เข้าใจ P/E, PBV, ROE – ตัวช่วยเลือกหุ้นให้ดีขึ้น
เคยไหม? เวลาจะซื้อหุ้นแล้วคิดว่า “หุ้นตัวนี้แพงไปไหม?”, “บริษัทนี้ทำกำไรเก่งหรือเปล่า?”, หรือ “ซื้อแล้วจะคุ้มค่าไหม?”
ถ้าเคยสงสัยแบบนี้ ไม่ต้องห่วง! เพราะเรามี 3 ตัวช่วยสำคัญในการวิเคราะห์หุ้นแบบง่ายๆ ได้แก่ P/E, PBV และ ROE ที่จะช่วยให้เราตัดสินใจลงทุนได้ดีขึ้น
วันนี้เราจะมาเล่าสู่กันฟังว่าแต่ละค่าหมายถึงอะไร และใช้เลือกหุ้นยังไงให้ฉลาดขึ้น
1. P/E (Price to Earnings Ratio) – หุ้นนี้แพงไปหรือยัง?
P/E Ratio คือค่าที่บอกว่า "ถ้าเราซื้อหุ้นตัวนี้ เราต้องใช้เวลากี่ปีถึงจะคืนทุนจากกำไรของมัน" (ถ้ากำไรต่อหุ้นคงที่)
สูตรคำนวณ
P/E = ราคาหุ้น / กำไรต่อหุ้น (EPS)
วิธีใช้ P/E
• P/E ต่ำ → หุ้นอาจถูก คืนทุนเร็ว (แต่ว่าบริษัทอาจโตช้า)
• P/E สูง → หุ้นแพง คืนทุนช้า (แต่บางทีก็เป็นหุ้นเติบโตเร็ว)
ตัวอย่าง:
หุ้น A ราคา 100 บาท และมีกำไรต่อหุ้น 10 บาท
P/E = 100 / 10 = 10 เท่า
แปลว่า ถ้ากำไรคงที่ เราจะคืนทุนใน 10 ปี
🧐 สรุปง่ายๆ:
• ถ้าหุ้นมี P/E ต่ำ อาจหมายถึงว่าหุ้นถูก หรือคนยังไม่ให้มูลค่ามาก
• ถ้าหุ้นมี P/E สูง อาจหมายถึงนักลงทุนเชื่อว่าบริษัทจะโตต่อไป
2. PBV (Price to Book Value) – หุ้นนี้แพงกว่าทรัพย์สินบริษัทไหม?
PBV Ratio ใช้ดูว่า ราคาหุ้นแพงกว่ามูลค่าทางบัญชีของบริษัทแค่ไหน
สูตรคำนวณ
PBV = ราคาหุ้น / มูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น (BVPS)
วิธีใช้ PBV
• PBV < 1 → หุ้นราคาต่ำกว่าทรัพย์สินบริษัท (อาจเป็นหุ้นถูก หรือมีปัญหาบางอย่าง)
• PBV > 1 → หุ้นแพงกว่ามูลค่าทางบัญชี (อาจเป็นบริษัทที่นักลงทุนเชื่อมั่น)
ตัวอย่าง:
หุ้น B ราคาตลาด 50 บาท และมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น 25 บาท
PBV = 50 / 25 = 2 เท่า
แปลว่า นักลงทุนยอมจ่าย 2 เท่าของทรัพย์สินบริษัท
🧐 สรุปง่ายๆ:
• PBV ใช้ดูว่าหุ้นแพงหรือถูกเมื่อเทียบกับมูลค่าบริษัท
• หุ้นบางตัว PBV สูงเพราะแบรนด์แข็งแกร่ง เช่น Apple, Microsoft
3. ROE (Return on Equity) – บริษัทใช้เงินลงทุนคุ้มแค่ไหน?
ROE บอกว่า "บริษัทใช้เงินของผู้ถือหุ้นสร้างกำไรได้ดีแค่ไหน"
สูตรคำนวณ
ROE = กำไรสุทธิ / ส่วนของผู้ถือหุ้น x 100%
วิธีใช้ ROE
• ROE สูง → บริษัทใช้เงินทุนสร้างกำไรได้ดี
• ROE ต่ำ → บริษัทอาจไม่สามารถใช้เงินทุนได้คุ้มค่า
ตัวอย่าง:
บริษัท C มีกำไรสุทธิ 200 ล้านบาท และมีส่วนของผู้ถือหุ้น 1,000 ล้านบาท
ROE = (200 / 1,000) x 100% = 20%
แปลว่า บริษัทสามารถสร้างกำไรได้ 20 บาทต่อเงินทุน 100 บาท
🧐 สรุปง่ายๆ:
• ถ้าหุ้นมี ROE สูง แปลว่าบริษัทมีประสิทธิภาพในการทำกำไร
• ถ้า ROE ต่ำ อาจแปลว่าธุรกิจมีปัญหา หรือขาดความสามารถในการแข่งขัน
สรุปแล้ว
✅ ถ้าหุ้นมี P/E ไม่สูงเว่อร์, PBV ไม่แพงเกินไป, และ ROE สูง → หุ้นอาจน่าสนใจ
🚨 แต่ถ้า P/E สูงเกินไป, PBV แพงเว่อร์, และ ROE ต่ำ → อาจต้องคิดดีๆ ก่อนซื้อ
ข้อควรระวัง!
อย่าดูแค่ P/E, PBV, ROE อย่างเดียว! ต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆ เช่น
✅ แนวโน้มธุรกิจ
✅ สภาพเศรษฐกิจ
✅ คู่แข่งในอุตสาหกรรม
✅ ข่าวสารที่อาจกระทบกำไรของบริษัท
แฮชแท็กที่เกี่ยวข้อง
#หุ้น #ลงทุน #PE #PBV #ROE #เลือกหุ้นยังไง #SeamanInvestor #มือใหม่ลงทุน #ลงทุนง่ายๆ
📌 ฝากไว้ให้คิด:
ถ้าคุณเป็นนักลงทุน อย่าซื้อหุ้นแค่เพราะ “คนอื่นบอกว่าดี” แต่ให้ดูตัวเลข วิเคราะห์ และตัดสินใจด้วยตัวเอง!
หุ้นที่ดี ไม่ใช่หุ้นที่แพงที่สุด หรือถูกที่สุด แต่เป็นหุ้นที่เหมาะกับเราและมีโอกาสเติบโต
📢 แล้วเพื่อนๆ ใช้ P/E, PBV, ROE กันยังไงบ้าง? ลองแชร์ความคิดเห็นกันได้เลย!
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
