Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
MONEY LAB
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
เมื่อวาน เวลา 12:38 • หุ้น & เศรษฐกิจ
สรุป ความเป็นไปได้ CPALL ซื้อบริษัทแม่ 7-Eleven จะคุ้มหรือไม่ ในมุม MONEY LAB
ถ้าตอนนี้เราเป็นผู้บริหารของบริษัทที่มีมูลค่าเกือบ 500,000 ล้านบาท และเราจำเป็นต้องตัดสินใจเดินหมากทางธุรกิจครั้งสำคัญ ที่จะมีผลกระทบกับบริษัทไปอีกอย่างน้อย 1 ทศวรรษ
เราคงจะต้องถามตัวเองอยู่ซ้ำ ๆ ว่า เราควรจะตัดสินใจอย่างไร ?
วินาทีนี้ คือช่วงเวลาสำคัญ อีกครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของ CPALL และผู้ถือหุ้นทุกคน
1
เพราะตอนนี้ CPALL กำลังอยู่ในทางแยก 2 ทาง ระหว่างช่วยบริษัทแม่ 7-Eleven อย่าง Seven & i Holdings เข้าซื้อหุ้นเพื่อป้องกันการโดนฮุบกิจการ และการเลือกที่จะอยู่เฉย ๆ ไม่ทำอะไรเลย
จริง ๆ แล้วก็ต้องบอกว่า ศึกนี้ไม่ใช่ศึกของ CPALL โดยตรง เพราะตัว CPALL เอง ก็กำลังแบกหนี้สินของตัวเองประมาณ 318,000 ล้านบาท อยู่แล้ว
จากดีลการเข้าซื้อกิจการร้านค้าส่ง Makro และร้านค้าปลีก Lotus’s ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งทั้ง 2 ดีลนี้ก็เป็นดีลใหญ่ ไม่ต่างอะไรจากดีลที่กำลังเป็นข่าวอยู่ตอนนี้เลย
นั่นจึงนำมาสู่คำถาม ที่ทุกคนน่าจะสงสัยกันก็คือ แล้ว CPALL มีทางเลือกในการเดินเกมธุรกิจในครั้งนี้ อย่างไรบ้าง
และผลจากการเลือกของ CPALL ในแต่ละทาง จะส่งผลต่อทิศทางของบริษัท และผู้ถือหุ้นซึ่งเป็นเจ้าของบริษัท ต่อจากนี้อย่างไรบ้าง ?
MONEY LAB จะย่อยเรื่องการเงิน การลงทุนให้เข้าใจง่าย ๆ
อย่างแรก CPALL เลือกไม่ลงทุน และโฟกัสธุรกิจตัวเองต่อไป
เมื่อดูจากราคาหุ้น CPALL นับตั้งแต่มีกระแสข่าวออกมาว่าทาง CPALL จะเข้าไปช่วยซื้อหุ้น Seven & i Holdings ราคาหุ้นของ CPALL ก็ตกลงไปแล้วมากกว่า 15%
เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่า นักลงทุนกำลังมองว่าดีลการเข้าซื้อหุ้นในครั้งนี้ ไม่น่าจะเป็นดีลการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับ CPALL สักเท่าไรนัก
หากผู้บริหารมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันกับนักลงทุน และตัดสินใจไม่เข้าไปช่วยซื้อหุ้น Seven & i Holdings
9
CPALL ก็แค่บริหารธุรกิจที่อยู่ในมือเหมือนเดิม ซึ่งก็ล้วนแต่เป็นธุรกิจที่มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1
แม้ตอนนี้ CPALL จะมีหนี้เงินกู้ยืมอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ด้วยความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดของธุรกิจในเครือ ก็จะทำให้บริษัทสามารถจ่ายหนี้เงินกู้ยืมไปได้ทั้งหมด
และบริษัทก็จะสามารถประหยัดดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายปีละกว่า 10,000 ล้านบาทได้สำเร็จ
เราลองมาดูกระแสเงินสดอิสระที่ CPALL ทำได้ในช่วง 3 ปีล่าสุดกัน
5
ปี 2021 มีกระแสเงินสดอิสระ 32,247 ล้านบาท
ปี 2022 มีกระแสเงินสดอิสระ 44,175 ล้านบาท
ปี 2023 มีกระแสเงินสดอิสระ 62,901 ล้านบาท
และล่าสุดคือ ช่วง 9 เดือนแรกของปี 2024 มีกระแสเงินสดอิสระ 26,384 ล้านบาท
เมื่อดูแนวโน้มกระแสเงินสดอิสระในช่วง 3 ปีย้อนหลัง ก็ต้องบอกว่า CPALL กำลังทำได้ดี
และถ้าบริษัทไม่ก่อหนี้เพิ่ม แล้วนำกระแสเงินสดอิสระทั้งหมดไปจ่ายคืนเงินกู้ยืมที่ตอนนี้มีอยู่ราว 318,000 ล้านบาท
อย่างน้อยภายใน 10 ปี เราก็น่าจะได้เห็น CPALL จ่ายคืนหนี้เงินกู้ยืมได้ทั้งหมด
และจะส่งผลให้ CPALL มีกำไรเพิ่มขึ้น จากดอกเบี้ยที่ไม่ต้องแบกอีกต่อไปแล้ว ถึงปีละ 10,000 ล้านบาท..
ทีนี้ เราลองมาดูการเดินหมากแบบที่ 2 ของ CPALL กันบ้าง คือการที่ CPALL ตัดสินใจลงเรือลำเดียวกับ Seven & i Holdings
2
เมื่อดูจากราคาหุ้นที่ลดลงอย่างรุนแรง ดูเหมือนว่านักลงทุนส่วนใหญ่จะไม่เห็นด้วยกับดีลนี้เท่าไรนัก
เพราะถ้าอ้างอิงจากบทวิเคราะห์ของบัวหลวง ที่บอกว่า CPALL ตอนนี้มีต้นทุนในการกู้ยืมเงินอยู่ที่ประมาณ 4%
และจากรายงานข่าวของ Bloomberg ล่าสุด ที่ออกมาบอกว่า CPALL อาจจะใช้เงินเข้าซื้อหุ้น Seven & i Holdings สูงถึงประมาณ 110,000 ล้านบาท
เมื่อดูจากราคาหุ้นของบริษัท Seven & i Holdings ตอนนี้ที่มีราคาอยู่ที่ หุ้นละ 529 บาท
ซึ่งถ้าเอามูลค่าเข้าซื้อ ไปหารกับมูลค่าตลาดของบริษัท ก็จะออกมาว่า CPALL น่าจะมีสัดส่วนการถือครองหุ้น Seven & i Holdings ประมาณ 8% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด
โดยตามหลักการบัญชีแล้ว หากบริษัทถือหุ้นในบริษัทใดก็ตามไม่เกิน 20% สิ่งที่บริษัทจะได้รับก็คือ เงินปันผลของบริษัทนั้น แต่ถ้าเกิน 20% ถึงจะเป็นส่วนแบ่งกำไร
ซึ่งถ้าอ้างอิงจากงบการเงิน งวดปีล่าสุด บริษัท Seven & i Holdings จ่ายเงินปันผลต่อหุ้นอยู่ที่ 8.85 บาท คิดเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทนเพียง 1.6% เท่านั้น
เทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมที่สูงถึง 4% ก็ต้องบอกว่า ดีลนี้น่าจะทำให้ CPALL ที่รับเงินปันผลจาก Seven & i Holdings ขาดทุนเข้าเนื้อตัวเองไปเกือบ 3%
1
อย่างไรก็ตาม ถ้าหากมองในด้านของโอกาส กลุ่ม CP ก็น่าจะมีความสัมพันธ์อันดีกับตระกูล Ito เจ้าของ Seven & i Holdings อยู่ไม่น้อย
เพราะถึงขนาดมีการชักชวนให้กลุ่ม CPALL ไปช่วยซื้อหุ้น เพื่อป้องกันการถูกฮุบกิจการ
จึงเป็นไปได้ว่า กลุ่ม Ito อาจจะยื่นผลประโยชน์อะไรบางอย่างให้กับ CPALL เช่น การลดค่า License แฟรนไชส์ หรือการเปิดทางให้ CPALL เข้าไปทำธุรกิจ 7-Eleven ในประเทศอื่น เพื่อเป็นการตอบแทนในการช่วยเหลือ
นอกจากนี้ยังมีอีกเรื่องที่น่าสนใจก็คือ Itochu เจ้าของ Family Mart ก็ถูกตระกูล Ito ชักชวนให้เข้ามาซื้อหุ้นในครั้งนี้ด้วย
1
และกลุ่ม CP ก็เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับ 2 ของ Itochu ด้วยสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 4% อยู่ด้วย
1
ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ ที่อาจจะมีการร่วมมือกันกับ Family Mart ในอนาคต และเป็นการเพิ่มอำนาจในการออกเสียงใน Seven & i Holdings ทางอ้อมอีกทางของกลุ่ม CP นั่นเอง
2
จากอัปเดตล่าสุดที่ CPALL เองไม่ได้ปฏิเสธว่าไม่สนใจดีลนี้ และอัปเดตจาก Bloomberg ก็ดูมีความเป็นไปได้สูงว่า CPALL น่าจะเลือกทางเดินที่ 2
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ไพ่ยังถูกเปิดออกมาไม่หมด เพราะยังไม่มีใครรู้เลยว่าทาง Seven & i Holdings มีการเสนอผลประโยชน์อะไร เพื่อแลกกับความช่วยเหลือจาก CP ในครั้งนี้
1
ทำให้สุดท้ายแล้ว ถ้าถามว่า การลงทุนครั้งนี้ CPALL จะคุ้มค่าหรือไม่ ก็คงต้องให้เพื่อน ๆ ของ MONEY LAB ที่เป็นผู้อ่าน ลองคิดกันเอาเองดู
เพราะการตัดสินใจในวันนี้ คนที่จะบอกว่าถูกต้องหรือไม่ ก็คือตัวเราเอง ในอีกหลายปีข้างหน้า..
เราเองจึงควรต้องชั่งน้ำหนักให้ดี ระหว่างภาระหนี้สินที่จะเพิ่มขึ้นมาของบริษัท กับโอกาสการเติบโตในอนาคตของ CPALL ที่อาจจะมีความร่วมมือดี ๆ กับทาง Seven & i Holdings ก็เป็นได้
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ การสำรวจตัวเองว่า เราสามารถรับความเสี่ยงจากการลงทุนในครั้งนี้ ได้หรือไม่..
#ลงทุน
#หุ้นไทย
#CPALL
References
-
https://www.7andi.com/en/ir/stocks/dividend.html
-
https://www.bloomberg.com/news/articles/2025-02-06/seven-i-consortium-said-to-tap-bofa-citi-for-buyout-financing
-
https://www.settrade.com/th/research/iaa-consensus/298260
-งบการเงินประจำปี 2564, 2565 และ 2566 ของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)
-งบการเงินงวด 9 เดือนแรกปี 2567 ของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)
1
51 บันทึก
79
4
89
51
79
4
89
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย