[ #คนดังกับการเงิน ] ติดหนี้ งัดกระปุกเหลือเงิน 7 บาท เพื่อซื้อบะหมี่กึ่งฯ
บทเรียนทางการเงินจากชีวิตจริงของร็อคเกอร์สาว อินบูโดกัน
หากพูดถึงเพลงฮิตที่ตราตรึงใจแฟนเพลงไทยมาหลายสิบปี หนึ่งในนั้นต้องมีเพลง "ขอให้เหมือนเดิม" ของนักร้องที่ชื่อว่า “อิน บูโดกัน” นักร้องสาวขาร็อคที่เป็นที่รักของใครหลายคน หลายคนคงได้ยินและได้ฟังเพลงของเขาจนคุ้นหู แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่า “หนี้สิน” เคยคุกคามคุณอินเหมือนกับที่เราหลายคนกำลังโดนอยู่เหมือนกัน
วันนี้เราจะมาดูกันว่า เบื้องหลังเสียงเพลงที่แข็งแกร่งและเต็มไปด้วยพลังของเธอ เธอผ่านอะไรมาบ้าง?
[ ประวัติส่วนตัว ⭐️ ]
อิน บูโดกัน หรือ อินทิรา ยืนยง เป็นนักร้องนำของวงร็อกหญิงชื่อดัง บูโดกัน ที่เคยสร้างปรากฏการณ์ในวงการเพลงไทยช่วงยุค 90s ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวและเนื้อร้องที่จับใจ ทำให้เธอและวงเป็นที่จดจำของแฟนเพลงมายาวนาน ภายใต้สังกัดค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง GMM Grammy เธอประสบความสำเร็จอย่างมากในฐานะศิลปินหญิงที่มีสไตล์โดดเด่นเฉพาะตัว
นอกจากการเป็นนักร้อง อินยังรับบทบาทเป็น ครูสอนร้องเพลง ให้กับรายการ True Academy Fantasia ซึ่งเป็นเวทีที่ปั้นศิลปินรุ่นใหม่เข้าสู่วงการบันเทิง อย่างไรก็ตาม เธอเคยเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก จนต้องห่างหายจากวงการเพลงชั่วระยะหนึ่ง เธอเปิดเผยภายหลังว่าปัจจัยที่ทำให้ท้อใจมาจากปัญหาลิขสิทธิ์เพลงละเมิดลิขสิทธิ์ (แผ่นผี) และผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ จนต้องหันมายึดอาชีพ ครูสอนดนตรี เป็นหลัก พร้อมกับลงทุนทำธุรกิจร้านอาหารและโรงเรียนสอนร้องเพลงร่วมกับสามี
ปัจจุบัน อิน บูโดกัน ดำรงตำแหน่ง ผู้บริหารค่ายเพลง M2K ENTERTAINMENT โดยมุ่งหวังจะใช้ประสบการณ์กว่า 30 ปีของเธอในการผลักดันอุตสาหกรรมเพลงไทยให้ก้าวสู่มาตรฐานระดับสากล
[ ประสบการณ์ติดหนี้ จนต้องงัดกระปุกเพื่อหาเงิน ซื้อบะหมี่กึ่งฯ 🍜 ]
ในปี 2019 คุณอินได้มาเปิดใจในรายการ Woody World เกี่ยวกับช่วงเวลาที่แทบไม่มีใครคาดคิด นั่นคือวิกฤติการเงินครั้งใหญ่ที่ผ่านมา
เธอเล่าว่า มีช่วงหนึ่งที่ทั้งเธอและสามีมีเงินเหลือติดตัวเพียง 7 บาท ในกระปุกออมสิน ต้องงัดออกมาใช้ซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพื่อประทังชีวิต ท่ามกลางภาระหนี้สินที่หนักอึ้ง
โชคดีที่เธอยังมีงานร้องเพลงประจำในร้านอาหาร แม้รายได้ส่วนใหญ่ต้องนำไปจ่ายหนี้ แต่ก็ยังพอมีเงินหมุนเวียนเลี้ยงชีวิตคู่
[ การลงทุนที่ผิดพลาดและบทเรียนราคาแพง 🔍 ]
สาเหตุหลักของหนี้สินในครั้งนี้คือการที่อินเลือกลงทุนในธุรกิจหลายประเภท ทั้งโรงเรียนดนตรีและร้านอาหาร แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จ ตามที่หวังไว้ ในรายการคุณอินได้เล่าถึงสาเหตุว่าเป็นเพราะการขาดความรู้ด้านธุรกิจอย่างลึกซึ้งและการบริหารเงินที่ไม่รัดกุมพอ ทำให้เธอเข้าสู่สถานการณ์ที่ยากลำบาก
นอกจากเงินทองและทรัพย์สินที่ต้องสูญเสียไป แต่สิ่งที่ทำให้คุณอินถึงกับต้องหลั่งน้ำตาเมื่อเล่าถึงเรื่องนี้คือ #มิตรภาพ ที่พังลงไป
คุณอินเล่าว่าในตอนนั้น เธอมีเจ้าหนี้หลายเจ้าและหนึ่งในเจ้าหนี้ตอนนั้นคือเพื่อนสนิทคนหนึ่งของเธอ ตอนนั้นเธอก็บอกกับเพื่อนไปตรงๆ ว่า
“ขอเอาเงิน ไปจ่ายพวกที่ต้องเสียดอกเบี้ยก่อนได้ไหม ถ้าปิดหนี้ตรงนี้หมดแล้วก็จะมีเงินส่งให้คุณ ทุกเดือนเดือนละห้าหมื่นบาท”
คุณอินเล่ากับคุณวู้ดดี้ว่าสถานการณ์ในตอนนั้น ความจริงใจของเธอไม่ได้รับการเข้าใจอย่างที่คิดไว้ และถึงแม้เธอจะไม่ได้โกหกเพื่อนเลย แต่นั่นก็ทำให้ความสัมพันธ์ขาดสะบั้น เพื่อนของเธอคงรู้สึกเหมือนถูกทิ้งให้อยู่ท้ายแถว ทั้งที่เขายื่นมือช่วยโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน สุดท้ายความสัมพันธ์ก็พังลง
อย่างไรก็ตาม คุณอินก็ยังตั้งใจที่จะใช้หนี้ต่อ และไม่ลืมบุญคุณเพื่อนคนนั้น ตอนนั้นคุณอินเล่าว่าสิ่งที่เธอต้องทำคือจัดระเบียบการเงินและบริหารหนี้ใหม่
“บางทีอินมีเจ้าหนี้ 10 เจ้าเลย อินก็คำนวณเลยว่างานจะเข้าวันไหน โอเค อีก 7 วันเงินจะเข้าห้าหมื่น เดี๋ยวเฉลี่ยให้เท่าๆกันเลย แล้วจดไว้”
และอีกทางที่คุณอินเลือกก็คือการเดินไปขอกู้ยืมจากธนาคาร คุณอินบอกว่าให้เข้าไปแล้ว ไม่ต้องอาย
“ไม่ต้องอายเลย บอกเขาไปตรงๆ เขาจะหาวิธีช่วยเรา”
[ เปลี่ยนวิธีคิดเรื่องหนี้ โดยคุณวู้ดดี้ ]
ท้ายการสัมภาษณ์ คุณวู้ดดี้ได้ชวนให้คุณอินลองคิดใหม่
คุณวู้ดดี้: ทำยังไงจะหาเงินได้เดือนละล้าน
คุณอิน: ยากนะ อันนี้
คุณวู้ดดี้: ลองเปลี่ยนคำพูดก่อนสิ ลองบอกว่ามันคือ “ความท้าทาย” หาเงินให้ได้ 250,000 ต่ออาทิตย์ 14 ชั่วโมงต่อวัน ชั่วโมงละ 2,500
คุณอิน: เออๆ ไหวเว้ย
และตอนท้ายคุณวู้ดดี้บอกกับคุณอินว่า “เราว่านะสิ่งที่จะหาเงินได้ดีที่สุดคือสิ่งที่อยู่กับตัวเรา แต่เราไม่รู้ตัว”
[ บทสรุป ✅ ]
เรื่องราวของอิน บูโดกัน เป็นเครื่องเตือนใจว่าการเงินเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ไม่ว่าคุณจะเป็นศิลปิน นักธุรกิจ หรือคนทำงานทั่วไป สิ่งที่เราเรียนรู้จากเรื่องนี้ได้มีดังนี้
1. อย่าลงทุนโดยขาดความรู้และแผนสำรอง
คุณอิน แม้จะประสบความสำเร็จในการเป็นศิลปินมากๆ แต่การเลือกลงทุนในหลายธุรกิจพร้อมกัน โดยที่ไม่มีความรู้หรือความเข้าใจ แม้จะมีทั้งชื่อเสียงและเงินทอง การลงทุนก็กลายเป็น “ความเสี่ยง” ได้เช่นกัน
2. อย่าลืมว่าหนี้ไม่ได้มีแค่เรื่องเงิน แต่มันกระทบ “ความสัมพันธ์” ด้วย
หนึ่งในเรื่องที่คุณอินเสียใจที่สุดคือการสูญเสียมิตรภาพ เพราะการบริหารหนี้ที่ผิดพลาดทำให้เพื่อนสนิทเข้าใจผิดและความสัมพันธ์ขาดสะบั้น หนี้จากคนใกล้ตัวเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ควรมีข้อตกลงที่ชัดเจน การสื่อสารต้องโปร่งใส อย่าปล่อยให้ความไม่เข้าใจทำลายความสัมพันธ์
3. เปลี่ยนมุมมองต่อปัญหา—จาก “อุปสรรค” สู่ “ความท้าทาย”
แนวคิดของคุณวู้ดดี้ที่สื่อสารกับคุณอิน นอกจากจะทำให้คุณอินมีมุมมองที่ดีขึ้นเกี่ยวกับหนี้แล้ว ถ้าเราเอามาคิดกับมุมของเราการค่อยๆ คิดแบบนี้ก็ช่วยให้เราสามารถมองเห็นทางออกได้ เช่นกัน เพราะปัญหาที่ดูใหญ่ ถ้าผ่านการค่อยๆ ย่อเป้าหมายให้เล็กลงและจัดการทีละขั้น ปัญหานั้นก็จะเล็กลงได้ และที่สำคัญอย่าหลงลืมที่จะใช้ทักษะที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์ เพราะโอกาสที่ดีที่สุดอาจอยู่ใกล้ตัวเรามาตลอด
#aomMONEY #อินบูโดกัน #การเงินส่วนบุคคล #บทเรียนการเงิน
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
