Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Vate's Pharma Scope
•
ติดตาม
14 ก.พ. เวลา 12:20 • สุขภาพ
ปริศนาพันธุกรรม "อัลไซเมอร์วัยหนุ่มสาว" เมื่อรหัสชีวิตซ่อนความลับที่เราเพิ่งค้นพบ
สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้ผมอยากจะชวนทุกคนมาฟังเรื่องราวที่เหมือนนิยายนักสืบ แต่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในห้องปฏิบัติการวิจัย และมีความหมายต่อชีวิตของผู้คนมากมาย เรื่องราวนี้เริ่มต้นจาก "โรคอัลไซเมอร์ชนิดเริ่มแรก" หรือที่เราเรียกกันว่า "อัลไซเมอร์วัยหนุ่มสาว" ภาวะที่ความทรงจำค่อยๆ เลือนหายไปในวัยที่ไม่ควรจะเป็น...
ลองนึกภาพนะครับ ชายหนุ่มวัยกลางคน กำลังอยู่ในช่วงชีวิตที่สดใส ทั้งหน้าที่การงานที่กำลังก้าวหน้า และครอบครัวที่อบอุ่น แต่แล้ววันหนึ่ง เขาก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองขี้หลงขี้ลืมมากขึ้นเรื่อยๆ จากเรื่องเล็กน้อย กลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และในที่สุด เขาก็ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น "อัลไซเมอร์ชนิดเริ่มแรก" (EOAD)
เรื่องราวแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนักครับ แต่ก็ไม่ได้หายากจนเกินไป และสำหรับผู้ที่เผชิญกับภาวะนี้ มันคือจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ในชีวิต เพราะอัลไซเมอร์ชนิดเริ่มแรกมักจะมาพร้อมกับความรุนแรงของอาการที่มากกว่า และการวินิจฉัยที่ล่าช้า ทำให้การรับมือกับโรคนี้เป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างยิ่ง
นักสืบพันธุกรรม: ตามหาร่องรอยใน "หนังสือคู่มือชีวิต"
ทีมนักวิจัยจากจีนกลุ่มหนึ่ง เปรียบเสมือน "นักสืบพันธุกรรม" ครับ พวกเขาต้องการที่จะเจาะลึกเข้าไปใน "หนังสือคู่มือชีวิต" หรือก็คือจีโนมของผู้ป่วยอัลไซเมอร์ชนิดเริ่มแรก เพื่อค้นหาร่องรอย หรือรหัสพันธุกรรมที่อาจเป็นกุญแจสำคัญในการไขปริศนาของโรคนี้
พวกเขาใช้วิธีการที่เรียกว่า "Whole-Genome Sequencing" หรือ WGS ซึ่งก็เหมือนกับการอ่านหนังสือคู่มือชีวิตทั้งเล่มอย่างละเอียด เพื่อหาตัวอักษรหรือคำที่ผิดปกติไปจากเดิม หรือที่เราเรียกว่า "การกลายพันธุ์" (mutation)
การกลายพันธุ์แบบไหนที่นักสืบพันธุกรรมสนใจ? ในการสืบสวนครั้งนี้ นักวิจัยให้ความสนใจกับการกลายพันธุ์ 2 ประเภทหลักๆ ครับ
1. การกลายพันธุ์แบบโซมาติก (Somatic mutation) เป็นการกลายพันธุ์ที่เกิดขึ้นภายหลังการกำเนิด ไม่ได้มาจากพ่อแม่ เหมือนผู้ร้ายเงียบที่แอบเข้ามาเปลี่ยนแปลงเซลล์บางส่วนในร่างกายของเรา
2. การกลายพันธุ์แบบเจิร์มไลน์ (Germline mutation) เป็นการกลายพันธุ์ที่อยู่ใน "เซลล์ต้นกำเนิด" หรือเซลล์สืบพันธุ์ (สเปิร์มหรือไข่) และสามารถส่งต่อไปยังรุ่นลูกรุ่นหลานได้ เหมือนรหัสกรรมที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น
เปิดโปง "ผู้ต้องสงสัย" รหัสพันธุกรรมที่เชื่อมโยงกับอัลไซเมอร์วัยหนุ่มสาว
หลังจากที่นักสืบพันธุกรรมได้อ่านหนังสือคู่มือชีวิตของผู้ป่วย EOAD และกลุ่มควบคุม (คนปกติ) อย่างละเอียด พวกเขาก็พบผู้ต้องสงสัยที่น่าสนใจหลายรายครับ
"ภาระที่หนักอึ้ง" – การกลายพันธุ์แบบโซมาติกที่มากกว่า: ผู้ป่วย EOAD มีภาระของการกลายพันธุ์แบบโซมาติกในเลือดสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การกลายพันธุ์ที่ชื่อว่า "SBS5" ซึ่งเกี่ยวข้องกับความชรา พบได้บ่อยในผู้ป่วย EOAD มากกว่ากลุ่มควบคุม เหมือนว่าความชราไม่ได้เป็นแค่เรื่องของอายุ แต่อาจมีร่องรอยทางพันธุกรรมที่ซ่อนอยู่ และเพิ่มความเสี่ยงต่อ EOAD ได้
"แก๊งค์ยีนตัวร้าย" – ยีนเด่นที่พัวพันกับ EOAD นักวิจัยระบุแก๊งค์ยีนหลายตัวที่มีการกลายพันธุ์แบบโซมาติกที่จำเพาะต่อ EOAD เช่น MIR31HG, TUBB4B, และ APP ยีนเหล่านี้เกี่ยวข้องกับกระบวนการสำคัญในเซลล์ เช่น การทำงานของ "โปรตีนมอเตอร์" (motor proteins) ที่เหมือนคนงานขนส่งในเซลล์, "การเชื่อมต่อระหว่างเซลล์" (gap junctions) ที่เหมือนช่องทางการสื่อสารระหว่างเซลล์, และกระบวนการ "เนครอปโทซิส" (necroptosis) หรือการตายของเซลล์แบบพิเศษ
"ตัวกำหนดเวลา" – ยีนเจิร์มไลน์ที่บอกอายุของโรค การกลายพันธุ์แบบเจิร์มไลน์ในยีน DOCK3, PCSK5, และ PDE4D มีความสัมพันธ์กับอายุที่เริ่มมีอาการของภาวะสมองเสื่อม เหมือนว่ายีนเหล่านี้เป็นตัวกำหนดเวลาที่ส่งผลต่อช่วงอายุที่โรค EOAD จะปรากฏตัว
"เครื่องมือทำนายอนาคต" – แบบจำลองพยากรณ์ความเสี่ยง นักวิจัยได้สร้างเครื่องมือที่น่าทึ่งขึ้นมา นั่นคือ "แบบจำลองพยากรณ์" (predictive model) โดยใช้การกลายพันธุ์ 15 จุด เพื่อทำนายความเสี่ยงในการเกิด EOAD เครื่องมือนี้มีความแม่นยำพอสมควร (AUC = 0.78) เหมือนเรามีแผนที่นำทางที่ช่วยให้เรารู้ว่าใครบ้างที่อาจต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ
จากปริศนาพันธุกรรม สู่หนทางรับมืออัลไซเมอร์
การค้นพบของนักสืบพันธุกรรมกลุ่มนี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่รายงานผลวิจัยครับ แต่มันคือ "ความหวัง" สำหรับผู้ป่วย EOAD และครอบครัว เพราะความเข้าใจในรหัสพันธุกรรมที่ซับซ้อนของโรคนี้ อาจนำไปสู่
1. ยาและวิธีรักษาแบบใหม่ เมื่อเรารู้จักผู้ร้ายดีขึ้น เราก็สามารถคิดค้นอาวุธหรือยาที่ตรงจุด เพื่อจัดการกับพวกมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. การวินิจฉัยที่รวดเร็วและแม่นยำ เครื่องมือทำนายอนาคตที่นักวิจัยสร้างขึ้น อาจช่วยให้เราตรวจพบ EOAD ได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ก่อนที่อาการจะรุนแรง
3. การป้องกันและชะลอโรค ถ้าเรารู้ว่าอะไรคือ "ปัจจัยเสี่ยง" ทางพันธุกรรมและปัจจัยอื่นๆ เราก็อาจจะหาวิธีป้องกันหรือชะลอการเกิดโรคได้ในอนาคต
แต่การสืบสวนยังไม่จบครับ
งานวิจัยนี้เป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น ยังมีปริศนาอีกมากมายที่รอการไข เช่น ผลลัพธ์นี้อาจใช้ได้กับคนจีนเป็นหลัก แล้วคนชาติอื่นๆ ล่ะ? เราต้องศึกษาเพิ่มเติมในกลุ่มตัวอย่างที่ใหญ่ขึ้น และเจาะลึกไปถึงกลไกการทำงานของการกลายพันธุ์เหล่านี้ในระดับเซลล์และโมเลกุล
1
บทส่งท้าย: จุดประกายความหวัง และคำถามที่รอคำตอบ
เรื่องราวของ "อัลไซเมอร์วัยหนุ่มสาว" และการไขปริศนาพันธุกรรมในครั้งนี้ สอนให้เรารู้ว่า แม้ในความมืดมิด ยังมีความหวังซ่อนอยู่เสมอ การค้นพบร่องรอยพันธุกรรมที่ซับซ้อนของโรคนี้ในคนจีน เปรียบเสมือน "แผนที่" ที่นำทางเราไปสู่ความเข้าใจที่ดีขึ้น และหนทางใหม่ในการรับมือกับโรคนี้
คำถามที่ผมอยากจะทิ้งท้ายไว้ให้ทุกท่านได้ขบคิด ผลงานวิจัยนี้จะถูกนำไปต่อยอดอย่างไรในประเทศไทย? เราควรสนับสนุนงานวิจัยทางพันธุกรรมของโรคอัลไซเมอร์ในประชากรไทยหรือไม่?
2
ผมเชื่อว่าความรู้คือพลังยิ่งเรารู้จักโรคอัลไซเมอร์มากขึ้นเท่าไหร่ เราก็ยิ่งมี "พลัง" ที่จะเอาชนะโรคนี้ได้มากขึ้นเท่านั้นครับ
ขอบคุณที่ติดตามเรื่องราวการสืบสวนพันธุกรรมในครั้งนี้ หวังว่าเรื่องราวนี้จะเป็นประโยชน์และจุดประกายความคิดให้กับทุกท่านนะครับ
เอกสารอ่านเพิ่มเติม
1.
https://alz-journals.onlinelibrary.wiley.com/doi/full/10.1002/alz.14486
สุขภาพ
ข่าวรอบโลก
ความรู้รอบตัว
บันทึก
3
3
3
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย