA ปี 2023 นักวิจัยกลุ่มหนึ่งได้ทำการทดลองกับกลุ่มผู้สูงอายุ พวกเขาลองให้ผู้สูงอายุกลุ่มหนึ่งลดปริมาณเกลือในอาหารลงอย่างมาก ส่วนอีกกลุ่มกินอาหารตามปกติ ผลปรากฏว่า กลุ่มที่ลดเกลือ ความดันโลหิตลดลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นคนที่มีความดันปกติ เป็นความดันสูงที่คุมได้แล้ว หรือยังคุมไม่ได้ก็ตาม การลดเกลือก็ช่วยลดความดันได้หมด
ผลการทดลองนี้เหมือนเป็นการยืนยันว่า "จอมวายร้ายโซเดียม" นี่แหละ คือตัวการสำคัญที่ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น และที่น่าทึ่งกว่านั้นคือ พลังในการลดความดันของ "การลดเกลือ" เนี่ย เทียบเท่ากับการใช้ "ยาลดความดัน" เลยนะครับ
แล้วเราจะลดเกลือได้ยังไงบ้าง ง่ายๆ เลยครับ เริ่มจากการสำรวจครัวของเราก่อน ดูว่าเรามี "เครื่องปรุงรสจอมวายร้าย" อะไรบ้าง เช่น เกลือ น้ำปลา ซีอิ๊ว ผงชูรส พยายามลดการใช้เครื่องปรุงเหล่านี้ลง เวลาทำอาหารเอง ลองชิมก่อนปรุง บางทีอาหารก็อร่อยได้โดยไม่ต้องเติมเกลือเยอะนะครับ
นอกจากนี้ เราต้องระวัง "อาหารแปรรูป" "อาหารสำเร็จรูป" และ "ขนมขบเคี้ยว" ต่างๆ ด้วยนะครับ อาหารพวกนี้เหมือนเป็นแหล่งกบดานของ "จอมวายร้ายโซเดียม" เลย เพราะมักจะมีเกลือซ่อนอยู่เยอะมาก ลองเปลี่ยนมากินอาหารสดใหม่ ปรุงเองให้มากขึ้น แล้วหันมาใช้สมุนไพร เครื่องเทศ หรือน้ำมะนาว เพิ่มรสชาติอาหารแทนเกลือ แรกๆ อาจจะไม่คุ้น แต่เชื่อผมเถอะครับ กินไปเรื่อยๆ จะอร่อยขึ้น สุขภาพดีขึ้น แถมยังปราบ "จอมวายร้ายโซเดียม" ได้อีกด้วย
ด่านสอง: พบกับ "อัศวินแมกนีเซียม" ผู้พิทักษ์ความดัน
เมื่อเราปราบ "จอมวายร้ายโซเดียม" ได้แล้ว ด่านต่อไปที่เราจะเจอคือ "อัศวินแมกนีเซียม" ครับ ในรายงานการวิจัยลับที่เรามี บอกว่า "แมกนีเซียม" เนี่ย เป็นเหมือนอัศวินผู้กล้าที่คอยพิทักษ์ความดันโลหิตของเราให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
นักวิจัยได้ทำการสำรวจข้อมูลสุขภาพของชาวอเมริกันจำนวนมาก (NHANES) แล้วพบว่า คนที่กินอาหารที่มี "แมกนีเซียม" สูง มีความเสี่ยงที่จะเป็นความดันโลหิตสูง เบาหวาน และไขมันในเลือดสูง น้อยกว่าคนที่กิน "แมกนีเซียม" น้อย เหมือน "อัศวินแมกนีเซียม" คอยสร้างเกราะป้องกันเมืองของเราจากโรคภัยต่างๆ
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีการรวบรวมงานวิจัยหลายชิ้น (meta-analysis) แล้วพบว่า การเติม "แมกนีเซียม" เสริมเข้าไปในร่างกาย สามารถช่วยลดความดันโลหิตได้จริงๆ
กลไกการทำงานของ "อัศวินแมกนีเซียม" ในการลดความดันโลหิต อาจจะซับซ้อนหน่อย แต่มีคนบอกว่า "แมกนีเซียม" อาจจะช่วยยับยั้งไม่ให้แคลเซียมเข้าไปในเซลล์กล้ามเนื้อของหลอดเลือดมากเกินไป ซึ่งจะช่วยให้หลอดเลือดคลายตัว ไม่หดเกร็ง ความดันโลหิตก็เลยลดลงได้ นอกจากนี้แมกนีเซียม ยังมีพลังในการต้านอนุมูลอิสระ และช่วยลดความต้านทานของหลอดเลือดส่วนปลาย เหมือนเป็นอัศวินที่มีทั้งดาบและโล่ คอยปกป้องเมืองของเราอย่างรอบด้าน
แล้วเราจะเจอ "อัศวินแมกนีเซียม" ได้ที่ไหนบ้าง? "อัศวินแมกนีเซียม" ซ่อนตัวอยู่ในอาหารหลายชนิดเลยครับ เช่น ผักใบเขียวเข้ม ถั่ว เมล็ดพืช ธัญพืชไม่ขัดสี อะโวคาโด และดาร์กช็อกโกแลต การกินอาหารเหล่านี้เป็นประจำ เหมือนเป็นการเรียก "อัศวินแมกนีเซียม" มาช่วยปกป้องเมืองของเราทุกวัน
ด่านสาม: พบกับ "นางฟ้าวิตามินอี" ผู้ดูแลหลอดเลือด
เดินทางกันต่อมาถึงด่านที่สาม เราจะได้พบกับ "นางฟ้าวิตามินอี" ครับ "นางฟ้าวิตามินอี" เป็นเหมือนนางฟ้าที่คอยดูแลหลอดเลือดของเราให้แข็งแรง ในรายงานการวิจัยลับ บอกว่า "วิตามินอี" มีความสำคัญต่อความดันโลหิตสูงเหมือนกัน
"วิตามินอี" เป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน พบมากในอาหารจากพืช เช่น ถั่ว น้ำมันพืช และผักผลไม้บางชนิด มีคนเชื่อว่า "วิตามินอี" อาจจะช่วยให้เยื่อบุหลอดเลือดทำงานได้ดีขึ้น เหมือน "นางฟ้าวิตามินอี" คอยซ่อมแซมและบำรุงถนนในเมืองของเราให้ใช้งานได้ดีอยู่เสมอ
มีการรวบรวมงานวิจัย 18 ชิ้น แล้วพบว่าการเติมวิตามินอีเสริม มีความสัมพันธ์กับการลดลงของความดันโลหิตตัวบน แต่ต้องบอกก่อนว่า งานวิจัยเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นการศึกษาในระยะสั้น และใช้วิตามินอีในปริมาณสูง และผลลัพธ์ของแต่ละงานวิจัยก็แตกต่างกันพอสมควร
แต่ในการศึกษาที่ใหญ่ขึ้น และติดตามผลในระยะยาว โดยใช้ข้อมูลจาก China Health and Nutrition Survey ที่มีคนเข้าร่วมกว่า 12,000 คน กลับพบว่า ความสัมพันธ์ระหว่างวิตามินอีจากอาหาร กับความเสี่ยงความดันโลหิตสูง เป็นแบบ J-shaped งงใช่ไหมครับ?
หมายความว่า คนที่ได้รับวิตามินอีจากอาหารน้อยเกินไป (ต่ำกว่า 18.75 มิลลิกรัมต่อวัน) และคนที่ได้รับวิตามินอีมากเกินไป (มากกว่า 40.35 มิลลิกรัมต่อวัน) มีความเสี่ยงความดันโลหิตสูงมากกว่าคนที่ได้รับวิตามินอีในปริมาณปานกลาง (18.75 ถึง 40.53 มิลลิกรัมต่อวัน)
ผลการวิจัยนี้เหมือนจะบอกเราว่า "นางฟ้าวิตามินอี" ก็เหมือนฮีโร่คนอื่นๆ ต้องได้รับในปริมาณที่พอดี มากไปน้อยไปก็ไม่ดี วิตามินอีมีพลังในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเครียดในหลอดเลือด และช่วยสร้างสารที่ทำให้หลอดเลือดขยายตัว แต่ถ้าได้รับมากเกินไป ก็อาจจะมีผลเสียได้เหมือนกัน
ดังนั้น การกินอาหารที่มีวิตามินอีในปริมาณที่เหมาะสม จึงเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลหลอดเลือดและป้องกันความดันโลหิตสูง อาหารที่เป็นแหล่งวิตามินอีที่ดี ก็มีพวกน้ำมันพืชต่างๆ (เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว น้ำมันดอกทานตะวัน) ถั่ว เมล็ดพืช อะโวคาโด และผักใบเขียว เป็นต้น
ด่านสุดท้าย: พบกับ "นักเวทย์เรสเวอราทรอล" ผู้มีพลังลึกลับ
มาถึงด่านสุดท้ายของการผจญภัยของเราแล้วครับ ด่านนี้เราจะได้พบกับ "นักเวทย์เรสเวอราทรอล" ครับ "เรสเวอราทรอล" เป็นเหมือนนักเวทย์ที่มีพลังลึกลับในการปกป้องหัวใจและหลอดเลือดของเรา
"เรสเวอราทรอล" เป็นสารพฤกษเคมีที่พบมากในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ องุ่น ถั่วลิสง และโกโก้ มีงานวิจัยที่บอกว่า "เรสเวอราทรอล" อาจจะมีคุณสมบัติในการปกป้องหัวใจและหลอดเลือด
ในการวิจัยหนึ่งที่ศึกษาในผู้ป่วยความดันโลหิตสูง 80 คน พบว่าการเสริมเรสเวอราทรอล 400 มิลลิกรัมต่อวัน เป็นเวลา 6 เดือน ร่วมกับการรักษาความดันโลหิตสูงแบบมาตรฐาน สามารถช่วยลดขนาดห้องหัวใจห้องบนซ้าย ลดอัตราส่วน E/e เพิ่ม left ventricular global longitudinal strain และลด biomarkers ของ cardiac fibrosis เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้รับเรสเวอราทรอล
แต่ในการวิจัยนี้ ไม่พบความแตกต่างในโครงสร้างของหัวใจห้องล่างซ้าย ความแข็งตัวของหลอดเลือดแดง หรือความดันโลหิต ระหว่างกลุ่มที่ได้รับเรสเวอราทรอลกับกลุ่มควบคุม
ถึงแม้ว่างานวิจัยในคนเกี่ยวกับเรสเวอราทรอลจะยังมีจำกัด แต่ผลการศึกษาในสัตว์ทดลองก็แสดงให้เห็นถึงประโยชน์ต่อหัวใจและหลอดเลือด และงานวิจัยในคนบางชิ้นก็มีแนวโน้มที่ดี ดังนั้น "เรสเวอราทรอล" จึงเป็นสารพฤกษเคมีที่น่าสนใจ และอาจจะมีบทบาทในการป้องกันและรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือดในอนาคต
เราจะพบ "นักเวทย์เรสเวอราทรอล" ได้ที่ไหน? แหล่งอาหารที่สำคัญของเรสเวอราทรอลก็คือ องุ่น ไวน์แดง ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ (เช่น บลูเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ แครนเบอร์รี่) ถั่วลิสง และดาร์กช็อกโกแลต การกินอาหารเหล่านี้ในปริมาณที่เหมาะสม อาจจะเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดได้ครับ
บทสรุป: จบการผจญภัย กลับสู่เมืองอย่างปลอดภัย
จบการผจญภัยของเราแล้วครับ จากการเดินทางครั้งนี้ เราได้เรียนรู้ว่า "โภชนาการ" มีบทบาทสำคัญในการปกป้องเมืองของเราจากความดันโลหิตสูง เราได้พบกับเหล่าฮีโร่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น "อัศวินแมกนีเซียม" "นางฟ้าวิตามินอี" และ "นักเวทย์เรสเวอราทรอล" และเรายังได้เผชิญหน้ากับ "จอมวายร้ายโซเดียม" และรู้วิธีที่จะจัดการกับมัน
การลดปริมาณเกลือในอาหาร การได้รับ "แมกนีเซียม" และ "วิตามินอี" ในปริมาณที่เหมาะสม และการบริโภคสารพฤกษเคมีอย่าง "เรสเวอราทรอล" อาจจะเป็นกุญแจสำคัญในการดูแลสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดของเราให้แข็งแรงและป้องกันความดันโลหิตสูงได้
แต่สิ่งที่ผมอยากจะย้ำเตือนทุกคนก็คือ ข้อมูลเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการผจญภัยที่เราได้บันทึกไว้ ยังมีการผจญภัยอีกมากมายที่เราต้องออกไปค้นหาและเรียนรู้ ดังนั้น ถ้าคุณมีความกังวลเรื่องความดันโลหิตสูง หรืออยากจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น ผมขอแนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเช่น แพทย์ หรือนักโภชนาการ เพื่อขอคำแนะนำที่เหมาะสมกับตัวคุณเป็นการส่วนตัวนะครับ
หวังว่าการผจญภัยครั้งนี้จะสนุกและมีประโยชน์สำหรับทุกคนนะครับ แล้วพบกันใหม่ในการผจญภัยครั้งหน้า
เอกสารอ่านเพิ่มเติม
1.
https://www.nature.com/articles/s41440-024-02089-5
สุขภาพ
ข่าวรอบโลก
ความรู้รอบตัว
บันทึก
3
2
1
3
2
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย