7 ก.พ. เวลา 00:33 • ความคิดเห็น
หลายๆประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว จำนวนประชากรมีแนวโน้มลดลงทุกประเทศค่ะ
แม้จะเค้นสมองระดมมาตรการจูงใจให้ผลิตลูก ก็ไม่ค่อยได้ผลค่ะ หลายๆประเทศจึงใช้วิธี "ดึงคนชาติอื่น มาเป็นประชากรของตน" ซะเลย
การให้สัญชาติแบบเดิมๆที่พวกเรารู้ๆกันอยู่ เช่น ตามคู่สมรส (ได้สัญชาติจากการแต่งงาน) หรือรับเป็นบุตรบุญธรรม หรือเป็นนักธุรกิจ เป็นต้น แต่บางประเทศก็มีมาตรการอื่นๆเพิ่มเติม เช่น
อังกฤษ – ให้สัญชาติกับบางกลุ่มวิชาชีพที่ขาดแคลน (เช่นพยาบาล)
สิงคโปร์ – ปีที่แล้วสิงคโปร์ให้สัญชาติแก่ชาวเมียนมา กว่า 300 คนซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานชาวเมียนมาที่พำนักอยู่ในสิงคโปร์
เกาหลี – ทารกเกิดใหม่ในเกาหลีใต้ มีจำนวนลดลงต่อเนื่องมาหลายปีแล้ว แต่กลับมีทารกถูกทิ้งหลังคลอดจำนวนมากขึ้นทุกปี
รบ.เกาหลีรับมือกับปัญหานี้อย่างน่าสนใจเลยนะ ทั้งการแก้กม.เพื่อให้เอื้อต่อการรับบุตรบุญธรรม ลดขั้นตอนความยุ่งยากต่างๆลง ชาวต่างชาตินิยมรับเด็กเกาหลีไปเป็นบุตรบุญธรรมเพราะขั้นตอนไม่ยุ่งยากเท่าประเทศอื่น
ไม่เพียงเท่านั้น รบ.เกาหลียังมีระบบตรวจสอบติดตามที่เชื่อถือได้ มีฐานข้อมูลชีวภาพ DNA ฯลฯ เด็กๆเกาหลีพวกนี้เติบโตขึ้นอย่างมีคุณภาพ และมีหลายเคสที่กลับมาสร้างประโยชน์ให้ประเทศเมื่อพวกเขาโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่
อัตราเกิดต่ำ เป็นกันทั่วโลกค่ะ แต่เกาหลีและญี่ปุ่นเป็นสองชาติที่มีความคล้ายกันอย่างนึงคือ ผู้หญิงในสองประเทศนี้ถูกกดทับโดยระบอบชายเป็นใหญ่
ในญี่ปุ่น เด็กผู้หญิงแม้จะทำคะแนนสอบได้สูงๆแต่กลับถูกกีดกันไม่ให้เรียนแพทย์ ส่วน working women ถึงจะทำงานเก่งแค่ไหนก็ตาม แต่เมื่อมีลูก เส้นทางอาชีพของเธอจะดับวูบลงทันที ต้องออกจากงาน มาอยู่บ้านเลี้ยงลูกฟูลไทม์
คาเฟ่หลายแห่งในเกาหลีมีป้าย no children allowed นี่ก็สะท้อนให้เห็นว่า ความสังคมเกาหลีมีคาดหวังอย่างสูงในตัวผู้เป็นแม่
การเลี้ยงลูกไม่ใช่แค่เรื่องทางกายภาพ หรือปัจจัยทางเศรษฐกิจ แต่กรอบของสังคมในประเทศนั้นๆต่างหากที่เป็นสร้างความกดดันให้ผู้หญิงต้องแบกรับมาโดยตลอด เมื่อมาถึงยุคที่ผู้หญิงมีทางเลือกมากขึ้น เธอจึงเลือกที่จะไม่เป็นเดอะแบกอีกต่อไป!!
โฆษณา